YOU ARE WHAT YOU READ #15 : SUNDAR PICHAI

นอกจาก Larry Page, Sergey Brin สองผู้ก่อตั้งและ Eric Schmidt แล้ว หนึ่งในผู้บริหารของ Google ที่เราคุ้นเคยที่สุด คงต้องนับรวม Sundar Pichai ไว้อีกหนึ่งคน ในฐานะ CEO คนปัจจุบันของบริษัท

แม้จะมีตำแหน่งเป็นผู้บริหารองค์กรที่เกี่ยวข้องกับโลกอินเตอร์เน็ตโดยตรง และเป็นผู้เสนอไอเดียเรื่องการสร้างเบราเซอร์ของบริษัท (ที่พัฒนาจนเป็น Chrome ในเวลาต่อมา)

แต่ Pichai กลับชอบหาความรู้ และข้อมูลจากหนังสือที่เป็นเล่มมากกว่า โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ และนิตยสาร – ธุรกิจที่หลายคนมองว่ากำลังจะถูก disrupt เพราะ Google และบริษัทเทคโนโลยีหลายๆแห่ง

 

Wall Street Journal

 

 

WSJ ถือเป็นหนังสือพิมพ์ธุรกิจที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในสหรัฐ มีทั้งรูปแบบบรอดชีท (ไซส์นสพ.ปกติ) และออนไลน์แบบสมัครสมาชิก

แต่ทุกเช้า Pichai ก็ยังชอบอ่านในรูปหนังสือพิมพ์ปกติ บนโต๊ะอาหารตอนเช้ามากกว่า

“เชื่อไหม ผมยังอ่านหนังสือพิมพ์ปกติทุกวันตอนเช้า” เขาให้สัมภาษณ์กับ Recode

เหตุผลหนึ่งคือมันทำให้นึกถึงความทรงจำในสมัยเด็กที่เขาต้องรอจนกว่าปู่และพ่อจะอ่านหนังสือพิมพ์เสร็จ จึงจะถึงตาเขาได้อ่านบ้างนั่นเอง

 

New York Times

 

 

NYT คือหนังสือพิมพ์เก่าแก่จากนิวยอร์คเช่นเดียวกับ WSJ และเป็นหนังสือพิมพ์ที่ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วย คือ 122 ครั้ง

NYT เป็นหนึ่งในสื่อดั้งเดิมเพียงไม่กี่ฉบับที่ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยได้ดี โดยเฉพาะยอดการสมัครสมาชิกออนไลน์ในช่วง 2-3 ปีหลังสุดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยเนื้อหาที่มีคุณภาพจากผู้สื่อข่าวทั่วโลก และ Pichai ก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น

 

A Song of Ice and Fire

โดย George R. R. Martin

 

 

หลายคนอาจจะไม่คุ้นกับชื่อนี้ แต่ถ้าบอกว่านี่คือนิยายอีพิค แฟนตาซี ที่เป็นต้นฉบับของ Games of Thrones แล้ว หลายคนคงร้องอ๋อทันที

เพราะ GoT ซึ่งตั้งชื่อจากนิยายเล่มแรกในชุดนี้ คือหนึ่งในซีรีส์ทางโทรทัศน์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในปัจจุบัน

ปัจจุบัน A Song of Ice and Fire มียอดขายทั่วโลกรวมกันกว่า 60 ล้านก๊อปปี้ และถูกแปลเป็นภาษาต่างๆมากกว่า 47 ภาษา และต่อยอดออกไปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆมากมาย ทั้ง คอมมิค, การ์ดเกม, บอร์ดเกม และ วิดีโอเกม

 

Star Trek

 

 

Pichai ก็ประกาศตัวชัดเจนว่าเป็นหนึ่งใน Trekkie (สาวก Star Trek) เช่นกัน นอกจากภาพยนตร์และซีรีส์แล้ว นิยายที่ดัดแปลงมา ก็จัดเป็นหนังสือโปรดสำหรับเจ้าตัวเช่นกัน ซึ่งเจ้าตัวก็เคยทวีตว่ามันทำให้การสนทนากับ Walter Mossberg นักข่าวอาวุโสสายเทคโนโลยี ที่เป็น Trekkie เช่นกัน ออกรสขึ้นอีกมาก

 

 

 

เมื่อถูกถามถึงเรื่องการใช้เวลาบนหน้าจอสำหรับเด็กๆ Pichai ยอมรับว่าเขาก็เหมือนพ่อแม่คนอื่นๆที่ต่อรองกับลูกๆ เรื่องการใช้งานแท็บเล็ทและสมาร์ทโฟนเช่นกัน

แต่เขาเชื่อว่ามันเป็นเรื่องที่รับได้ หากเด็กๆจะเปลี่ยนจากการอ่านหนังสือเล่มไปเป็น Kindle หรือดูวิดีโอที่ให้ความรู้จาก YouTube แทน เพราะเขาเชื่อว่าสุดท้าย แหล่งที่มาของความรู้นั้นมีไม่สิ้นสุด และไม่จำกัดอยู่ในฟอร์แมตใดฟอร์แมตหนึ่งนั่นเอง

 

ติดตาม YOU ARE WHAT YOU READ ตอนก่อนๆ ได้ที่นี่

Bill Gates#1

Bill Gates #2

Mark Zuckerberg

Warren Buffett

Jeff Bezos

Elon Musk

Jack Ma

 

*You are what you read เป็นซีรีส์ที่เกิดขึ้น หลังทีมงานมีโอกาสได้พูดคุยกับนักคิด และคนที่มีไอเดียสร้างสรรค์ และเห็นว่าต่างก็มีจุดเชื่อมเดียวกัน คือพื้นฐานจากการเป็นนักอ่านมาก่อน

พื้นที่นี้ จึงจะเป็นการรวบรวมหนังสือดีที่คนเหล่านี้เคยอ่าน และยืนยันว่าควรมีไว้ประดับสมอง ทั้งจากการค้นคว้าโดยทีมงาน หรือจากการสัมภาษณ์โดยตรง โดยจะอัพเดทตอนใหม่ทุกเย็นวันพุธ

หากมีข้อแนะนำ สามารถคอมเมนท์ได้ในเพจ AHEAD.ASIA และอย่าลืมกด like เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกเรื่องที่ทำให้เราทุกอยู่ข้างหน้าพร้อมๆกัน

Subscribe to Our Newsletter

Loading
Total
0
Shares
Previous Article

Amazon จับมือ Warren Buffett และ JP Morgan สร้างศูนย์สุขภาพ

Next Article

ยอดผู้ใช้ Facebook ในสหรัฐฯ วูบหนแรกในประวัติศาสตร์

Related Posts