Tesla Motors เตรียมเร่งเครื่องผลิตรถรุ่น Model 3 ให้ได้ถึงหลัก 2,500 คันต่อสัปดาห์ ภายในไตรมาสแรกของปี 2018 นี้ หลังประสบปัญหาล่าช้า จนไม่สามารถส่งมอบออร์เดอร์ได้ตามกำหนด
Model 3 ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นที่มีราคาถูกที่สุดของ Tesla คือ 35,000 ดอลลาร์ หรือราว 1.17 ล้านบาท มียอดจองแบบถล่มทลายกว่า 5 แสนคัน แต่บริษัทกลับประสบปัญหาผลิตรถรุ่นนี้เพิ่มได้เพียง 260 คัน ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนปีที่แล้ว จนไม่สามารถส่งมอบให้ลูกค้าได้ตามกำหนด และกระทบต่อการเงินของบริษัทโดยตรง
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ดังกล่าวก็เริ่มคลี่คลายขึ้น ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2017 เมื่อ Elon Musk CEO ของบริษัทตัดสินใจปลดพนักงานราว 2% ที่ไม่สามารถทำงานได้ตามเป้า พร้อมลดกำลังการผลิตของ Model S และ Model X ลง กระทั่งสามารถผลิต Model 3 ได้ 2,425 คันในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว
Tesla ยอมรับว่าการผลิตที่เป็นคอขวดในขณะนี้ ส่งผลโดยตรงกับความเร็วในการส่งมอบตามออร์เดอร์ แต่ก็ตั้งเป้าหมายว่าจะเร่งผลิตให้ได้ถึงหลัก 2,500 คันต่อสัปดาห์ ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ เพื่อที่จะสามารถต่อยอดให้เพิ่มขึ้นเป็น 5,000 คันต่อสัปดาห์ หรือ 20,000 คันต่อเดือน ในไตรมาสที่ 2
ด้าน Musk เคยกล่าวแบบติดตลกไว้ เมื่อกลางปีที่แล้วว่ากระบวนการผลิตรถ Model 3 ของ Tesla กำลังเดินเครื่องต่อเนื่องในระดับ “โรงงานนรก” เพื่อเร่งความเร็วให้ทันความต้องการของผู้สั่งจอง
“เรากำลังมุ่งหน้าสู่การเป็นโรงงานนรก อย่างน้อยๆก็หกเดือน” Musk กล่าว แม้จะยอมรับว่าความเร็วในการผลิตบอดี้ของรถรุ่นนี้ อยู่ในระดับแค่ 1 จากเต็ม 10 เท่านั้น
เรียบเรียงจาก
Tesla made 2,425 Model 3s in Q4 2017, aims to make 2,500 weekly by end of Q1 2018
Elon Musk on Model 3: ‘We’re going to go through at least 6 months of production hell’
AHEAD TAKEAWAY:
ข่าวเชิงลบที่ใหญ่ที่สุดในรอบปีที่ผ่านมาของ Tesla คือการขาดทุนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท ที่ 619 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 20,500 ล้านบาท อันเป็นผลจากการไม่สามารถส่งมอบรถยนต์รุ่น Model 3 ได้ทันตามออร์เดอร์
กรณีดังกล่าว ยังตามมาด้วยการปลดพนักงานครั้งใหญ่ จำนวน 700 ราย โดย Elon Musk ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะพนักงานกลุ่มนี้ ไม่สามารถทำงานได้ตามเป้าที่ตั้งไว้นั่นเอง
นักวิเคราะห์ในต่างประเทศ มองว่าต้นตอของปัญหาคือการที่บริษัทมีกำลังการผลิต ‘แบตเตอรี่อัดประจุพลังงานไฟฟ้า’ ไม่เพียงพอ
แต่หลังการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว สถานการณ์ของบริษัท โดยเฉพาะเรื่องการผลิต Model 3 ซึ่งมียอดจองสูงกว่า 5 แสนคัน ก็กระเตื้องขึ้นตามลำดับ โดยสามารถส่งมอบรถให้แก่ลูกค้าได้ถึง 29,870 คัน ในไตรมาสล่าสุด แบ่งเป็น Model S 15,200 คัน, Model X 13,120 คัน และ Model 3 1,550 คัน ซึ่งนับว่าเป็นสถิติสูงสุดต่อไตรมาสของบริษัทด้วย ตอกย้ำว่า Musk ยังสามารถแก้ปัญหาให้กับบริษัทจนสามารถดำเนินงานต่อได้อย่างราบรื่น
สำหรับสตาร์ทอัพ และใครที่ต้องการพัฒนาตัวเองเพื่ออยู่ข้างหน้าเสมอ สามารถกด like เพจ AHEAD.ASIA เพื่อติดตามเรื่องราวที่มีประโยชน์ และข่าวสารกิจกรรมที่น่าสนใจได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆกัน