ใครครองอุตสาหกรรมแอพ?

#Breakfast4brain

นักพัฒนาแอพหลายคน อาจเคยคาดหวังถึงการเขียนโค้ด และสร้างแอพพลิเคชั่นชั้นดีที่จะทำเงินได้มหาศาลจาก iTunes หรือ Playstore

แต่ถ้าได้เห็นยอดดาวน์โหลด และใช้งานแอพพลิเคชั่นในท้องตลาดแล้ว

จะพบว่าในความเป็นจริง ตลาดแอพพลิเคชั่นนั้น ถูกยึดครองไว้หมด โดยบริษัทเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น

และเป็นกลุ่มที่นักพัฒนาอิสระไม่น่าจะหาทางสอดแทรกขึ้นไปแข่งขันได้ด้วย

..
.
จากการสำรวจพฤติกรรมของผู้ใช้งานแอพต่างๆ ในสหรัฐ ทั้งจากเดสก์ท็อป และจากโมบายล์ดีไวซ์ ในปีล่าสุด U.S. Mobile App Report โดย comScore

พบว่าในกลุ่มท็อปเทนนั้น ทั้ง 10 แอพ เป็นของบริษัทใหญ่ที่อยู่ในตลาดหุ้นทั้งหมด

และ 8 ใน 10 เป็นของสองบริษัทที่ยึดครองด้านรายได้จากการทำโฆษณาสายดิจิทัล นั่นคือ Facebook และ Google

ในจำนวนนี้ มี 3 แอพที่เป็นของ Facebook นั่นคือ Facebook (อันดับ 1), FB Messenger (อันดับ 3) และ Instagram (อันดับ 5 ร่วม)

ส่วน 5 แอพที่เป็นของ Google ประกอบด้วย Youtube (อันดับ 2), Google Search (อันดับ 4), Google Maps (อันดับ 5 ร่วมกับ Instagram), Google Play (อันดับ 8) และ Gmail (อันดับ 9)

อีกสองแอพที่เหลือ เป็นของ Snapchat (อันดับ 7) และ Pandora (อันดับ 10)

..
.
แน่นอนว่าสถิติดังกล่าวที่นับเฉพาะผู้ใช้งานในสหรัฐ คงไม่สามารถใช้สรุปแทนคนทั้งโลกได้ 100%

แต่เกือบทั้งหมด ก็เป็นแอพพลิเคชั่นที่คนส่วนใหญ่น่าจะรู้จักกันดี ยกเว้น Pandora ที่ไม่ได้เปิดให้บริการนอกสหรัฐ

โดยเฉพาะอันดับหนึ่งนั้น หากคุณกำลังอ่านบทความนี้อยู่ นั่นก็แปลว่าคุณคือหนึ่งในผู้ใช้งานนั่นเอง

ส่วน Snapchat ที่เคยมาแรงในสหรัฐ ช่วง 2-3 ปีก่อนหน้า จนสามารถทำ IPO เข้าสู่ตลาดหุ้นได้สำเร็จในปีนี้ กลับค่อยๆแผ่วลงอย่างไม่น่าเชื่อ

จากที่นักวิเคราะห์เคยคาดว่าจำนวนผู้ใช้งานจะเพิ่มขึ้นราวๆ 10 ล้านคน เมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่สองของปี

แต่ตัวเลขจริงนั้น Snapchat มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นราว 7 ล้านคนเท่านั้น

..
.
กระนั้น ก็ไม่ได้แปลว่าแอพพลิเคชั่นใหม่ๆจากนักพัฒนาอิสระ จะหมดโอกาสประสบความสำเร็จ

แต่อาจต้องใช้เวลาในการฟักตัวนานกว่าเดิม

ยกตัวอย่าง Waze แอพพลิเคชั่นนำทางด้วยสัญญาณ GPS จากอิสราเอล ซึ่งมีจุดเด่นตรงการรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มผู้ใช้งาน และแชร์ให้ผู้ใช้งานรายอื่นๆรับรู้ได้

ในช่วงสองปีหลังสุด Waze คือหนึ่งในแอพพลิเคชั่นที่มีอัตราการเติบโตสูงในสหรัฐ (Fast Rising Apps)

วัดจากสถิติผู้ดาวน์โหลดใหม่และใช้งาน ระหว่างเดือนมิถุนายน 2015-เดือนมิถุนายน 2017 ที่ 127%

ในความเป็นจริง Waze ไม่ใช่แอพใหม่ เพราะเริ่มเปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี 2006

และยังเคยได้รับรางวัล Best Overall App จากงาน Mobile World Congress มาแล้วในปี 2013

แต่เพิ่งจะมีอัตราเติบโตสูงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี่เอง

..
.
อีกหนึ่งประเด็นที่ไม่ควรมองข้าม

คือ Waze ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยสตาร์ทอัพจากอิสราเอล ถูกจัดให้อยู่ในเซคชั่นเดียวกับ Google Maps

นั่นแปลว่าทั้งสองแอพนั้นเป็นคู่แข่งกันโดยตรงในทางการตลาด

แต่ในเดือนมิถุนายน 2013 Waze Mobile ก็ถูกควบรวมกิจการโดย Google ในราคา 966 ล้านดอลลาร์

จนคณะกรรมการด้านการค้าของสหรัฐ (FTC) ของสหรัฐ และ สำนักงานส่งเสริมการค้าอย่างเป็นธรรม (OFT) ของสหราชอาณาจักร ต้องเข้ามาตรวจสอบ ว่าขัดกับกฎหมายต่อต้านการผูกขาดหรือไม่

ทว่า สุดท้าย ก็อนุมัติให้การเทกโอเวอร์ครั้งนี้เกิดขึ้น

นักวิเคราะห์จาก Forbes มองว่าการเทกโอเวอร์ครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้น เพียงเพราะ Google ต้องการฟีเจอร์บางตัวที่ Google Maps ขาดไปเท่านั้น

แต่ยังเป็นการซื้อ เพื่อไม่ให้ Waze ตกไปอยู่ในมือของ Facebook รวมถึง Apple ที่หมายตาฟีเจอร์ดังกล่าวอยู่เหมือนกันนั่นเอง

..
.
Better be AHEAD
#AHEADASIA
.
เรียบเรียงจาก
.
The dream of the stand-alone “app business” is dying
.
The 2017 U.S. Mobile App Report
.
Fresh data shows millennials’ favorite apps — and it’s bad news for Snapchat
.
Four Reasons Google Bought Waze
.
ติดตาม #Breakfast4Brain ได้ทุกเช้าตรู่วันจันทร์ถึงศุกร์ที่เพจ AHEAD ASIA
.
หากถูกใจอย่าลืมกดแชร์ กดไลค์ คอมเมนท์ แนะนำติชม กดติดดาว หรืออะไรที่สบายใจเพื่อให้กำลังใจทีมงาน AHEAD.ASIA หาเรื่องราวดีๆมาให้คุณรู้ เพื่อก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน

Subscribe to Our Newsletter

Loading
Total
0
Shares
Previous Article

รู้ได้ไง เมื่อไหร่ต้อง Pivot

Next Article

10 มหาเศรษฐีสาย Tech แห่งปี 2017

Related Posts