เมื่อ Apple โยนหินถามทางในสมรภูมิวิดีโอ

ทุกครั้งที่ Apple เคลื่อนไหว ไม่ว่ามากหรือน้อย ย่อมส่งแรงกระเพื่อมไปทั้งวงการ

หนนี้ก็เช่นกัน เมื่อยักษ์ใหญ่ในแวดวงเทคโนโลยี ขอชิมลางในสมรภูมิวิดีโอ-ออน-ดีมานด์ ด้วยการเตรียมเปิดตัววิดีโอในรูปแบบรายการโทรทัศน์ 2 รายการ คือ Carpool Karaoke และ Planet of the Apps ใน Apple Music บริการมิวสิค-สตรีมมิ่งของบริษัทภายในเดือนหน้า

Jimmy Iovine ผู้ร่วมก่อตั้ง Beats ซึ่งปัจจุบันรับดูแล Apple Music เผยว่านอกจากจะเพิ่มวิดีโอลงใน Apple Music แล้ว ยังมีคอนเทนท์รูปแบบอื่นซึ่งขออุบไว้ก่อน

กระนั้น ก็ยังไม่ถือเป็นการท้าชนเจ้าตลาดตัวจริง อย่าง Netflix หรือ Amazon Prime Videos ที่มีจุดขายอย่างออริจินอลซีรีส์ของตนเอง

คาดกันว่าเป้าหมายหลักของ Apple ซึ่งมีผู้สมัครใช้บริการอยู่แล้วไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคน น่าจะอยู่ที่การสร้างความแตกต่างระหว่าง Apple Music กับเจ้าตลาดในมิวสิค สตรีมมิ่งอย่าง Spotify มากกว่า ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับที่ MTV เคยทำในอดีต คือขยายฐานของตัวเองออกไปไกลกว่าแค่ธุรกิจดนตรี

เนื้อหาของทั้งสองรายการ ก็อยู่ในลักษณะของการต่อยอดจากสิ่งที่ Apple มีอยู่แล้ว คือ เพลง (Carpool Karaoke) และ แอพพลิเคชั่น (Planet of the Apps) ขณะที่รายการในลักษณะซีรีส์อยู่ในระหว่างถ่ายทำ และน่าจะมีกำหนดเปิดตัวในปีหน้า

Iovine ยังแบ่งรับแบ่งสู้ถึงเป้าหมายของ Apple Music ในการแข่งขันกับช่องโทรทัศน์ทั้งเคเบิลและดาวเทียม แต่ขอโฟกัสไปที่การแก้ 2 ปัญหาหลักก่อน คือการมอบประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีให้กับผู้ใช้บริการ และวิธีการที่จะช่วยให้ผู้ผลิตวิดีโอทำงานได้ง่ายขึ้น

มุมมอง AHEAD ASIA:

ปัจจุบัน ตลาดวิดีโอ-ออน-ดีมานด์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เฉพาะ Netflix เจ้าเดียว มียอดสมาชิกแล้วกว่า 93.8 ล้านคน เป็นกลุ่มที่อยู่นอกสหรัฐ 44.4 ล้านคน หรือกว่า 47% ของยอดสมาชิกทั้งหมด และในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา รายได้สุทธิก็เพิ่มขึ้นถึง 56% จากช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีก่อน

และเมื่อพิจารณาว่าโมบายล์ ดีไวซ์กลายเป็นอุปกรณ์หลักของคนยุคปัจจุบัน จึงน่าจะยังมีส่วนแบ่งตลาดเหลืออีกเป็นจำนวนมากสำหรับผู้เล่นรายอื่นๆ อาทิ Amazon Prime Videos, Youtube รวมถึง Facebook ที่จ้าง Mina Lefevre อดีต VP ของ MTV มารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัฒนา เมื่อเร็วๆนี้

จึงไม่แปลกที่ Apple ซึ่งมีแพลทฟอร์มพร้อมใช้งานอยู่แล้ว จะตัดสินใจเข้าร่วมเพื่อแชร์ตลาดด้วย และน่าจะทำให้เราได้เห็นอะไรดีๆอีกมากที่เหล่าผู้เล่นระดับตัวท็อปงัดออกมาแข่งขันกัน

ขณะที่ตลาดในประเทศไทยนั้นก็มีการปรับตัวตามเทรนด์โลก เริ่มมีการแข่งขันและผู้เล่นที่เข้ามาในตลาดนี้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็น iFlix บริษัทจากสิงคโปร์ ที่เป็นเจ้าแรกที่รุกตลาดนี้โดยทำตลาดโดยให้ทดลองดูฟรี 1 เดือน

แต่ที่สร้างความฮือฮาได้มากสุดคือ  AIS ที่เพิ่งเปิดตัว AIS Playbox ที่มีเครือข่ายช่อง HBO ที่กำลังเป็นประเด็นกลับมาให้บริการอีกครั้ง ขณะที่เจ้าอื่นอย่าง HOOQ และ Netflix ก็พยายามที่จะแย่งชิงผู้ชมในตลาดประเทศไทยด้วย 

Subscribe to Our Newsletter

Loading
Total
0
Shares
Previous Article

คนขี้อิจฉาควรลาโซเชียล

Next Article

รถไร้คนขับ โดรน และพลังงานสะอาด: เมื่อดูไบมุ่งหน้าสู่สมาร์ทซิตี้

Related Posts