One Day with CEO #6 : Masayoshi Son

แม้คนทั่วไปอาจไม่คุ้นเคยกับชื่อของ Masayoshi Son แต่นักธุรกิจญี่ปุ่นเชื้อสายเกาหลีใต้รายนี้ คือนักลงทุน VC ที่คนในแวดวงเทคโนโลยีทั่วโลกต้องรู้จัก

ไม่ใช่เพียงแค่ผลงานในอดีตจากการค้นพบ Yahoo! และ Alibaba แม้กระทั่งในปัจจุบัน Son ยังร่วมลงทุนในบริษัทชั้นนำมากมาย ทั้ง Didi Chuxing ผู้ให้บริการ ride-hailing service เบอร์หนึ่งจากจีน รวมถึงการถือหุ้นใน Uber

Son ยังสามารถโน้มน้าวให้ Mohammad bin Salman มกุฎราชกุมารแห่ง ซาอุดีอาระเบีย และ Tim Cook แห่ง Apple ร่วมลงขันในกองทุนด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก Vision Fund ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์

แต่ด้วยความที่งานของ Son และ Softbank นั้นต่างไปจากบริษัทอื่นๆ และเจ้าตัวก็ระบุว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่ตายตัว One Day with CEO สัปดาห์นี้ จึงจะพาคุณไปติดตาม “วิถี” ที่ไม่เหมือนใครของเจ้าตัวแทน

 

ไม่มีงานประจำวัน

 

 

ในการให้สัมภาษณ์กับ Nikkei Asian Review ครั้งหนึ่ง Son ย้ำว่าเขาไม่เชื่อในเรื่องการทำงานแบบ daily routine แต่เขาต้องการให้พนักงานของ Softbank ทุกคนผ่านประสบการณ์ใหม่ๆที่ไม่คุ้นเคยทุกครั้งที่ได้รับมอบหมาย

“ถ้าคุณมอบหมายงานประจำวันให้พนักงานคนนั้น โดยพิจารณาจากแค่คุณสมบัติที่เขามี พวกเขาจะไม่ทำอะไรเลยนอกจากงานง่ายๆที่ตัวเองคุ้นเคย ถ้าคุณจับเขาไปทำในสิ่งที่ไม่ถนัด มอบหมายภารกิจให้ซักเรื่อง และกระตุ้นให้เขาทำอะไรก็ได้เพื่อยกระดับบริษัทขึ้น นี่จะเป็นความท้าทายและแรงบันดาลใจของคนเหล่านั้น”

 

นักลงทุนนอนน้อย

 

 

อดีตพนักงานของ Softbank รายหนึ่งเคยให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal ว่าหลายครั้งที่เขาและพนักงานคนอื่น รวมถึง Son มีเวลานอนเพียงแค่คืนละสองชั่วโมงติดต่อกันนานหลายเดือน เพื่อปิดดีลกับธุรกิจที่บริษัทให้ความสนใจ

และเมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้เงิน Son ก็พร้อมทุ่มไม่อั้น เหมือนเมื่อครั้งอนุมัติงบ 876 ล้านดอลลาร์ เพื่อปิดดีลธุรกิจบรอดแบนด์รายหนึ่ง ในตอนต้นยุค 2000

“เขาบอกแค่ว่า “ผมเชื่อใจคุณ” ประโยคนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าต้องไม่ทำให้เขาผิดหวัง” 

และหลังจากเปิดไฟเขียวให้เดินหน้าเต็มที่แล้ว Son ก็มักจะวกเข้ามาไถ่ถามความคืบหน้าทุกวัน และคอยให้คำแนะนำดีๆจนกระทั่งเขาปิดดีลได้

 

เถียงในที่ประชุมเพื่อบทสรุปที่ดีที่สุด

 

 

เคล็ดลับของ Son ในการหาคำตอบให้กับปัญหา คือการคุยกับคนที่ทำงานจริงๆ และเถียงแบบตรงไปตรงมากับอีกฝ่าย เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ดีที่สุด แทนที่จะอ้ำอึ้งไปหาทางแก้กันทีหลัง

Son เล่าว่าเขาเคยทุบโต๊ะ และเรียกอีกฝ่ายว่า “ไอ้โง่” ในการประชุมผ่านคอนเฟอเรนซ์คอลกับวิศวกรรายหนึ่งของ Sprint Corporation ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมของสหรัฐ เพราะเชื่อว่าการพูดคุยกับคนที่อยู่หน้างานโดยตรง แทนที่จะคุยกับผู้จัดการหรือคนที่อยู่ในตำแหน่งบริหาร จะได้คำตอบที่ถูกต้องที่สุด แทนที่จะรอให้คนเหล่านั้นมากลั่นกรอง หรือบิดเบือนคำตอบให้ฟังดูดี

 

แรงขับและความทะเยอทะยาน

 

 

Son เชื่อว่าผู้บริหารที่ดีทุกคน ส่วนใหญ่จะมีจุดเด่นในเรื่องไหวพริบและความฉลาดติดตัวกันอยู่แล้ว แต่การจะเป็นผู้บริหารที่ยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จได้นั้น ยังจำเป็นต้องมี แรงขับ (drive) และความทะเยอทะยาน (ambition) ด้วย

เพราะหากปราศจากสองสิ่งนี้ หลายคนก็มักจะทิ้งงานไปกลางคัน แม้จะมีศักยภาพมากพอที่จะทำให้ลุล่วงได้

หนึ่งในผู้บริหารที่ Son ชื่นชอบเป็นพิเศษ ก็คือ Steve Jobs แห่ง Apple นั่นเอง พร้อมยกว่าการผลักดันให้ iPhone รุ่นแรกวางตลาด ทั้งที่ในยุคนั้น สมาร์ทโฟนแบบจอสัมผัสเป็นเรื่องล้ำยุคมาก แต่สุดท้าย ก็กลายเป็นบรรทัดฐานที่ทุกบริษัทต้องปฏิบัติตามในที่สุด

 

อ่านเพิ่มเติม

เมื่อ Jerry พบ Jack: จาก Yahoo! สู่ Alibaba

Masayoshi Son นักลงทุนใจถึง

 

เรียบเรียงจาก

Masayoshi Son: Inside the eccentric world of the controversial Japanese billionaire investor

The ‘crazy’ Japanese billionaire who met Donald Trump has a 300-year plan

Drive and ambition lead to success

 

สำหรับเพื่อนๆที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับนวัตกรรม และธุรกิจ และต้องการพัฒนาตัวเองเพื่ออยู่ข้างหน้าเสมอ สามารถกด like เพจ AHEAD.ASIA เพื่อติดตามเรื่องราวที่มีประโยชน์ และข่าวสารกิจกรรมที่น่าสนใจได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆกัน

Subscribe to Our Newsletter

Loading
Total
34
Shares
Previous Article

สื่อญี่ปุ่นสุดล้ำใช้ AI สรุปข่าวออกจอ

Next Article

D-Next ประเดิมโรดโชว์ที่สิงคโปร์-มาเลเซีย ได้ 2 สตาร์ทอัพตีตั๋วรอบ 30 ทีม

Related Posts