ในการทำธุรกิจ หลายครั้งที่เราต้องปรับมุมทางธุรกิจใหม่ (pivot) ด้วยเหตุผลต่างๆนานา
การจะทำแบบนั้นได้ ต่อเมื่อเรายอมรับความจริง และพร้อมจะเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง
แต่นั่นก็ยังไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหลายคนไม่แน่ใจว่า “เมื่อไหร่” ถึงจะใช่เวลาที่เหมาะสม
AHEAD FRIDAY โดยพี่ห้อย-พี่สอด เลยถือโอกาสไปสอบถามผู้มีประสบการณ์ตรง ทั้ง Beautynista.com RINN – Smart Cup Sellsuki (เซลสุกิ) และ Infographic Thailand มาช่วยกันให้คำตอบนี้
วรวุฒิ สายบัว
Founder and CEO
Beautynista.com
เริ่มจาก วรวุฒิ สายบัว ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Beautynista.com ให้ทรรศนะเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไว้ 5 ข้อ
1. เมื่อกลุ่มเป้าหมายที่คาดว่
2. เมื่อปัญหาที่เราคิดจะแก้ไข
3. เมื่อ “ผลิตภัณฑ์” หรือ “บริการ” ของเรา แก้ปัญหาให้ลูกค้าไม่ได้ หรือไม่เกิดการซื้อซ้ำ เพราะสิ่งที่เรา “ขายฝัน” เอาไว้ ไม่สามารถส่งมอบ “คุณค่า” ตามสัญญาที่ให้ไว้ได้
4. เมื่อ “เทคโนโลยี” ที่ใช้ มีข้อจำกัดทำให้ลูกค้าเกิดป
5. เมื่อ “คู่แข่ง” ที่มี Business Model คล้ายกัน ชิงส่วนแบ่งการตลาดมากจนถึง
ชรภัทธ์ สันติมากร (อ๋อง)
Cofounder & Information Architect
Rinn
pivot ในความหมายของ startup คือการพลิกมุม การเปลี่ยนวิธีการ การหาแนวทางใหม่ที่ดีกว่าเด
เพื่อหาหนทางให้ธุรกิจที่เร
startup ปกติแล้ว เริ่มจาก idea ที่เราคิดว่าดี แต่ไม่ได้แปลว่าเป็นสิ่งที่
กรณีของ RINN – Smart cup คือ แก้วน้ำที่สามารถวัด คุณค่าทางสารอาหารที่คุณดื่
ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มผู้บร
แต่ก่อนนี้ RINN ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อว
เรารู้ว่าสิทธิบัตรที่เรามี
ปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนที่เรา
เราจึงจำเป็นต้อง pivot การใช้เทคโนโลยีชนิดนี้อีกค
สิ่งที่อยากฝากคือ เราจะรู้ว่าต้องปรับมุมทางธ
เพราะไอเดียที่ดีอาจจะดีสำห
เลอทัด ศุภดิลก
Sellsuki
คุณจะรู้ตัวว่าควร Pivot ก็ต่อเมื่อเจอโอกาสใหม่ ที่ตอบโจทย์เป้าหมายคุณมากก
Pivot มีที่มาจากกีฬาบาสเกตบอล เวลาที่ผู้เล่นโยกตัวและวาง
ใน Startup จึงหมายถึงการเปลี่ยน Business Model ของบริษัทเมื่อเห็นโอกาสใหม
ตัวอย่างของการ Pivot ก็เช่น Slack แอปพลิเคชันแชทสำหรับธุรกิจ
หรือ Instagram ที่ตอนแรกเป็นแอพ Check-in แต่สู้ Foursquare จนมาค้นพบว่าคนชอบอัพโหลดรู
กระทั่ง Starbucks ที่ตอนแรกเป็นร้านขายเครื่อ
การ Pivot บางอย่างอาจจะเป็นในเชิง Positioning ก็ได้ อย่างเช่น Sellsuki เองก็มีการ Pivot ครั้งใหญ่ในช่วงสองปีแรก จากระบบรับออเดอร์สำหรับ Facebook อย่างเดียวมาเป็นระบบบริหาร
จะเห็นว่ามีสองอย่างต้องพิจ
แต่ไม่ใช่ Pivot แค่เพราะสิ่งที่ทำอยู่มันเห
เพราะไม่เช่นนั้นมันก็เป็นแ
Thanachot Wisuttismarn (Dear)
CEO and Co-Founder of Likeme Group (Infographic Thailand , aomMONEY, NextEmpire)
การตัดสินใจ Pivot เกิดขึ้นในช่วงที่ทำ ‘Memblr’ เป็น App รวบรวมสิทธิประโยชน์ (Privilege) ที่จากบัตรเครดิต หรือสมาชิกต่างๆในที่เดียว
เพราะยุคนั้นเป็นยุคที่สิทธ
แต่ทำไปประมาณ 4-5 เดือน ได้คนใช้งานมาประมาณ หมื่นกว่าคน active บ้างไม่ active บ้าง แนวโน้มการทำรายได้ ยังไม่มีเลย ใช้เงินลงทุนไปเยอะมาก แต่ยังไม่เห็นอนาคต
คือถ้ารายได้ไม่มี อย่างน้อย User ต้องมา แต่นี่ก็ยังไม่มา
พอดี ตอนนั้นใช้ Infographic ทำการตลาด ซึ่งสมัยนั้นยังไม่มีคนทำเล
เราจึงเลยเปิดเพจ Infographic Thailand มาลอง Test ตลาดดู ซึ่งได้ผลตอบรับดีมากๆ จึงตัดสินใจ เริ่มทำแบบจริงจัง ปริมาณงานที่เข้ามามันเยอะม
มุมมองพี่ห้อย-พี่สอด
จากประสบการณ์ตรงของคนในวงก
ถ้ามันจะทำให้ธุรกิจของเราด
เพราะบทสรุปสุดท้าย คนไม่ได้ตัดสินเราจากไอเดีย
ถ้าการถอยหนึ่งก้าวแล้วทำให
ติดตาม AHEAD ASIA Friday กับสารพันปัญหาเรื่องสตาร์ทอัพ Entrepreneur นวัตกรรม และเทคโนโลยีดิจิทัล ได้ทุกวันศุกร์
และสำหรับใครที่ต้องการพัฒนาตัวเองเพื่ออยู่ข้างหน้าเสมอ สามารถกด like เพจ AHEAD.ASIA เพื่อติดตามเรื่องราวที่มีประโยชน์ และข่าวสารกิจกรรมที่น่าสนใจได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆกัน