หลังจากนำเสนอวิสัยทัศน์เรื่องธุรกิจคลาวด์และอัพเดทสารพัดเครื่องมือไปในสองวันแรก
Keynote ของ Google Cloud Next 2017 ในวันสุดท้าย ก็เสริมด้วยแนวคิดเรื่องการเปิดกว้างและการแชร์ ที่จะเป็นกุญแจไขไปสู่ความก้าวหน้า โดยเน้นไปที่เรื่องของ Open Source เป็นหลัก พร้อมกับการเปิดตัว Free Tier ของ Google Cloud Platform เพื่อให้เกิดระบบนิเวศของ Open Source อย่างเต็มตัว โดยนอกจากบริการพื้นฐาน 15 อย่างแล้ว ยังมีจุดขายคือการให้เครดิตผู้ลงทะเบียนใหม่ มูลค่า 300 ดอลลาร์ ภายในปีแรก สำหรับทดลองใช้บริการที่ต้องจ่ายเงินด้วย
ประวัติศาสตร์ Open Source
เพื่อให้สอดคล้องกับการเน้นเรื่อง Open Source เป็นหลัก Google จึงเลือก Vint Cerf (@vgcerf) หนึ่งใน “บิดาแห่งอินเตอร์เน็ต” ขึ้นเวทีเป็นคนแก เพื่อท้าวความถึงการปล่อยองค์ความรู้ให้ผู้อื่นนำไปพัฒนาต่อในอดีต อย่าง HTML, broadband ฯลฯ ส่งให้เกิดการพัฒนาแบบก้าวกระโดดในเวลาแค่ 40 ปีเศษได้อย่างไร
New Norm
Jim Zemlin ผอ.บริหาร The Linux Foundation ขึ้นเวทีเป็นคนถัดมา ด้วยแนวคิดเรื่องบรรทัดฐานใหม่สำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์ Zemlin ยกตัวอย่างยักษ์ใหญ่ในปัจจุบัน ทั้ง Google, Facebook หรือ Amazon ล้วนแต่มีจุดกำเนิดจาก Open Source ด้วยกันทั้งนั้น
เพราะการแชร์ออกไปคือการช่วยเพิ่มคนคิดให้มากขึ้น (All of us are smarter than any one of us.) และขอบเขตนี้ก็จะขยายออกไปเรื่อยๆ เพราะทุกวันนี้ มี Open Source ให้เลือกใช้งานเป็นล้านๆ จากแหล่งต่างๆ ทั้ง GitHub, SourceForge, Apache, Eclipse และ Openstack
พื้นที่สำหรับความร่วมมือ
Eric Brewer VP ฝ่าย Infastructure ของ Google เสริมด้วยการยกกรณีของ Linux ที่เริ่มต้นทีหลังคู่แข่งอย่าง Yahoo แต่สุดท้ายก็เป็นฝ่ายแซงหน้าไปได้ ด้วยแนวคิดด้านนวัตกรรมที่กว้างไกลกว่า ด้วยความช่วยเหลือจาก Open Source
และ Google ก็มียุทธศาสตร์ที่จะเป็น Open Cloud เพื่อเร่งให้นวัตกรรมเติบโตเร็วยิ่งขึ้น ด้วยความร่วมมือจากรอบด้าน
ยิ่งหลากหลายยิ่งก้าวหน้า
Chris Wright รองประธาน และหัวหน้าฝ่าย Technologist ของ Red Hat บริษัทชั้นนำด้าน Open Source มองว่าการเปิดกว้างและแชร์นั้น จะยิ่งเพิ่มความหลากหลาย ทั้งตัวนักพัฒนา ผู้ใช้งาน ฯลฯ และนั่นเป็นอีกตัวแปรสำคัญที่จะช่วยให้เกิดความก้าวหน้าทางด้านนวัตกรรมมากยิ่งขึ้น ตามความเห็นและความต้องการของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
Case Study
หนึ่งในกรณีศึกษาที่แสดงถึงประโยชน์ของ Open Source คือการที่ Google เปิดให้นักพัฒนาภายนอก นำ Machine Learning ของบริษัท คือ TensorFlow ไปพัฒนาต่อ ตั้งแต่เดือนพ.ย. ปี 2015 และเป็นปัจจัยสำคัญให้โปรเจกต์นี้โตขึ้นแบบก้าวกระโดด ตามที่ Jeff Dean (Senior Fellow) อธิบาย
ติดตามสรุปรายงาน Google Cloud Next 2017 ในวันอื่นๆได้ที่:
Day 1: สาส์นท้ารบจาก Google ในสมรภูมิคลาวด์
Day 2: บริการเพื่อสร้างความต่าง
และอย่าลืมกดไลค์เพจ AHEAD.ASIA เพื่อไม่พลาดคอนเทนท์เกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ๆ และบทวิเคราะห์แบบพอดีคำ
