Hydrox: ต้นแบบคุกกี้ผู้พ่ายแพ้

#Breakfast4brain

ทุกครั้งที่เห็นคุกกี้ชอคโกแลตสอดไส้ครีม วาบแรกในความคิดของแทบทุกคน ต้องนึกถึง Oreo ทันที

แต่การที่ Oreo เป็นเจ้าตลาดของขนมชนิดนี้ได้ ไม่ใช่เพราะความเป็น ‘ออริจินอล’ แต่เป็นเพราะการตลาดที่เหนือกว่า

และชื่อของบิสกิตอีกแบรนด์ ซึ่งเป็นทั้งต้นแบบและคู่แข่ง ฟังดูไม่ชวนให้หยิบจากเชลฟ์ในซูเปอร์มาร์เก็ต

..
.
ย้อนกลับไปในปี 1882 Jacob Loose เข้าซื้อกิจการของบริษัทขนมและบิสกิตแห่งหนึ่ง ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น Sunshine Biscuits ตามดีไซน์ของตัวโรงงาน

จากนั้นอีก 26 ปีต่อมา Sunshine Biscuits ก็เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นการนำบิสกิตช็อคโกแลตสองแผ่นมาประกบกัน โดยมีครีมอยู่ตรงกลาง ในชื่อว่า Hydrox

ที่มาของชื่อนี้ คืออะตอมสองตัวที่รวมตัวกันเป็นน้ำ คือไฮโดรเจนและออกซิเจน เพื่อสื่อถึง ‘ความบริสุทธิ์ และรสชาติที่ดี’

ไอเดียในการประกบบิสกิตช็อคโกแลตโดยมีครีมตรงกลาง ถือว่าแปลกใหม่มากในยุคนั้น

เสริมด้วยดีไซน์ของตัวบิสกิตด้วยแม่พิมพ์รูปทรงคล้ายดอกไม้ ยิ่งทำให้ Hydrox กลายเป็นขนมยอดนิยมขึ้นมาได

บังเอิญหรือไม่ก็แล้วแต่ ทว่า ในเดือนเมษายน ปี 1912 Nabisco ก็เปิดตัวบิสกิตแบรนด์ใหม่ในเครือพร้อมกันถึง 3 ชนิด คือ Mother Goose, Veronese และ Oreo

ทั้ง Mother Goose และ Veronese ต่างก็หายไปจากตลาดในเวลาไม่นาน

เหลือเพียง Oreo ที่ไม่ว่ามองจากมุมไหน ก็ถอดแบบมาจาก Hydrox ของ Sunshine Biscuits แทบทุกด้าน

..
.
ในความเหมือนนั้น อาจจะมีความต่างอยู่เล็กน้อยตรงรสชาติ เพราะช็อคโกแลตบิสกิตของ Hydrox นั้นขมกว่าเล็กน้อย

และผู้บริโภคในยุคนั้น ก็ยังให้คุณค่ากับ ‘ความเป็นต้นฉบับ’ ของ Hydrox อยู่

เมื่อเวลาผ่านไป คนจำนวนมากเริ่มไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องที่ว่า Hydrox หรือ Oreo นั้นมาก่อนอีกต่อไป

ยิ่งเมื่อ Sunshine Biscuits ถูกเทกโอเวอร์โดย Keebler ในปี 1996 ก็ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า Oreo ต่างหากคือต้นแบบของบิสกิตประเภทนี้ ส่วน Hydrox ที่ชื่อเหมือนสารเคมีมากกว่า กลายเป็นเบอร์สองที่ทำของเลียนแบบออกมาแทน

เมื่อบวกกับการโหมทำตลาดของ Nabisco จนชื่อของ Oreo เป็นที่จดจำของผู้คนได้มากกว่า

ยอดขายของ Hydrox ก็ตกลงเรื่อยๆ จนเหลือเพียงแค่ 4.2% หรือราว 16 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับ Oreo ที่มีรายได้ถึง 374 ล้านดอลลาร์ ในปี 1998

..
.
ด้าน Keebler รู้ดีว่าชื่อ Hydrox นั้นฟังดูไม่เหมาะกับการเป็นขนม และพยายามรีแบรนด์ใหม่เป็น Droxies

แต่เหมือนจะสายเกินไป เมื่อส่วนแบ่งการตลาดของขนมชนิดนี้ตกไปเป็นของ Oreo โดยสิ้นเชิง

จนเมื่อ Kellogg’s เข้าซื้อกิจการของ Keebler ในปี 2001 ผู้บริหารชุดใหม่ก็ตัดสินใจสั่งปิดสายการผลิตของ Hydrox ในที่สุด

ปล่อยให้ผู้มาทีหลัง แต่พร้อมกว่าอย่าง Oreo เป็นผู้ชนะในตลาดบิสกิตชนิดนี้ในที่สุด

..
.
Better be AHEAD
#AHEADASIA
.
เรียบเรียงจาก
The Sad History of Hydrox Cookies
.
10 Billion Dollar Ideas That Were Stolen
.
ติดตาม #Breakfast4Brain ได้ทุกเช้าตรู่วันจันทร์ถึงศุกร์ที่เพจ AHEAD ASIA
.
หากถูกใจอย่าลืมกดแชร์ กดไลค์ คอมเมนท์ แนะนำติชม กดติดดาว หรืออะไรที่สบายใจเพื่อให้กำลังใจทีมงาน AHEAD.ASIA หาเรื่องราวดีๆมาให้คุณรู้ เพื่อก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน

Subscribe to Our Newsletter

Loading
Total
0
Shares
Previous Article

Standing Out in a Crowd กับ อ.จตุพล ชมภูนิช

Next Article

คิดให้ต่างอย่าง 'อาจารย์เชน' จตุพล ชมภูนิช

Related Posts