ในโลกที่กำลังถูก disrupt ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้หลายสิ่งที่เราเคยรับรู้ว่ามีแต่ในภาพยนต์ไซไฟ เริ่มเขยิบใกล้ความเป็นจริงเรื่อยๆ
รถยนต์ไร้คนขับ โดรนโดยสาร หรือปัญญาประดิษฐ์ที่จะเข้ามาทำงานแทนมนุษย์ ฯลฯ
และในอนาคตอันใกล้ หากคุณกระดูกหัก การรักษาก็อาจไม่ต้องดามเหล็กหรือวัสดุอื่น แต่อาจเปลี่ยนใส่กระดูกชิ้นใหม่ที่ปลูกขึ้นจากเซลล์ของคุณเอง ด้วยเทคโนโลยีจาก EPIBONE บริษัทปลูกกระดูกจากสเต็มเซลล์รายแรกของโลก
และความน่าทึ่งที่เหมือนหลุดมาจากนิยายวิท
‘อิ๊ก’ ดร. สารินทร์ ภูมิรัตน ในฐานะ CO-FOUNDER และ CSO (CHIEF SCIENTIFIC OFFICER) ของบริษัท
ความน่าสนใจของ EPIBONE นั้น การันตีด้วยรางวัล Pioneer Award สาขา Life Sciences and Health จาก World Economic Forum ที่เมือง Davos และยังได้รับความสนใจจากสื่อชั้นนำ อย่าง CNN, BBC, Forbes, New York Times, Huffington Post และ Bloomberg
แต่สิ่งสำคัญกว่าสำหรับ ‘ดร.อิ๊ก’ คือความคาดหวังส่วนตัวว่าในอนาคต สตาร์ทอัพรายนี้ จะมีส่วนเปลี่ยนประวัต
มากกว่าคำว่าเท่
CREDIT: Epibone
หลังจากย้ายมาศึกษาระดับ ม.ปลาย ที่สหรัฐ ‘ดร.อิ๊ก’ ได้เข้าศึกษาในระดับ
และทำปริญญาเอกที่มหาวิยาลัยโคล
“ผมเลือกเรียนสาขานี้เพราะช
แต่เมื่อสิ่งที่เรียนโฟกัสแคบเข้าเรื่อยๆ ‘ดร.อิ๊ก’ ก็พบว่างานวิจัยที่ทำ มีสั
ทั้งคู่ตกลงว่า Nina จะเป็น CEO และ Co-Founder ดูภาพรวมและธุรกิจ ส่วน ‘ดร.อิ๊ก’ รับตำแหน่ง CSO (CHIEF SCIENTIFIC OFFICER) และ CO-FOUNDER เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีสร
ถัดมา สิ่งที่ ‘ดร.อิ๊ก’ ต้องเรียนรู้นอกห้องแล็บ คือเรื่องจ
รู้ว่า ‘ไม่รู้’
CREDIT: Epibone
‘ดร.อิ๊ก’ และ Nina ตัดสินใจเข้าเรียนคอร์ส Innovation Entrepreneurship ที่มหาวิทยาลัยโคลอมเบีย ตามคำแนะนำของ กอร์ดาน่า วุนยัค โนวาโควิช โปรเฟสเซอร์ที่ ‘ดร.อิ๊ก’ เร
และเป็นที่นี่เองที่สอนให้ ‘ดร.อิ๊ก’ ได้เรียนรู้อีกโลกหนึ่ง ซึ่งไม่เคยสัมผัสมาก่อน
“ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ เป็นเด็กเนิร์ดมาตลอด พอมาได้ออกจากแลบมาเรียนรู้
เพราะคอร์ส Innovation Entrepreneurship คือบทพิสูจน์ความตั้งใจของทั้
บททดสอบนี้ ไม่เพียงทำให้ ‘ดร.อิ๊ก’ ได้ข้อมูลเพิ่มเติมที่หาไม่ได้จากในห้องแล็บ ยังเป็นการฝึกรับมือกับ Criticism Feedback ด้วย
“การเรียนที่นี่ สอนให้ผมรู้ว่า….ผมไม่
“ผมก็ค่อยๆเรียนรู้เรื่
บทเรียนจากชายผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก
อีกหนึ่งบทเรียนนอกห้องของ ‘ดร.อิ๊ก’ เกิดขึ้นแบบไม่คาดฝัน เมื่อมีคนจาก บริษัท “bgC3” ติดต่อเข้ามาทาง Linkedin ว่า Mr.Gates สนใจโปรเจกต์ และอยากพูดคุยด้วย
Mr.Gates ที่ว่า ก็คือ Bill Gates ผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft นั่นเอง
แม้การพูดคุยในครั้งนี้ จะเป็นแค่ study session ของ Gates เท่านั้น โดยไม่มีเรื่องการลงทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่นั่นก็เป็นบทเรียนให้ ‘ดร.อิ๊ก’ รู้สึกประทับใจมาก เพราะแม้แต่คนที่รวยและประสบความสำ
แล้วคนตัวเล็กๆที่ยังไม่
ฟักตัวกับ Breakoutlab
CREDIT: Epibone
ความยากของการทำ “Biotech Startup” นั้น อาจต้องใช้เวลานานเป็น 10-20 ปี กว่าจะเห็นผล เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุ
ยิ่งเรื่่องที่ EPIBONE กำลังทำนั้น ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน จึงเป็นเรื่องยากขึ้นไปอีกในการหาทุน โดยเฉพาะจากนักลงทุนที่มองหาผลกำไรเป็นหลัก
แต่ด้วยความมุ่งมั่นของทีมงาน และความน่าสนใจของตัวโปรดักต์ ทำให้สุดท้าย EPIBONE ก็ได้รับเงินสนับสนุนจาก “BreakoutLab” กองทุนที่ก่อตั้งขึ้
ไม่ใช่เพียงแค่เงิน แต่ BreakoutLab ยังช่วยให้ EPIBONE ได้มีโอกาสเข้าคอมมูนิตี้ของ Biotech Startup เพื่อร่วมแบ่งปันข้อมูล เรียนรู้ และ เติบโตไปกับกลุ่มคนในสายงาน
การเรียนลัดจากคนที่กำลังทำ หรือเคยมีประสบการณ์มาก่อนจึงสำคัญมาก
นอกจากเรื่องคอมมูนิตี้แล้ว การจ้างคนเข้ามาทำงานด้ว
ความเสี่ยงที่จะเปลี่ยนโลก
ปัจจุบัน การทดลองสร้างกระดูกจากสเต็มเซลล์ ของ EPIBONE นั้นสามารถทดลองในหม
แต่ ‘ดร.อิ๊ก’ ยอมรับว่ายังห่างจากคำว่า
“ถ้าผมทำไม่สำเร็จขึ้นมา ทุกอย่างจบ กลับไปเป็นศูนย์ นั่นคือความเสี่ยงที่คนทำสต
“แต่ในเมื่อผมเสี่ยงมาขนาดน
ขณะเดียวกัน ก็เป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้หลายคนสงสัย เพราะในความเป็นจริง ‘ดร.อิ๊ก’ สามารถเลือกใช้ชีวิตแบบธรรมดา เป็นที่ปรึกษาบริษัท หรือทำงานในห้องแล็บก็ได้
แต่คำตอบที่ได้จากเจ้าตัวคืออยากให้ EPIBONE เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให
และความกระหายที่จะเดินหน้าต่อนี้เอง ก็คือคุณสมบัติของสตาร์ทอัพที่ต้องการไปให้ถึงจุดหมาย
และจุดหมายของ ‘ดร.อิ๊ก’ และ EPIBONE ก็อาจเปลี่
สามารถติดตามรายละเอียดของ EPIBONE ได้ที่ epibone.com
นอกจากนี้ ใครที่สนใจจะฟังประสบการณ์จากปากของ ‘ดร.อิ๊ก’ ก็สามารถติดตามได้ในงาน TEDxBangkok 2017 ‘little things mingle’ ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น7 สยามสแควร์วัน ในเสาร์ที่ 5 สิงหาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 8.00 – 18.00 น. โดยสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง Facebook TEDxBangkok ทั้งเสียงภาษาไทยและอังกฤษ
สำหรับสตาร์ทอัพ และใครที่ต้องการพัฒนาตัวเองเพื่ออยู่ข้างหน้าเสมอ สามารถกด like เพจ AHEAD.ASIA เพื่อติดตามเรื่องราวที่มีประโยชน์ และข่าวสารกิจกรรมที่น่าสนใจได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆกัน