Napster vs Metallica

#Breakfast4brain

ในยุคบูมของดอทคอม เมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่เป็นจุดเริ่มต้นของการแชร์ไฟล์ ในลักษณะ p2p (peer-to-peer) ด้วย

โดยมี Napster อยู่ในกลุ่มผู้บุกเบิกซึ่งมีคนรู้จักมากที่สุด

ทว่า การที่ชื่อของ Napster โด่งดังไปทั่วโลกนั้น กลับไม่ได้เกิดจากความนิยมเพียงอย่างเดียว

แต่เป็นเพราะคดีความฟ้องร้องกับหนึ่งในวงดนตรีที่โด่งดังที่สุดในโลก Metallica ในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เพลง

ซึ่งยังส่งผลกระทบชิ่งไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ที่ให้บริการแบบเดียวกับ Napster ในเวลาต่อมาด้วย

..
.

Napster ก่อตั้งขึ้นในเดือนมิถุนายน 1999 โดย Shawn Fanning และ Sean Parker (ประธานคนแรกของ Facebook) เป็นบริการแชร์ไฟล์ระหว่างบุคคลแบบออนไลน์ (P2P)

แม้ก่อนหน้านี้จะเคยมีผู้ให้บริการแชร์ไฟล์ในโลกอินเตอร์เน็ต อย่าง IRC หรือ Usenet อยู่ก่อนแล้ว แต่ Napster ปรับปรุงให้รูปแบบการใช้งานง่ายกว่า โดยเฉพาะไฟล์เพลงที่บีบอัดในฟอร์แมต MP3

ด้วยความที่ใช้งานง่าย ทำให้นักฟังเพลงหลายคนนำ ‘เพลงหายาก’ เช่นเพลงเก่า เพลงที่ศิลปินบันทึกไว้แต่ไม่ได้วางจำหน่าย หรือบู๊ทเลก (ลักลอบบันทึกจากการแสดงสด) ออกมาเผยแพร่

ในช่วงพีกสุด Napster มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกว่า 80 ล้านคน และพบว่ากว่า 60% ของไฟล์ที่ถูกแชร์ในเว็บไซต์ คือ MP3

..
.

การไม่จำกัดขอบเขตในการแชร์ไฟล์เพลงของ Napster ก็นำปัญหามาสู่ Fanning และ Parker ในที่สุด

เมื่อ Lars Ulrich มือกลองหัวหน้าวง Metallica พบว่าไฟล์ MP3 เดโมเพลง ‘I Disappear’ ซึ่งทางวงเตรียมไว้สำหรับประกอบภาพยนตร์เรื่อง Mission Impossible II ถูกแชร์ไปทั่วในโลกออนไลน์ ทั้งที่ยังไม่วางตลาด

หลังจากไล่ตรวจสอบหาต้นตอ ทางวงก็พบว่าไม่ใช่แค่เพลงนี้เพลงเดียว แต่ทุกเพลงของ Metallica ที่ถูกบันทึกเสียงไว้ ก็ถูกนำมาแชร์ใน Napster เช่นกัน จนนำไปสู่การดำเนินการฟ้องร้องในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์

นอกจาก Metallica แล้ว Dr.Dre ก็เป็นศิลปินชั้นนำอีกรายที่ยื่นฟ้อง Napster ในเวลาไล่เลี่ยกัน

สุดท้ายในเดือนมีนาคม 2001 Napster ก็สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อยอมความกับทั้งสองรายได้สำเร็จ

แต่ทุกอย่างก็ยังไม่สิ้นสุด เพราะยังมีคดีความฟ้องร้องกับค่ายเพลง และสมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐ จนสุดท้าย สองผู้ก่อตั้งก็ตัดสินใจปิดเว็บไซต์ในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน

ก่อนประกาศล้มละลาย และขายสินทรัพย์ทั้งหมดให้แก่บุคคลที่สามในปี 2002 เป็นการปิดตำนานผู้บุกเบิกการแชร์ไฟล์แบบ P2P ในที่สุด

..
.

แม้จะถูกฟ้องร้องจนต้องปิดตัวลง แต่แนวคิดแบบ P2P และการแชร์ไฟล์ของ Napster ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของหลายสิ่งในเวลาต่อมา

เช่นการ Decentralized ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีบล็อกเชน

การเปลี่ยนแปลงรูปแบบอุตสาหกรรมเพลงว่าไม่จำเป็นต้องซื้อและฟังเพลงจากแผ่นซีดีอีกต่อไป

ทว่า ก็ต้องใช้เวลานานหลายปี กว่าจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแบบจริงจัง เมื่อ Steve Jobs ผลักดันให้ iTunes เกิดขึ้น

..
.

หลัง Napster ประกาศล้มละลาย Fanning ก็ผันตัวไปทำธุรกิจอื่นๆ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

ส่วน Parker ค้นพบ The Facebook โดยบังเอิญในปี 2004 และมีส่วนสนับสนุนจนเติบโตจากโปรเจกต์ในมหาวิทยาลัย จนกลายเป็นบริษัทในที่สุด แม้สุดท้ายจะถูกบีบให้ลาออก เพราะคดีถือครองยาเสพติดก็ตาม

ส่วนชื่อและโลโก้ Napster ถูกประมูลไปโดย Roxio ก่อนเปลี่ยนมืออยู่หลายครั้

ปัจจุบัน Napster ในเครือ Rhapsody เป็นแบรนด์ที่ให้บริการเพลงแบบสตรีมมิ่ง ซึ่งมีเพลงให้เลือกฟังมากกว่า 40 ล้านเพลง

และในจำนวนนั้น ก็มีเพลงทั้งหมดของ Metallica ให้เลือกฟัง ตั้งแต่ชุดแรกจนถึงอัลบั้มล่าสุด แบบถูกกฎหมายด้วย

..
.
Better be AHEAD
#AHEADASIA
.
เรียบเรียงจาก
.
Metallica Catalog Returns to Napster After 17 Years: Exclusive
.
Metallica v. Napster – 10 Most Controversial Moments in Metal on Metal Injection
.
DEC. 7, 1999: RIAA SUES NAPSTER
.
ติดตาม #Breakfast4Brain ได้ทุกเช้าตรู่วันจันทร์ถึงศุกร์ ที่เพจ AHEAD ASIA
.
หากถูกใจอย่าลืมกดแชร์ กดไลค์ คอมเมนท์ แนะนำติชม กดติดดาว หรืออะไรที่สบายใจเพื่อให้กำลังใจทีมงาน AHEAD.ASIA หาเรื่องราวดีๆมาให้คุณรู้ เพื่อก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน

Subscribe to Our Newsletter

Loading
Total
4
Shares
Previous Article

5 สุดยอดการพิทช์ ในวงการสตาร์ทอัพ

Next Article

Acer จัดแคมเปญใหญ่หนุนอีสปอร์ต ชิงตั๋วแข่งที่เกาหลีใต้

Related Posts