4 เทรนด์แห่งอนาคตจากงาน F8

ผ่านไปแล้วสำหรับวันแรกของงาน F8 Developer 2017 งานประจำปีของ Facebook สำหรับนักพัฒนาและผู้ประกอบการที่จะได้มาแลกเปลี่ยนความเห็น รวมถึงเปิดตัวโปรดักท์ใหม่ๆของโซเชียลมีเดียอันดับหนึ่งของโลก

เพียงแค่วันแรก Mark Zuckerberg กับทีมงานก็ถือโอกาส ‘ปล่อยของ’ ออกมาแบบชุดใหญ่ในช่วง Keynote ที่จะเป็นเทรนด์ของโลกโซเชียลในอนาคตอันใกล้

และนี่คือ 4 เรื่องสำคัญที่ทีมงาน AHEAD.ASIA รวบรวมไว้ในที่เดียว เพราะไม่อยากให้คุณพลาด

 

#4 โลกเสมือนในโลกจริง

Zuckerberg ยืนยันคำเดิมจากตอนซื้อกิจการ Oculus เมื่อ 3 ปีก่อน ว่า AR (Augmented Reality) คือแพลทฟอร์มแห่งอนาคต ด้วยแนวคิดผสมโลกจริงและโลกเสมือนเข้าด้วยกัน

ถึงจะมีคนตั้งข้อสังเกตว่าฟังก์ชั่น Stories ของ Instagram ที่เพิ่มขึ้นมา ถอดแบบมาจาก Snapchat แต่ในงาน F8 แสดงให้เห็นว่าแนวการพัฒนาของ Facebook มีมากกว่าแค่ฟิลเตอร์สำหรับการถ่ายเซลฟี่หรือวิดีโอเล่น

ในตัวเดโม่ที่นำมาสาธิต เป็นเอฟเฟกต์กล้อง AR ต่างๆ ที่ผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ อย่างการเทขนมจนเต็มห้อง เติมปลาฉลามให้วนรอบชามอาหาร

และในอนาคต ยังสามารถทิ้งข้อความถึงคนรู้จัก หรือสร้างงานศิลป์ต่างๆ ที่สามารถมองผ่านโทรศัพท์หรือดีไวซ์เฉพาะได้

ทั้งหมดนี้ยังอยู่ในช่วงโคลสเบต้า และจะปล่อยให้นักพัฒนาทั้งหลายนำไปต่อยอด ผ่านโปรแกรม AR Studio ในเร็วๆนี้

ส่วนปลายทางที่ Zuckerberg ตั้งใจไว้ คือเทคโนโลยีเหล่านี้จะถูกรวมไว้ใช้งานผ่านดีไวซ์เดียว อาจเป็นแว่นหรือคอนแทคเลนส์ (ซึ่งอาจจะเข้ามาแทนที่สมาร์ทโฟนในอนาคต?)

 

#3 Facebook Spaces

นอกจาก AR แล้ว VR (Virtual Realtiy) ก็เป็นอีกเทคโนโลยีที่ FB ให้ความสำคัญ พร้อมเปิดตัว Facebook Spaces แอพพลิเคชั่น (ปัจจุบันยังอยู่ในช่วงเบต้า) ที่ใช้เพื่อติดต่อกับเพื่อนใน FB ในโลกเสมือนจริง

ในแอพนี้ ผู้ใช้งาน (ต้องสวมอุปกรณ์ VR) สามารถสร้าง avatar ของตัวเองเพื่อเข้าสู่โลกเสมือนได้ โดยยึดพื้นฐานจากภาพถ่าย เพื่อพูดคุยและทำกิจกรรมต่างๆกับเพื่อนในแอคเคาท์ของ Facebook โดยไม่จำเป็นต้องออกมาเจอกันจริงๆ

 

#2 ขยายวงนักพัฒนา

CREDIT: developers.facebook.com

เพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ Facebook ยังจับมือเป็นพันธมิตรกับ Udacity บริษัทการศึกษาออนไลน์ เพื่อวางหลักสูตร เร่งให้เกิดนักพัฒนาแอพใหม่ๆ รวมถึงกระตุ้นให้นักพัฒนาที่มีอยู่แล้ว เข้ามามีส่วนร่วม (engage) มากขึ้น ผ่านโปรแกรมที่ชื่อ Developer Circles

โปรแกรมดังกล่าวยังเปิดให้ผู้สนใจเรียนได้ฟรี โดยแต่ละคอร์สใช้เวลาราว 10 ชั่วโมง โดยที่ Facebook ยังวางแผนให้นักพัฒนาที่มีในปัจจุบัน มีส่วนร่วมในการให้ความรู้เพิ่มเติม รวมถึงแชร์ไอเดียกันและกันด้วย

 

#1 บอทและฟีเจอร์ใหม่ใน Messenger

AI และบอทต่างๆ ที่ผ่านการสร้างและทดสอบในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะถูกนำมาเสริมให้ Messenger เป็นมากกว่าแค่แอพส่งข้อความทั่วไป

‘M’ ผู้ช่วยลักษณะเดียวกับ Siri (Apple) หรือ Alexa (Amazon) จะสามารถทำงานเล็กๆน้อยๆแทนได้ (เช่นเปิดเพลง จองร้านอาหาร หรือหาคำตอบให้) และในอนาคต Facebook ก็อาจเพิ่ม ‘สโตร์’ สำหรับบอทโดยเฉพาะ เพื่อช่วยนักพัฒนาในการค้นหาบอทต่างๆเพื่อนำมาใช้งานได้ง่ายขึ้น ในลักษณะเดียวกับแอพสโตร์ของ Apple ด้วย

นอกจากบอทและ AI แล้ว Messenger ยังจะมีการใช้งานที่หลากหลายขึ้น เช่นเสิร์ชหาสิ่งต่างๆ ผ่านแท็บ Discovery, เล่นเกมที่มีขนาดไม่ใหญ่เกินไป, การใช้งานแอพนอก (Chat Extensions) เช่นลากเพลงจาก Spotify มาใส่เพื่อแบ่งกันฟัง หรือการสแกน QR Code ฯลฯ

 

หากมีข้อแนะนำ สามารถคอมเมนท์ได้ในเพจ AHEAD.ASIA และอย่าลืมกด like เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกเรื่องที่ทำให้เราทุกอยู่ข้างหน้าพร้อมๆกัน

Subscribe to Our Newsletter

Loading
Total
0
Shares
Previous Article
มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก

สร้างอนาคตไปกับ 5 ข้อคิดจาก มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก

Next Article

YOU ARE WHAT YOU READ#4 : Mark Zuckerberg

Related Posts