Y Combinator คือ แอคเซเลอเรเตอร์ชั้นนำ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของสตาร์ทอัพระดับโลกอย่าง Dropbox และ Airbnb
มุมมองในการคัดเลือกสตาร์ทอัพมาร่วมงาน และผลักดันให้มีผลงานเป็นรูปธรรมต่อเนื่อง นอกจากจะดึงดูดสถาบันอย่าง Sequoia Capital หรือ Andreessen Horowitz ให้ร่วมลงทุนแล้ว
Y Combinator ยังเพิ่งได้รับเลือกเป็นอันดับ 1 ใน Top Incubator โดย Forbes เมื่อปี 2016 ด้วย
แนวคิดเกี่ยวกับสตาร์ทอัพที่ดีในมุมมองของ Y Combinator เป็นอย่างไร ไปติตดามในบทสัมภาษณ์สั้นๆ กับ Tim Brady และ Adora Cheung
ทิม ช่วยเล่าประสบการณ์ที่เคยร่วมงานกับ Yahoo ในช่วงก่อตั้ง ว่ามันสอนอะไรคุณบ้าง?
Tim: เราใช้เวลาเกือบทั้งหมด ทำงาน-กิน-นอน ที่ออฟฟิศ ส่วน David Filo (ผู้ก่อตั้ง Yahoo) จะกลับไปนอนบ้านเฉพาะเสาร์อาทิตย์ สมัยนั้น (ปี 1995) ไม่ค่อยมีใครคิดว่าอินเตอร์เน็ตเป็นเรื่องสำคัญ
ที่ผมอยากจะบอก คือสำหรับสตาร์ทอัพแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้ก่อตั้งและวิสัยทัศน์ที่มีต่อบริษัท พวกเขาต้องเป็นคนที่จุดและผลักดันให้วัฒนธรรมองค์กรเดินไปข้างหน้า
ที่ Y Combinator เราย้ำกับสตาร์ทอัพในความดูแลว่าให้โฟกัสกับการเขียนโค้ด สร้างผลิตภัณฑ์ และลูกค้าเป็นหลัก เพราะนั่นคือวิธีที่คุณจะประสบความสำเร็จได้
คนในวงการสตาร์ทอัพควรรู้ไหมว่าต้องบรรลุเป้าหมายให้ได้เร็วที่สุด?
Tim: พูดตรงๆคือสตาร์ทอัพมีเวลาจำกัด และต้องทำให้บริษัทมีผลงานเป็นรูปธรรมเร็วที่สุด ทุกคนที่เข้าโครงการ Y Combinator ต้องโฟกัสกับบริษัทตัวเอง อย่างที่ผมบอก วัฒนธรรมองค์กรคือปัจจัยหลักที่จะทำให้คุณบรรลุเป้าหมาย
Adora: นั่นคือสิ่งที่คนอื่นจะใช้วัดคุณค่าของคุณและบริษัท คุณต้องหาวิธีทำเงินและหาคุณค่าที่แท้จริงของบริษัทให้เจอ ไม่ใช่แค่การจัดงานแถลงข่าวหรือไปร่วมในงานใหญ่ๆ เพราะหลายครั้ง เรื่องพวกนี้ทำให้คนใหญ่กว่าองค์กร
หลายบริษัทโฟกัสกับการทำ fund raising เป็นหลัก มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องไหม?
Adora: การหาทุนเป็นเรื่องดี แต่มันไม่ใช่คำตอบสุดท้าย คุณยังต้องมีช่องทางการขายที่ดี พนักงานเก่งๆ และผลิตภัณฑ์ที่คนต้องการ
Tim: ผมแนะว่าการหาทุนก้อนเล็กๆ เป็นวิธีที่ดีในการสร้างคุณค่า เมื่อคุณใช้มันสร้างผลิตภัณฑ์ขึ้น และสิ่งนั้นเป็นที่ยอมรับ ถึงค่อยยกระดับการหาทุนไปทีละระดับ
ในสถานการณ์ที่หาทุนได้ยาก ควรทำอย่างไร?
Adora: การถูกปฏิเสธบ่อยๆ ไม่ได้แปลว่าระบบนิเวศน์ไม่ดี ผู้ประกอบการต้องแสดงให้เห็นว่าสิ่งนั้นมีประโยชน์จริงๆ สามารถรักษากลุ่มลูกค้าไว้ได้ และมีรายได้ เมื่อนั้นนักลงทุนถึงจะให้ความสนใจอย่างจริงจัง
Tim: ที่ Y Combinator เราสอนว่าการเป็นผู้ประกอบการคืองานฟูลไทม์ หลักๆคือคุณต้องไม่สนใจกับสิ่งรอบข้าง และพยายามทำงานของตัวเองให้จบ
หากมีข้อแนะนำ สามารถคอมเมนท์ได้ในเพจ AHEAD.ASIA และอย่าลืมกด like เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกเรื่องที่ทำให้เราทุกอยู่ข้างหน้าพร้อมๆกัน