เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองเทมพี รัฐแอริโซน่า ระบุ Uber อาจรอดจากข้อหารถไร้คนขับพุ่งชนคนจนมีผู้เสียชีวิต เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ Toyota ซึ่งอยู่ระหว่างพัฒนารถไร้คนขับเช่นกัน ประกาศยุติการทดสอบในสหรัฐอเมริกา อย่างไม่มีกำหนด เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำสอง
อุบัติเหตุที่รถยนต์ไร้คนขับชนคนเสียชีวิตเป็นรายแรกของโลกครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาราว 22.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) เมื่อรถแท็กซี่ Volvo XC90 SUV ของ Uber พุ่งชน Elaine Herzberg หญิงวัย 49 ที่กำลังจูงจักรยานข้ามถนน แม้หลังเกิดเหตุเธอจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน แต่ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิ้นใจลงไปที่โรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม Sylvia Moir ผู้กำกับการตำรวจแห่งเทมพี เผยกับ San Francisco Chronicle ว่ามีความเป็นไปได้ที่ Uber จะพ้นผิดจากคดีนี้ เมื่อพบว่าผู้เสียชีวิตไม่ได้ข้ามถนนตรงบริเวณทางม้าลาย แม้จะมีทางข้ามที่เป็นกิจลักษณะห่างออกไปราว 100 หลาด้วย และช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นตอนพลบค่ำ แสงสว่างไม่เพียงพอ แม้ว่าอาจยังคงมีการตั้งข้อหากับ Rafaela Vasquez ผู้ควบคุมรถคันดังกล่าวอยู่ก็ตาม
“เรามีการตั้งข้อสงสัยเบื้องต้นว่า Uber ไม่น่าจะถูกลงความเห็นว่าเป็นฝ่ายผิดในอุบัติเหตุครั้งนี้ แม้จะยังไม่ตัดความเป็นไปได้ในการตั้งข้อหากับผู้ควบคุมรถด้านในก็ตาม” Moir กล่าว “มันมีอันตรายเสมอในการข้ามถนนในช่วงกลางคืน แม้มันจะมีแสงส่องสว่าง และมีทางม้าลายอยู่ก็ตาม”
“ชัดเจนว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะหลบเลี่ยงอุบัติเหตุลักษณะนี้ ในการใช้โหมดขับเคลื่อนอัตโนมัติของรถ ด้วยปัจจัยที่ว่าผู้เสียชีวิตโผล่จากเงามืดมายังกลางถนนในฉับพลัน”
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ Uber ก็ประกาศยุติการทดสอบการวิ่งรถไร้คนขับในแถบอเมริกาเหนืออย่างไม่มีกำหนด เช่นเดียวกับ Toyota Motor Corp ซึ่งแถลงว่า อุบัติเหตุที่เกิดกับ Uber เป็นเพียงเหตุสุดวิสัย แต่ก็ขอยุติการทดสอบไว้ก่อนเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องผลกระทบทางสภาพจิตใจของผู้ควบคุมรถทดสอบ
ฝ่ายวิจัยรถไร้คนขับ Toyota Research Institute ในสหรัฐฯ เปิดทดสอบการวิ่งระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบ รวมถึงทดลองใช้งาน Driver Assist System ในแคลิฟอร์เนีย และมิชิแกน มาได้พักหนึ่ง แต่ก็ต้องยุติลงชั่วคราวแล้วในตอนนี้ ยกเว้นในสถานที่ทดสอบจำเพาะและรวมถึงที่ญี่ปุ่น
“เราตัดสินใจในเรื่องนี้เพื่อประโยชน์ของผู้ควบคุมรถของเรา เพราะเราตระหนักได้ว่าสิ่งเหล่านี้อาจสร้างผลกระทบทางสภาพจิตใจกับตัวพวกเขาได้” Toyota แถลง “นี่จะเป็นการพักชั่วคราว และแน่นอนว่าเป็นการป้องกันไว้ก่อน”
AHEAD TAKEAWAY
นับเป็นข่าวดีของ Uber กับการที่ผู้กำกับการตำรวจแห่งเทมพี แย้มว่าพวกเขาน่าจะรอดตัวจากคดีนี้ เมื่อหลักฐานโน้มเอียงไปยังผู้เสียชีวิตว่าเป็นฝ่ายผิดมากกว่า
กระนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็เริ่มส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไร้คนขับเป็นโดมิโน่แล้ว เริ่มจาก Uber เองที่ต้องพักแผนการทดสอบรถในแถบอเมริกาเหนือไปก่อน ตามด้วย Toyota ที่ยืนยันเป็นรายต่อมาว่า การทดสอบวิ่งรถบนถนนสาธารณะในสหรัฐฯ ต้องพักไปก่อนเช่นกัน โดยยังไม่มีกำหนดกลับมาวิ่งใหม่อีกครั้ง
ทางฝั่ง General Motors (GM) และ Ford เป็นสองเจ้าที่ยืนยันว่าจะเดินหน้าทำการทดสอบต่อไป แต่ก็เน้นย้ำว่าความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน สำคัญเหนืออื่นใด
โฆษกของ GM กล่าวว่า “การสร้างความปลอดภัยให้กับผู้คนในชุมชนและวงจรของเรา อันรวมถึงพนักงานของเราเอง คือหัวใจของบริษัทของเรา แผนการของเราในการเปิดตัว (รถไร้คนขับ) ปี 2019 ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่อย่างที่เราบอกไว้ตั้งแต่แรก ว่าเราจะเปิดตัวก็ต่อเมื่อเรารู้แน่ชัดแล้วว่าระดับความปลอดภัยมีมากเพียงพอ”
เรียบเรียงจาก
Official: Uber unlikely at fault in deadly self-driving car crash
Toyota suspends autonomous vehicle testing in U.S. after Uber crash
Toyota halts testing of autonomous vehicles on US public roads
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับนวัตกรรมและธุรกิจ และต้องการพัฒนาตัวเองเพื่ออยู่ข้างหน้าเสมอ สามารถกด like เพจ AHEAD ASIA เพื่อติดตามเรื่องราวที่มีประโยชน์ และข่าวสารกิจกรรมที่น่าสนใจได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆ กัน