ทุกวันนี้ โซเชียลมีเดีย ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปแลัว
ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลก น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก หรือไม่เคยได้ยินชื่อของ Facebook หรือ Twitter
เพราะจากสถิติที่มีการบันทึกไว้นั้น เฉพาะ Facebook เพียงเว็บเดียว ก็มีผู้ใช้งานมากถึง 1.86 พันล้านคนแล้ว หรือคิดเป็น 25% ของประชากรทั้งโลก
แม้จะคุ้นเคยกับมันดี แต่หลายคนอาจยังไม่รู้จักที่มาที่ไปของมัน ทีมงาน AHEAD ASIA ขออาสาพาไปย้อนรอยความเป็นไปของปรากฎการณ์นี้ในประวัติศาสตร์ฉบับย่อของ โซเชียล มีเดีย กัน
1997: ก้าวแรก
CREDIT: CBS News
เว็บไซต์แรกที่จัดอยู่ในข่ายโซเชียล มีเดีย คือ Six Degrees ของ Andrew Weinreich (ที่มาของชื่อคือ six degrees of separation หรือ ทฤษฎีหกช่วงคน เป็นแนวคิดที่ว่าคน 2 คน จะมีคนที่รู้จักเชื่อมกันเป็นทอดๆไม่เกิน 6 ช่วง)
รูปแบบของ SixDegrees.com (1997-2001) คือการเปิดให้ผู้ใช้งานสร้างโพรไฟล์ของตน และผูกมิตรกับยูสเซอร์คนอื่นๆ ในลักษณะยกกำลังสอง ด้วยแนวคิดนี้ เราสามารถหาซื้อนาฬิการุ่นท
ซึ่งเป็นแนวคิดที่ถือว่าใหม
และด้วยความที่โครงสร้างพื้นฐานเกี
แต่เมื่อฟองสบู่ดอทคอมแตก YSMN ก็ต้องปิดตัวลง เช่นเดียวกับ SixDegrees.com
ก่อนที่โลกของอินเตอร์เน็ต จะเข้าสู่ยุคของบล็อก (weblog – คำซึ่งใช้เป็นครั้งแรกโดย Jorn Barger บล็อกเกอร์รุ่นบุกเบิก เจ้าของเว็บไซต์ Robot Wisdom) และการส่งข้อความแบบ instant messaging อย่าง ICQ
2000: เมื่ออินเตอร์เน็ตเริ่มเติบโต
ช่วงต้นยุคมิลเลนเนียม ประมาณการว่ามีคนทั่วโลกราว 100 ล้านคนที่มีโอกาสเข้าถึงอินเตอร์เน็ต อาจยังเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับประชากรทั้งหมด แต่ก็ถือว่าโลกเริ่มขยับเข้าใกล้กันมากกว่าเดิม
เพราะในช่วงแรก โลกออนไลน์ยังถูกจัดว่าเป็น “งานอดิเรก” ประเภทหนึ่ง โดยเฉพาะการใช้งานแชทรูมต่างๆ เพื่อสร้างเพื่อน ถกเถียงในประเด็นต่างๆ หรือกระทั่งหาคู่
แต่ยุคทองที่แท้จริงของโซเชียล มีเดียก็ยังไม่มาถึงจนกระทั่งเจเนอเรชั่นใหม่ของเว็บโซเชียล มีเดียถูกสร้างขึ้นมา
2002: คลื่นลูกที่สองของโซเชียลมีเดีย
ในช่วงต้นยุคมิลเลนเนียม Friendster คือเว็บไซต์แรกที่นำไอเดียที่ SixDegrees.com บุกเบิกไว้ กลับมาปัดฝุ่นใช้อีกครั้ง
แต่ในแง่ของความนิยมนั้น MySpace ที่เปิดตัวให้หลังในปีถัดมา กลับได้รับความนิยมเหนือกว่า จากการที่ศิลปินจำนวนมาก เลือกใช้เป็นช่องทางในการโปรโมทผลงานของตัวเอง และเป็นแรงบันดาลใจให้เว็บไซต์อื่นๆในแนวทางเดียวกันเกิดตามมา
อีกหนึ่งเว็บที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน คือ LinkedIn ที่เลือกเน้นไปด้านการสร้างเน็ตเวิร์คทางธุรกิจ ระหว่างมืออาชีพ จนเป็นอีกเหตุผลหลักที่ช่วยให้ยังได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน
ในปี 2004 TheFacebook.com ที่เขียนขึ้นโดย Mark Zuckerberg และเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เริ่มเปิดใช้งานกันภายในแคมปัส ก่อนจะได้รับความนิยมและเริ่มขยายไปสู่มหาวิทยาลัยอื่นๆ จนสุดท้าย Zuckerberg และเพื่อนก็ตัดสินใจเปิดกว้างสำหรับทุกคน และพัฒนาเรื่อยมาจนกลายเป็นเบอร์หนึ่งของวงการในที่สุด
ในปี 2006 Jack Dorsey, Biz Stone, Noah Glass และ Evan Williams ที่ได้แรงบันดาลใจจาก SMS และการส่งข้อความ ก็เปิดตัว Twitter ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ “ทวีต” ได้ไม่เกิน 140 ตัวอักษร จนเป็นโซเชียลมีเดียที่มีรูปแบบเฉพาะตัว
2010: แตกแขนงสู่ความหลากหลาย
CREDIT: Researchgate
หลังจากกลุ่มคลื่นลูกที่สองดึงให้ผู้คนหันมาใช้งานโซเชียลมีเดียกันมากขึ้น เว็บไซต์แนวเดียวกันในยุคถัดมา ก็เริ่มมีการพัฒนาและฉีกรูปแบบออกไป เพื่อสร้างความแตกต่าง
อาทิ Flickr ที่เป็นหนึ่งในรายแรกๆที่เปิดตัวด้วยการเป็นเว็บไซต์สำหรับแชร์รูปภาพโดยเฉพาะ ก่อนที่ Photobucket กับ Instagram จะเปิดตัวตามมา โดยเฉพาะรายสุดท้ายที่ได้รับความนิยมอย่างสูง จนถูก Facebook ซื้อกิจการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท
นอกจากนี้ ยังมี Tumblr ที่นำเสนอรูปแบบไมโครบล็อก Foursquare ที่เน้นการแชร์พิกัดของสถานที่ที่ยูสเซอร์คนนั้นใช้อยู่ พร้อมกับรีวิว หรือ Pinterest ที่ผู้ใช้งานสามารถเก็บรวบรวมรูปภาพในแนวทางที่ตนสนใจเข้าไว้เป็นหมวดหมู่ได้
เมื่อการใช้งานเริ่มกว้างขึ้น เช่นเดียวกับรูปแบบที่หลากหลายกว่าเดิม การทำธุรกิจผ่านโซเชียลจึงเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นตั้งแต่ช่วงนี้
ออฟฟิเชียลแฟนเพจใน Facebook หรือแอคเคาท์ของบริษัทใน Twitter ถูกเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นช่องทางการติดต่อระหว่างผู้ให้บริการกับลูกค้า เช่นเดียวกับการถือกำเนิดขึ้นมาของเหล่า influencers ในโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
อนาคต: ความเป็นไปได้ไม่สิ้นสุด
ปัจจุบัน โซเชียลมีเดียไม่ได้หยุดตัวเองอยู่เพียงแค่เว็บไซต์อีกต่อไป
โดยเฉพาะเจ้าตลาดอย่าง Facebook ที่ขยายขอบเขตไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับชีวิตมนุษย์ให้ดีขึ้น ทั้ง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ความจริงผสม (Mixed Reality) รวมถึงโครงการขยายสัญญาณอินเตอร์เน็ตออกไป เพื่อให้คนทั่วโลกมีโอกาสเข้าถึงความรู้ใหม่ๆมากขึ้น
20 ปีจากยุคของ SixDegrees.com โลกโซเชียลเดินทางมาไกลชนิดที่หลายคนคาดไม่ถึง และในอีกสองทศวรรษจากนี้ ก็ยิ่งน่าจะอยู่เหนือการคาดเดาของเราเช่นกัน
เรียบเรียงจาก
The History of Social Media: Social Networking Evolution!
Complete History of Social Media: Then And Now
THE HISTORY OF SOCIAL NETWORKING
หากมีข้อแนะนำ สามารถคอมเมนท์ได้ในเพจ AHEAD.ASIA และอย่าลืมกด like เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกเรื่องที่ทำให้เราทุกอยู่ข้างหน้าพร้อมๆกัน