ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์หน้าใหม่อย่าง Tesla บริษัท Tech เบอร์ใหญ่อย่าง Google และ สตาร์ทอัพที่ได้รับเงินลงทุนเยอะที่สุดในโลกอย่าง Uber กำลังเทความสนใจ พัฒนา และ ลงทุนอย่างหนักหน่วงใน Self-Driving Car เพื่อที่จะ Disrupt อุตสาหกรรมยานยนต์
แต่ Daimler AG ผู้ผลิตรถยนต์เบอร์ต้นๆของโลกมายาวนาน ภายใต้แบรนด์ Mercedes Benz ไม่เพียงแต่รับมือด้วยการผลิตรถยนต์ไร้คนขับมาแข่ง แต่พวกเขากำลังก้าวไปให้ความสนใจ กับเทคโนโลยีที่จะเป็นหัวใจของการขับขี่อัตโนมัติ….แผนที่
ในงาน SXSW 2017 ผู้เข้าร่วมสนทนาในหัวข้อ Future of Autonomous Driving : Master the Map ทั้งสองคนได้แก่
Edzard Overbeek อดีตรองประธานอาวุโสจาก Sisco ที่ผันตัวเองมารับบทบาท CEO ของ Here บริษัททำแผนที่แบบ Cloud ที่ร่วมกันจัดตั้งโดยกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันอย่าง BMW Group, AUDI Group และ Daimler AG เพื่อหวังเป็นอาวุธสำคัญในการขับเคี่ยวกับ 3 บริษัทรุ่นใหม่ข้างต้น
กับ Dieter Zetsche ประธานบอร์ดบริหารของ Daimler AG และ Head of Mercedes Benz Car บุรุษผู้เป็นหนึ่งในเสาหลักของค่ายดาวสามแฉก ที่เคยได้รับรางวัล Entrepreneur of the year ของเยอรมันมาแล้ว
ทั้งคู่เห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า เทคโนโลยีเกี่ยวกับแผนที่ ในรูปแบบใหม่นี่แหละ จะเป็นหัวใจของรถยนต์ไร้คนขับที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
รถไร้คนขับวิ่งไม่ได้ ถ้าปราศจากแผนที่
Edzard Overbeek Credit: Claudio Francisco
Dieter บอกว่านอกจาก เซ็นเซอร์ที่ตัวรถยนต์แล้ว แผนที่นี่แหละที่เป็นหัวใจของรถยนต์ไร้คนขับ แผนที่ที่เขาพูดถึงไม่ได้เป็นแผนที่แบบเดิมๆ ที่เป็นกระดาษ หรือ Google Map ที่ใช้กันอยู่ แต่เจ๋งขึ้นไปอีกขั้น และ อัพเดทอยู่ตลอดเวลา
Edzard อธิบายเพิ่มเติมว่า Digital Map ที่คนคุ้นเคยนั้น คือ 2 D Map ขณะนี้มีความพยายามที่จะทำเป็น 3D มากขึ้น แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์นัก ส่วนเทคโนโลยีที่เขามีอยู่คือ 3D Real Time HD หรือ ระบบแผนที่สามมิติ ความคมชัดสูงที่อัพเดทตลอดเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลง
แต่จริงๆแล้วสิ่งที่ Edzard และทีมงานกำลังทดลองทำอยู่คือ 4D Map ที่ไม่เพียงแต่รู้ว่าขับผ่านอะไร แต่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในตึกนั้น และ กำลังเกิดอะไรขึ้นอยู่
ยกตัวอย่างเช่น ขณะที่รถยนต์ไร้คนขับที่คุณนั่งอยู่ เคลื่อนที่ผ่านสยามพารากอน คุณไม่เพียงแต่จะเห็นว่า นี่คือสยามพารากอน แต่รู้ว่ากำลังมีคอนเสิร์ต หรือ งานอีเวนท์อะไรอยู่ข้าง ซึ่งแผนที่ในอนาคตจะเป็นแบบนี้ ไม่ได้บอกว่าที่ไหน แต่บอกว่ามันคืออะไร มีรีวิวอย่างไร และ มีอะไรเกิดขึ้นที่นั่น
แผนที่บน Cloud และ Machine Learning Map
Dieter บอกว่าจากงานวิจัยนั้น อุบัติเหตบนท้องถนนในปัจจุบัน 95% เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ ถ้าในอนาคต เมื่อระบบแผนที่สามารถใช้เทคโนโลยีอย่าง Cloud ดึงข้อมูลจากรถทุกคันแบบ Real time มาใช้ก็จะสามารถระวัง หรือ ทำนายอนาคตได้ ว่าทำไมถึงเกิดอุบัติเหตุตรงจุดนี้ และจะป้องกันยังไงในอนาคต
ส่วนเรื่องความลับหรือความเป็นส่วนตัวนั้น Edzard ให้ความสำคัญกับความโปร่งใสตรงไปตรงมา เขาบอกว่าไม่ใช่กดยอมรับครั้งเดียว แล้วจะสามารถเอาข้อมูลของลูกค้าไปใช้ได้หมดทุกอย่าง แต่ควรมีการถามเป็นขั้นๆ และ การใช้บริการต่างๆ อาจต้องแลกกับการให้ใช้ข้อมูล แต่เมื่อใช้บริการเสร็จก็ควรหยุดใช้ข้อมูลของลูกค้า
เมื่อโลกของการเดินทาง ไม่ใช่แค่จากจุด A ไปจุด B
Dieter ขมวดว่าด้วยเทคโนโลยี Autonomous Driving และ Smart Map ทำให้เราพอเห็นภาพว่า ในอนาคตรถยนต์ หรือ ยานพาหนะจะไม่ได้ทำหน้าที่แค่พาเราจากจุดที่หนึ่งไปอีกจุดหนึ่งเท่านั้น
แต่ความจริงยานพาหนะนี่แหล่ะ คือสิ่งที่เรียกว่า Third Place หรือ สถานที่แหล่งที่ 3 ที่เราใช้ชีวิตนอกจากบ้าน และที่ทำงาน ดังนั้นพาหนะในอนาคตควรทำหน้าที่มอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งานด้วย
ตรงนี้ AHEAD.ASIA มองว่าเป็นช่องว่าง ให้เราสามารถพัฒนาสิ่งต่างๆ มาตอบสนองวันที่ทุกคนในรถสามารถสนใจกันเอง หรือสิ่งอื่นได้ โดยไม่ต้องมีใครใช้สมาธิในการขับอีกต่อไป ซึ่งเป็นคนละประสบการณ์กับการเดินทางในปัจจุบัน
แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ ยังต้องเรียนรู้และเปลี่ยนแปลง
Dieter Zetsche Credit: sxsw.com
ช่วงสุดท้ายมีผู้ฟังถามประธานบอร์ดบริหารของ Daimler AG ว่า “ดูเหมือนว่าปัจจุบัน Mercedes Benz จะตกอยู่ในสถาณการณ์ที่ลำบาก เพราะมีคู่แข่งหน้าใหม่ที่น่ากลัว จากอุตสาหกรรมอื่นๆ ก้าวเข้ามาแข่งด้วย จะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง และ Mercedes Benz จะถูก Disrupt หรือทิ้งไว้ข้างหลังมั้ย”
ผู้นำแห่งค่ายดาวสามแฉกตอบว่า นี่เป็นคำถามที่เขาถูกถามมาตลอด 40 ปี ที่เขาอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์
คำตอบก็เหมือนกับทุกครั้งคือ เราต้องยอมรับความจริงว่า เราอาจจะยังไม่ดีพอ และ บางครั้งก็อาจมีคู่แข่งสองสามคน ที่นำหน้าเราไปบ้าง
ซึ่งสิ่งที่เราทำได้ก็คือยอมรับความจริง เรียนรู้ และ ทำงานให้หนักขึ้น
และนั่นคือ Future of Autonomous Driving : Master the Map แผนที่ … อนาคตของยานยนต์ไร้คนขับ เรียบเรียงโดยทีมงาน AHEAD.ASIA ส่งตรงจาก SXSW Austin Texas
อย่าลืมกดไลค์เพจ AHEAD.ASIA เพื่อไม่พลาดคอนเทนท์เกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ๆ และบทวิเคราะห์แบบพอดีคำ