คิดให้ต่างอย่าง ‘อาจารย์เชน’ จตุพล ชมภูนิช

‘อ.เชน’ จตุพล ชมภูนิช คือหนึ่งในนักพูดระดับแถวหน้าของประเทศ ที่อยู่ในวงการมายาวนานกว่าสามทศวรรษ และฝากผลงานไว้มากมาย

ทั้งในฐานะพิธีกรรายการโทรทัศน์ นักแสดง ทอล์คโชว์ และที่สำคัญ คือการเป็นวิทยากรที่คอยให้ความรู้แก่ผู้สนใจทั่วประเทศ

ทีมงาน AHEAD.ASIA มีโอกาสได้พูดคุยสั้นๆกับ อ.จตุพล ถึงแนวคิดในการพัฒนาตัวเอง สำหรับคนที่ไม่ต้องการย่ำอยู่กับที่

 

การปรับตัวตามยุคสมัย 

อ.จตุพล ย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นของการเป็นนักพูดตั้งแต่ปี 2526 จนถึงตอนนี้ก็สามสิบกว่าปีด้วยกัน

และในยุคที่ผู้คนหันมาใช้โซเชียลมีเดียกันมากขึ้น อ.จตุพล ก็เลือกย้ายคอนเทนท์ของตัวเองไปอยู่ในสื่อใหม่ด้วย เพื่อเพิ่มฐานผู้ติดตามให้กว้างขึ้น

“ช่วง 3 ปีมานี้ ผมเริ่มเขียนลงในโซเชียล ทั้ง Facebook, Instagram, Twitter เป็นความคิดของตัวเอง ไม่ได้อิงจากของเดิม หรือจำจากฝรั่งมา คือเรามีความรู้เดิม แล้วก็หาความรู้ใหม่เพิ่ม”

“แต่ทั้งหมดนี้ ต้องผ่านกระบวนการเพื่อให้เป็นของๆเรา อาจจะปรับให้เข้ากับคนไทย หรือทำยังไงให้จำง่าย ถ้ามันตรงใจเค้า ก็จะเริ่มมีคนตาม แล้วผมก็จะเอาคำสอนพวกนั้นมาใช้ในการพูดด้วย”

 

ความรู้คือพื้นฐาน

แต่ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปแค่ไหน อ.จตุพล ก็เน้นย้ำว่าเรื่องสำคัญที่สุดคือพื้นฐานที่ดี นั่นคือความรู้

“ถ้าไม่มีตรงนี้มันต่อยอดยาก เหมือนเราขับเครื่องบินไม่เป็น ไปนั่งในค็อกพิท ก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเรามีความรู้ เราก็ต้องลงไปทำด้วย เพื่อให้มันเกิดความเชี่ยวชาญ เพราะมันจะมีผลต่อการตัดสินใจ โดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤต”

“อย่างที่เค้าบอก นักบินที่ไม่เคยผ่านสภาพอากาศเลวร้าย คุณก็เป็นแค่นักบินทั่วไปคนนึงเท่านั้น ถ้าคุณเจอแล้วผ่านมาได้ คราวหน้า คุณก็จะรู้ว่าต้องทำไงต่อ”

 

คิดให้ต่างด้วยการต่อยอด

จากความรู้พื้นฐานที่มี อ.จตุพล เสริมว่าเมื่อยุคสมัยเปลี่ยน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ไมว่าจะเป็น เทคโนโลยี ความต้องการของลูกค้า ฯลฯ นักการตลาดก็ต้องปรับตัวตามไปด้วยว่าจะยังใช้ความรู้เดิมได้รึหรือไม่

“เพราะความรู้เกิดจากการจดจำ แต่สติปัญญาต้องมาจากการคิดเอง คือคิดให้แตกต่าง คิดว่าจะลดทอนอะไรได้”

“เหมือนรถยนต์ สมัยก่อนจะประกอบ ก็ค่อยๆประกอบกันทีละชิ้น จนมีการคิดประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยสายพานเลื่อนรถ มันก็จะประหยัดได้ทั้งเวลา ค่าใช้จ่าย และคน พอคิดแบบนี้ได้ ธุรกิจของโลกก็จะเจริญไปอีกระดับ”

อ.จตุพล มองว่าความรู้ที่มีอยู่ในโลกทุกวันนี้ หาอะไรที่เป็นออริจินอลจริงๆยาก อย่าง โน้ตบุ๊ค ก็คือการต่อยอดจากคอมพิวเตอร์ให้เป็นสิ่งที่พกพาได้ มีประสิทธิภาพเร็วขึ้น ความจุมากขึ้น ฯลฯ

“นั่นคือสิ่งที่โลกกำลังมุ่งหน้าไป ซึ่งถ้าเราสามารถจับจุดตรงนี้ได้ เราก็จะก้าวทันโลก ถ้าเราคิดอะไรแบบเดิมๆ เราจะมีโน้ตบุ๊ค หรือแท็บเล็ตเกิดขึ้นได้ยังไง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากการต่อยอด”

“ผมยังติดตามข้อมูลใหม่ๆตลอดเวลา แต่เราเอามาดัดแปลงแก้ไข ความรู้เดิมๆที่เราเรียนมา เราเปลี่ยนจากการเล่ายาวๆมาทำให้กระชับ ให้คนจำได้”

 

ผลสอบวัดความเก่งไม่ได้ทั้งหมด

ในฐานะที่เป็นอาจารย์ และผ่านการสอนคนมามากมาย ทั้งในชั้นเรียนและในเวิร์คช็อปต่างๆ อ.เชน มองว่าการศึกษาในบ้านเรา ก็เป็นอีกสิ่งที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อก้าวให้ทันโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

“ระบบการศึกษาไทยทุกวันนี้ ยังเหมือนถาดหลุมในโรงเรียน คือเค้าจะตักอะไรมาให้ เราก็ต้องกินตามนั้น ซึ่งไม่ได้แปลว่าเด็กทุกคนอยากกิน ไม่ได้แปลว่าเด็กทุกคนชอบผัก หรือแกงจืดรสชาติแบบนี้”

“ถ้าจะเรียนให้ดีจริง ต้องเรียนให้ตรงจริตของคนเรียน”

“ผู้ใหญ่ก็อย่าไปตัดสินความเก่งของคนด้วยคะแนนอย่างเดียว ความเก่งของคนมีเป็นสิบอย่าง ถ้าเราตัดสินแค่คะแนนสอบ แล้วบอกว่าคนนี้จะประสบความสำเร็จ ผมคิดว่าไม่ใช่”

“ถ้าเด็กคนนึงบอกจะไม่ไปทางนี้ เขาจะไปทางที่เค้าชอบ เรามาช่วยสนับสนุนให้เค้าไปทางที่เค้าชอบจะดีกว่า จะไปไกลได้กว่าทางที่เราบังคับครับ”

 

สำหรับสตาร์ทอัพ และใครที่ต้องการพัฒนาตัวเองเพื่ออยู่ข้างหน้าเสมอ สามารถกด like เพจ AHEAD.ASIA เพื่อติดตามเรื่องราวที่มีประโยชน์ และข่าวสารกิจกรรมที่น่าสนใจได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆกัน

Subscribe to Our Newsletter

Loading
Total
0
Shares
Previous Article

Hydrox: ต้นแบบคุกกี้ผู้พ่ายแพ้

Next Article

ล้มแล้วลุกแบบ Walt Disney

Related Posts