DEPA ฉลองความสำเร็จ ‘Big Bang 2017’ คนร่วมงานกว่า2แสน นำไทยสู่ยุคดิจิทัล

ประสบความสำเร็จอย่างสูง สำหรับผลงานล่าสุดของ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ “DEPA” ในการจัดมหกรรมดิจิทัลระดับประเทศ  “Digital Thailand Bigbang 2017” เมื่อ 21-24 กันยายน ที่ผ่านมา ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ชาเลนเจอร์ 1-2 หลังมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานกว่า 2 แสนคน ขณะที่กองทัพสื่อมวลชนจากทั่วโลกร่วมทำข่าวอย่างคับคั่ง

 

 

DEPA ในฐานะหน่วยงานภาครัฐยุคใหม่ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้รับบทบาทสำคัญ ประสบความสำเร็จเกินคาด ในก้าวแรกของการนำประเทศไทยสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เมื่อสามารถจุดประกายให้ประชาชนชาวไทยตื่นตัว จนผู้เข้าร่วมงานตลอดทั้ง 3 วัน กว่า 241,004 คน

พร้อมกันนี้ ยังได้สื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศกว่า 700 รายให้ความสนใจเข้าร่วมทำข่าวนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งนำเสนอโดยหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องกว่า 250 ราย

นอกจากนี้ ยังมีสถิติตัวเลขการเข้าถึงบนโลกออนไลน์กว่า 8.2 ล้านครั้ง และ engagement กว่า 5 แสนครั้ง แสดงถึงความสนใจของบุคคลทั่วไปที่เลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ๆในการติดตามงาน โดยเฉพาะการสัมมนาโดยวิทยากรระดับโลก ผ่านทาง Facebook Live

 

 

ด้าน ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการ DEPA  กล่าวถึงงาน Digital Thailand Bigbang เป็นการประกาศให้โลกรู้ว่าประเทศไทยจะเร่งเครื่องเต็มที่สู่ความเป็น Digital Economy อย่างเต็มรูปแบบ

“แต่เราจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ กับการสานต่อ ขยายเครือข่ายความร่วมมือกับต่างประเทศ อย่าง Telecommunication Union (ITU) และ Global Entrepreneurship Network (GEN) ที่มีสมาชิกกว่า 160 ประเทศทั่วโลก เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้เป็น Digital SMEs และ Digital Startup รวมไปถึงความร่วมมือของภาครัฐและภาคเอกชน ในการสร้างอุตสาหกรรมดิจิทัลในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ EEC ไม่น้อยกว่า 40 ราย ด้วยโปรเจคยักษ์ใหญ่อย่าง Digital Park Thailand ที่แหลมฉบัง, การสร้าง IoT Institute แห่งแรกในไทย, การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) และอีกหลายโครงการที่มุ่งตอบโจทย์สู่ความเป็นไทยแลนด์ 4.0 ตั้งแต่วันนี้”

 

 

ด้าน ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงการสานต่อความสำเร็จนี้ ด้วยการจัดงาน Digital Big Bang สัญจร ใน 4 ภูมิภาค ได้แก่ เชียงใหม่, ขอนแก่น, อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และ อ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยจะเริ่มจัด 2 แห่ง ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ต่อด้วยอีก 2 จังหวัดที่เหลือในเดือนมกราคมปีหน้า

ส่วนรูปแบบงานนั้นจะเป็นการย่อส่วนจากงานที่กรุงเทพฯ และเน้นการนำเสนอเทคโนโลยีในแต่ละภูมิภาค ด้วยการสร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา และสภาหอการค้าในภูมิภาคนั้นๆเป็นหลัก

สำหรับงาน Digital Thailand Big Bang 2017 นั้น นอกจากความสำเร็จในด้านการจุดความสนใจของประชาชนทั่วไปแล้ว ยังมีส่วนผลักดันให้เกิดการเซ็น MOU ระหว่างภาครัฐและเอกชนของไทย รวม 15 ฉบับ เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC กว่า 40 ราย

Subscribe to Our Newsletter

Loading
Total
0
Shares
Previous Article

K PLUS PLATFORM: ก้าวถัดไปของธนาคารยุคดิจิทัล

Next Article

แนวโน้มสถาบันการเงินไทยยุคดิจิทัล: รศ.ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์

Related Posts