รายงานจากบริษัทวิจัยการตลาด Forrester ของสหรัฐ เมื่อ เดือนก.ย. ปีที่แล้ว ระบุว่า ในปี 2021
6% ของทุกอาชีพในสหรัฐ จะถูกแทนที่โดย หุ่นยนต์
ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยี และกำลังจะเร็วขึ้นเรื่อยๆแบบนี้
เราจะยิ่งเห็นภาพชัดขึ้นว่า แรงงานมนุษย์กำลังถูกกลืนด้วย หุ่นยนต์ และ AI ในทุกวงการ ไล่ตั้งแต่ แขนกลในโรงงาน การขนส่งด้วยรถยนต์ไร้คนขับ ไปจนถึง ปัญญาประดิษฐ์ Watson ที่ทำได้ตั้งแต่พิจารณาค่าสินไหม ไปจนถึงการวินิจฉัยอาการและดูแลผู้ป่วย
เมื่อเป็นแบบนี้ แล้วเราควรจะทำอย่างไรต่อไป?
เมื่อหุ่นยนต์แทนที่แรงงานมนุษย์
ระหว่างปี 2000-2010 งานวิจัยจาก Ball State University ระบุว่าการเลิกจ้างแรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐ ร้อยละ 87 เกิดจากประสิทธิภาพของหุ่นยนต์ที่เจ้าของกิจการนำมาแทนที่มนุษย์
การเปลี่ยนแปลงนี้ เร็วจนแม้แต่ บิล เกตส์ ยังต้องเสนอให้รัฐจัดเก็บภาษีจากบริษัทที่ใช้งานหุ่นยนต์ เพื่อชะลอให้แรงงานมนุษย์มีเวลาปรับตัวกับอนาคตที่ไล่กวดมาจนใกล้กว่าที่เราคิด
แม้แต่ บาร์รัค โอบามา ยังกล่าวในสุนทรพจน์สุดท้ายก่อนอำลาตำแหน่ง ว่าหุ่นยนต์จะเป็นความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น
“คลื่นความวุ่นวายทางเศรษฐกิจลูกต่อไป จะไม่ได้มาจากต่างประเทศ แต่จะมาจากการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของเครื่องจักร ซึ่งทำให้แรงงานที่ดีในกลุ่มชนชั้นกลางจำนวนมาก กลายเป็นของล้าสมัย”
(The next wave of economic dislocations won’t come from overseas. It will come from the relentless pace of automation that makes a lot of good middle class jobs obsolete.)
คำถามจากนี้ จะไม่ใช่ “มันจะเกิดขึ้นหรือไม่?” หรือ “เมื่อไหร่?” อีกต่อไป
แต่เป็น “จะรับมืออย่างไร เมื่อเวลานั้นมาถึง”
#1
เงินปันผลพื้นฐานถ้วนหน้า
ยานิส วาโรฟาคิส (Yanis Varoufakis) อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังกรีซ นำเสนอแนวคิดคล้ายๆกับที่ อีลอน มัสก์ แห่ง Tesla ระบุว่ารัฐจะต้องช่วยเหลือประชาชนในการยังชีพมากขึ้น แต่ไม่ใช่ในลักษณะของ basic income ที่มาจากเงินภาษี
แต่ควรใช้ระบบ (Universal Basic Dividend หรือ UBD) จากผลตอบแทนผลผลิตและกำไรโดย หุ่นยนต์
วิธีนี้เป็นการกำหนดสัดส่วนชัดเจนในกรรมสิทธิ์ในกองทุนสาธารณกุศล เพื่อให้คนในสังคมเป็นผู้ถือหุ้นในทุกๆบรรษัท และปันผลไปสู่ทุกคนอย่างเสมอภาค โดยไม่กระทบระบบภาษีและระบบรัฐสวัสดิการแบบเดิม
แนวคิดนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะที่จริง Alaska Permanent Fund เป็นกองทุนที่ปันผลรายได้จากน้ำมันไปสู่ประชากรทุกคนในรัฐอลาสก้า มาตั้งแต่ปี 1976 หรือกว่า 40 ปีมาแล้ว
#2
ปฏิรูปการศึกษา
ในการปฏิวัติอุตสาหกรรมช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เป็นจุดเริ่มของการเรียนในระดับมัธยมศึกษา เพื่อโยกแรงงานจากภาคการเกษตรสู่ภาคอุตสาหกรรม
ส่วนทศวรรษที่ 60 และ 70 เป็นยุคที่การเรียนในระดับอุดมศึกษาเริ่มขยายตัวขึ้น เมื่อคนส่วนใหญ่ย้ายจากภาคอุตสาหกรรมมาสู่การทำงานในองค์กร
ในความเห็นของ เดวิด เดมิง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการศึกษาและเศรษฐศาสตร์ของฮาร์วาร์ดนั้น การปฏิรูปการศึกษาในยุคต่อไป
จะไม่ใช่แค่การ “ฝึก” นักเรียนนักศึกษาเพื่อรองรับระบบอีกต่อไป แต่จะเป็นการสอนเพื่อให้เกิดทักษะการวิเคราะห์และแก้ปัญหา และการติดต่อสื่อสาร ซึ่งจะเป็นทักษะสำคัญในอนาคต
#3
ปรับวิธีคิด
นักจิตวิทยาบำบัด ดร. โดโรธี แคนเทอร์ (Dorothy Cantor) ผู้เขียนหนังสือ What To Do When You Grow Up
ที่ว่าด้วยเรื่องความเปลี่ยนแปลงของชีวิตในวัยกลางคน มองว่ารูปแบบของงานปกติ จะมีไกด์ไลน์คอยกำหนดการดำเนินชีวิตของเรา อาจเป็นสิ่งที่ต้องทำ ระยะเวลา ฯลฯ
แต่การทำงานในอนาคตที่ไม่มีเกณฑ์ตายตัว ผู้คนที่คุ้นเคยกับรูปแบบเดิมๆก็จำเป็นต้องปรับตัวใหม่
แม้แต่การเปลี่ยนงานและรีไทร์ เพราะถูกแทนที่โดยเครื่องจักร ก็จำเป็นต้องหาเป้าหมายใหม่ในชีวิต ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่เคยตั้งใจไว้ในอดีตแต่ไม่เคยลงมือทำอย่างจริงจัง
AHEAD TAKEAWAY
หลายคนอาจกลัวการเปลี่ยนแปลง แต่ในความเป็นจริง สิ่งมีชีวิตทุกประเภทบนโลก (ไม่เว้นแม้แต่มนุษย์) ก็ต้องผ่านการปรับตัว การวิวัฒนาการ อยู่ตลอด เพื่อความอยู่รอด ตั้งแต่อดีตเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งร้อยปีที่แล้ว เมื่อ เฮนรี ฟอร์ด พยายามผลิตรถยนต์ ในยุคที่คนส่วนใหญ่ยังขี่ม้า ก็ก่อให้เกิดคำถามมากมาย แต่สุดท้าย ฟอร์ด ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเทคโนโลยีช่วยให้ชีวิตของมนุษย์สะดวกสบายขึ้น มีเวลามากขึ้น
ส่วนอาชีพที่เคยเกี่ยวข้องกับม้า แม้จะลดจำนวนลงหรือหายไป แต่ก็ปรากฎอาชีพใหม่ๆขึ้นมาทดแทน
ในอนาคตอันใกล้ก็เช่นกัน แม้จะมีการประเมินว่าอาชีพประเภทช่าง หรือแรงงานที่ไม่ใช้ทักษะ จะถูกแทนที่โดยหุ่นยนต์ค่อนข้างแน่ แต่เชื่อแน่ว่าก็จะมีสายงานอาชีพใหม่ๆเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
สิ่งสำคัญก็คือเราจะต้องรู้จักปรับตัว และพร้อมก้าวไปข้างหน้า แทนที่จะยึดติดกับความเคยชินแบบเดิมๆที่เราเคยคิดว่าสบาย
เพราะเมื่อถึงเวลาที่โลกหมุนไปข้างหน้าแล้ว สิ่งที่คุณเคยคิดว่าสบายในปัจจุบัน อาจกลายเป็นความลำบากไปในที่สุด หากคุณเลือกจะยืนอยู่ที่เดิม โดยไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงอะไร
เรียบเรียงจาก
The Top Emerging Technologies To Watch: 2017 To 2021
The White House predicts nearly all truck, taxi, and delivery driver jobs will be automated
IBM’s Supercomputer Is Bringing AI-Fueled Cancer Care to Everyday Americans
Rise of the machines: Fear robots, not China or Mexico
The robot that takes your job should pay taxes, says Bill Gates
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับนวัตกรรม และธุรกิจ และต้องการพัฒนาตัวเองเพื่ออยู่ข้างหน้าเสมอ สามารถกด like เพจ AHEAD.ASIA เพื่อติดตามเรื่องราวที่มีประโยชน์ และข่าวสารกิจกรรมที่น่าสนใจได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆกัน