ว่ากันว่าวงจรของนักฟุตบอลอาชีพนั้นแสนสั้น น้อยนักจะอยู่ยั้งยืนยงได้เหมือน Gianluigi Buffon, Ryan Giggs หรือ King Kazu
โดยภาพกว้างๆ นักเตะอาชีพมักเริ่มต้นที่อายุ 20 แล้วไปสิ้นสุดปิดฉากเอาช่วง 30 กลางๆ นั่นคือมีเวลาให้พวกเขาสร้างตัวประมาณ 14-15 ปี… ไม่นับพวกโชคร้าย เจ็บหนักจนต้องเลิกเล่นก่อนวัยอันควร
ถ้าระแวดระวังดี ชีวิตหลังจากนั้นก็อยู่ได้สบายด้วยเงินมหาศาลที่หามาได้จากน้ำพักน้ำแรงบนสังเวียนหญ้า แต่ถ้าติดประมาทเลินเล่อ เอาเงินไปลงขวดลงไพ่ ใช้สุรุ่ยสุร่ายในทางที่ผิด ก็มีกรณีศึกษาให้เห็นอยู่บ้างกับชีวิตที่เสียศูนย์เอาตอนแก่
ในแนวทางการสร้างตัว ท่านว่าต้องให้มี ‘รายได้’ มากกว่า 1 ช่องทาง อาชีพหลักมีแล้ว อาชีพเสริมก็ควรมีพ่วง นักฟุตบอลก็เช่นกัน ถ้ามัวรับรายได้จากเงินเดือนค่าเหนื่อยเพียงอย่างเดียวอาจไม่พอในระยะยาว
และเหล่านี้ คือ ‘บุคคลตัวอย่าง’ ของวงการลูกหนัง ที่ไม่ต้องรอให้ถึงวันเลิกเล่นก่อนค่อยมองหาลู่ทางชีวิต
เมื่อพ่อค้าแข้งมาบรรจบกับเส้นทางสายธุรกิจ
เข้าเป้าโป๊ะเชะ จนเลิกเล่นฟุตบอลวันนี้วันพรุ่งยังได้…
Vincent Kompany
32, Manchester City
กัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุด เป็นหัวใจสำคัญในแนวรับของสโมสรมานาน นับแต่ย้ายจากฮัมบูร์ก (Hamburger SV) ในเยอรมนี มายังแมนเชสเตอร์เมื่อปี 2008
พร้อมๆ กันกับการประสบความสำเร็จในสนาม (แชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 1, ลีกคัพ 3) เซนเตอร์แบ็กทีมชาติเบลเยียมเรียนจบปริญญาโทบริหารธุรกิจ (Master of Business Administration – MBA) จากมหาวิทยาลัย Manchester Business School เมื่อปลายปีที่แล้ว หลังใช้เวลาร่ำเรียนมาร่วม 4 ปี
การลงทุนลงแรงเรียนหลักสูตรนี้ Kompany ยอมรับแต่โดยดีว่าเป็นไปเพื่อการทำธุรกิจนอกสนาม “ผมเป็นผู้ประกอบการเองอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่ผมจะสนใจในวิชาการทำธุรกิจ ซึ่ง MBA สนับสนุนผมได้ทั้งในเรื่องของการเรียนรู้และการทำวิจัย”
ในปี 2014 Kompany เปิดสปอร์ตบาร์ชื่อว่า Good Kompany ถึง 2 แห่งในบ้านเกิด สาขาหนึ่งอยู่ที่บรัสเซลส์ อีกสาขาอยู่ที่เมืองอันท์เวิร์ป แต่ก็ปิดตัวลงไปหลังจากนั้นได้ราว 1 ปี เนื่องจากรายได้ไม่คุ้มทุน
แต่นั่นไม่ใช่เพียงธุรกิจเดียวที่เขากระโจนเข้าร่วม – ในปี 2010 Kompany เข้าเป็นผู้บริหารของ Elite Limousines ธุรกิจเช่ารถหรูในกรุงลอนดอนและเมืองแมนเชสเตอร์ ด้วยจำนวนหุ้น 1 ใน 3, ปี 2011 ด้วยจำนวนเงินไม่แน่ชัด เข้าร่วมหุ้นกับคนสนิทเพื่อเปิดกิจการ Bonka Circus บริษัทเอเยนซี่โฆษณาในเบลเยียม หลังจากนั้นทำกำไรได้ 5 ล้านยูโร, ปี 2013 เข้าเทคโอเวอร์สโมสรในดิวิชั่น 3 เบลเยียม และเปลี่ยนชื่อให้เป็น BX Brussels เพื่อสร้างนักเตะเยาวชนท้องถิ่น
และด้วยดีกรี MBA จึงมั่นใจได้ว่า Kompany จะเดินหน้าทำอาชีพ ‘นักธุรกิจ’ ต่อไปยาวๆ เมื่อใดก็ตามที่เขาตัดขาดจากสังเวียนหญ้า
Andres Iniesta
33, FC Barcelona
ว่ากันว่า เวลาโลดแล่นในสนามของยอดกองกลางบาร์เซโลน่า เจ้าของประตูพาทีมชาติสเปนถึงแชมป์โลก 2010 เหลืออีกไม่มากนัก ด้วยวัย 33 กำลังจะครบ 34 ปีเต็มเดือนหน้า และการอยู่โยงรับใช้ต้นสังกัดมาตั้งแต่เป็นแข้งเยาวชน กลางยุค 90
ในสนามอาจเหลือเวลาไม่นาน แต่นอกสนาม ถือว่า Iniesta ไปได้ยาวๆ
ครอบครัวของเขามีธุรกิจผลิตไวน์ โดยเป็นเจ้าของสวนองุ่นถึงเกือบ 25 เอเคอร์ที่เมืองฟวนเตอัลบีย่า และพร้อมๆ กับความมีชื่อเสียงของตัวลูกชาย ไวน์ยี่ห้อนี้ก็ได้รับความนิยมจากชาวสแปนิชไปควบคู่กัน จนกระทั่งตัวมิดฟิลด์ร่างเล็กเข้ามาจอยกิจการ และมีไวน์ในชื่อของตัวเองอย่าง ‘Bodega Iniesta’ วางขายทั่วประเทศ
หนึ่งในแพ็คเกจวางขายออนไลน์ ‘Present Pack’ ที่มีไวน์ Bodega Iniesta 3 ขวด บรรจุในกล่องกระดาษ สนนราคา 17 ยูโร ถึงกับสกรีนรูป Iniesta ลงบนฝากล่องด้านในเลยทีเดียว
Iniesta ยังมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสรอัลบาเซเต้ (Albacete Balompie) ทีมระดับเซกุนด้า ดิบิซิออน (ลีกลำดับ 2 ของประเทศ) ภายหลังทุ่ม 420,000 ยูโร เมื่อปี 2011 เพื่อเข้าลงทุนกับอดีตต้นสังกัดแรกตอนยังไม่เข้าแคมป์บาร์ซ่า แถมยังควักอีก 240,000 ยูโร จ่ายค่าจ้างคงค้างของบรรดานักเตะ ช่วยให้ทีมไม่ต้องถูกควบคุมกิจการ (ล้มละลาย) ในปี 2014 ด้วย
Ryan Bertrand
28, Southampton
ไม่ใช่ใครที่โด่งดังนัก และแทบจะไม่เจอข่าวคราวนอกสนาม แต่คงสามารถจัดให้แบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษ อดีตเด็กปั้นเชลซี เป็น ‘นักธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรง’ ก็ว่าได้
“ผมเป็นคนที่ชอบทำอะไรใหม่ๆ” Ryan Bertrand กล่าวไว้ในครั้งหนึ่ง “นักฟุตบอลยุคเก่า บางคนเมื่อเล่นถึงอายุ 30 กลางๆ พวกเขาก็จะแขวนสตั๊ดและเริ่มคิดว่า ‘เราจะทำอะไรต่อไปดี?’ แต่ผมไม่ต้องรอให้ถึงวันนั้น ผมมีทีมนักธุรกิจที่ยอดเยี่ยมอยู่รอบตัว และเรากำลังเดินเครื่องกิจการของเราอย่างแข็งขัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นธุรกิจในตลาดเทคโนโลยี”
หรือจะเรียก ‘ดาวเตะ 4.0’ ก็คงไม่ผิด เมื่อ Bertrand เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Silicon Markets สตาร์ทอัพสาย FinTech (Financial Technology) ซึ่งมีที่ตั้งในกรุงลอนดอน เมื่อปี 2015
Silicon Markets ของเขา เป็นบริษัทที่จัดหาซอฟท์แวร์ Machine Learning และอัลกอริธึมปฏิบัติงานให้กับผู้ค้าปลีกในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและ CFD
ขณะเดียวกัน Bertrand ยังเป็นเจ้าของแอพพลิเคชัน FootiEmoji ร่วมกับอดีต 2 เพื่อนร่วมทีมอย่าง John Terry และ Jose Fonte ซึ่งคือแอพขายสติ๊กเกอร์ emoji รูปนักฟุตบอลสโมสรต่างๆ กว่า 30 ทีม (แน่นอน ตัว Bertrand ก็ต้องมีด้วย) สำหรับการนำไปใช้ในโซเชียลมีเดียเช่น Whatsapp และด้วยความเป็นประเทศบ้าบอลเข้าเส้นอย่างอังกฤษ แอพนี้จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างดี
“ผมได้เห็นแอพอีโมจิลักษณะนี้ในเกมกีฬาของฝั่งสหรัฐฯ และคิดว่ามันเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมมาก” อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ John Terry เผย “เมื่อ Ryan บอกผมว่าเขามีแผนจะสร้าง FootiEmoji ผมก็รีบตอบตกลงร่วมขบวนด้วยในทันที และหวังว่าแฟนบอลจะชอบมันเหมือนอย่างที่ผมชอบ”
Cristiano Ronaldo
33, Real Madrid
หนึ่งในสองนักเตะที่เก่งกาจที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน Cristiano Ronaldo มีเจตนารมณ์แน่วแน่ในการประสบความสำเร็จกับเส้นทางค้าแข้ง ควบคู่ไปกับการทำธุรกิจนอกสนามที่จะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเขาและครอบครัว ดีขึ้น หลังจากต้องเจอสภาพชีวิตที่แร้นแค้นในวัยเด็ก
ในขณะที่ Lionel Messi คู่ปรับแห่งบาร์ซ่า ไม่โดดเด่นนักเรื่องธุรกิจ (ดูเหมือน Messi จะมีแค่อสังหาริมทรัพย์ในสเปนและอาร์เจนติน่า นอกนั้นทำเงินได้จากฟุตบอลและสปอนเซอร์)
ฝั่งกัปตันทีมชาติโปรตุเกสมีทั้ง
• แบรนด์แฟชั่น CR7 มีร้านสองสาขาในลิสบอน และมาเดยร่า
• แบรนด์ชุดชั้นในและถุงเท้า
• แบรนด์รองเท้า CR7 Footwear
• แบรนด์แฟชั่น Cristiano Ronaldo & Sacoor Brothers
• กางเกงยีนส์ CR7 Denim
• ธุรกิจโรงแรม Pestana CR7 (โปรตุเกส, สเปน, นิวยอร์ค, โมร็อกโก)
• ธุรกิจน้ำหอม Cristiano Ronaldo Legacy
• ฟิตเนส CR7 Crunch Fitness
• พิพิธภัณฑ์ CR7 Museum (ในวันแกรนด์โอเพนนิ่ง มีผู้เข้าชมมากกว่าหมื่นราย ทุกคนเสียค่าเข้า 5 ยูโรต่อหัว)
• แอพถ่ายภาพเซลฟี่ CR7Selfie (ช่วยการกุศล Save the Children)
ถ้าทั้งหมดนั้นยังไม่พอ Ronaldo ก็ยังทำสัญญากับแบรนด์ใหญ่อย่าง Tag Heuer, Nike, Emporio Armani, Herbalife, Castrol, Samsung, KFC, Clear Men, ฯลฯ และ ฯลฯ
ทั้งหมดทั้งมวล ได้ผลเป็นตำแหน่ง The World’s Highest-Paid Athletes ประจำปี 2017 ที่ Forbes แปะป้ายให้กับ Ronaldo
Maximilian Beister
27, Uerdingen 05
ไม่ต้องเสียเวลานึกนานว่าหมอนี่ใคร เพราะคงต้องเป็นคอบอลเยอรมันเข้าเส้นเท่านั้นถึงจะคุ้นชื่อ Maximilian Beister
กองหน้าทีมชาติเยอรมนีชุดเยาวชน ยู-21 อดีตเด็กปั้นฮัมบูร์ก ไม่อาจต่อยอดแจ้งเกิดกับต้นสังกัดในเวลานั้นได้ ถูกปล่อยย้ายไป ไมน์ซ 05 รวมถึงเล่นยืมตัวกับอีก 2-3 สโมสร กระทั่งเมื่อต้นปีล่าสุดนี้ย้ายไป อัวร์ดิงเก้น 05 ทีมในระดับ Regionalliga West ที่เป็นเพียงลีกกึ่งอาชีพเท่านั้น (ลีกลำดับที่ 4 ในปิระมิดบอลเยอรมัน)
ในวัยเพียง 27 ปี แต่ลดเพดานบินลงมาต่ำขนาดนี้ คงพอแน่ใจได้อย่างหนึ่งว่า Beister คง ‘ไม่เน้น’ กับฟุตบอลมากนักแล้ว
บางที สิ่งที่อยู่ในหัวของเขามากกว่าคือเรื่องธุรกิจ เงินๆ ทองๆ สัมมาอาชีพนอกสังเวียนแข้ง
Beister คือผู้คิดค้น ‘Snaxcup’ นวัตกรรมใหม่ของถ้วยชามใส่อาหาร ภายใต้โจทย์ว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้สามารถถือทั้งแก้วน้ำและจานข้าวได้ในมือเดียว เพื่อความสะดวกสบายที่มากขึ้นของผู้ชมภาพยนตร์ในโรง และมันถูกกลั่นกรองออกมาเป็น Snaxcup ‘The Snacking Revolution’ ในปี 2014 (ด้วยสิ่งนี้สิ่งเดียว ก็กลายเป็นบริษัท Future Cups ในภายหลัง)
นำอุปกรณ์สองชนิดมาเชื่อมต่อกันเป็นชิ้นเดียว ด้านล่างคือกระบอกน้ำ ด้านบนคือชามสำหรับใส่ของขบเคี้ยว (ป๊อปคอร์น, มันฝรั่งทอด, นาโชส์ ฯลฯ) โดยมีหลอดยาวจากกระบอกน้ำด้านล่างทะลุชามขึ้นข้างบน ซึ่งด้วยสิ่งนี้ คุณจึงไม่จำเป็นต้องหิ้วของพะรุงพะรังหรือสลับถือสลับวางให้วุ่นวาย
ที่สำคัญ ยังไม่ได้จำกัดการใช้งานในโรงหนังอย่างเดียว คุณสามารถใช้เจ้านี้ได้ในทุกที่ แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือบนอัฒจันทร์สนามฟุตบอล
Snaxcup ยังโด่งดังขึ้นเป็นทวีคูณเมื่อ Jurgen Klopp ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลในตอนนี้ เคยถ่ายรูปโปรโมตให้กับ Beister ฟรีๆ มาแล้วด้วย
Zlatan Ibrahimovic
36, Los Angeles Galaxy
ว่ากันว่าการย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเล่นในเมเจอร์ลีกซอคเก้อร์ สหรัฐอเมริกา ในสังกัด แอลเอ แกแล็กซี่ ทำให้รายได้ในส่วนค่าจ้างของ Zlatan Ibrahimovic หดหายไปถึงกว่า 95 เปอร์เซ็นต์
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา
• ปี 2011 ดาวยิงชาวสวีดิชออกหนังสืออัตชีวประวัติ ‘I am Zlatan’ ที่ว่ากันว่าทำลายทุกสถิติการขาย เพียงครึ่งปีก็ขายได้กว่า 500,000 เล่ม ทั้งยังทำออกในหลายภาษาและหลากแพลตฟอร์ม (ทั้งหนังสือเล่มและอี-บุ๊ค) จนถูกเสนอชื่อชิงรางวัล August Prize ในปี 2012
• ปี 2013 เปิดตัวแอพพลิเคชัน ‘Zlatan Unplugged’ ให้ดาวน์โหลดได้ในประเทศสวีเดน, บราซิล, อาร์เจนติน่า, ไอร์แลนด์, อังกฤษ, สเปน, แอฟริกาใต้
• ปี 2014 ทำคอลเล็กชั่นสแตมป์ส่วนตัว เป็นรูปของเขาจำนวน 5 แบบ วางขายในสวีเดน
• ปี 2016 ร่วมทุนกับเพื่อนร่วมทีมปารีส แซงต์-แชร์กแมง (เวลานั้น) 3 คน สร้างกลุ่มทุน Cirooo S.R.L ด้วยเป้าหมายเพื่อลงทุนกับบริษัทอื่นๆ ซึ่ง Ibrahimovic เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด 58%
• ปี 2016 เขายังทำแบรนด์เสื้อผ้า A-Z โดยมีทั้งไลน์เสื้อผ้าผู้ชาย, ผู้หญิง และเด็ก ปัจจุบันมีสาขาใน 21 ประเทศทั่วยุโรป เช่นเดียวกับขายออนไลน์ส่งทั่วโลก และตัว Ibrahimovic เองก็ยังคงเป็นนายแบบหลักของแบรนด์ตัวเอง
• ด้วยการย้ายไปเล่นที่สหรัฐฯ จึงคาดว่า A-Z จะไปเปิดสาขาที่แอลเอในไม่ช้า
• ปี 2017 เปิดตัวเกมโทรศัพท์มือถือ ‘Zlatan Legends’ อันเป็น The official game of Zlatan Ibrahimovic ดาวน์โหลดได้ทั้งใน App Store และ Google Play โดยในการรีวิวของผู้ใช้ Apple เกมนี้ได้คะแนน 4.8 จาก 5 คะแนนเต็ม
แม้ตัวจะไม่ได้อยู่ในเวทีฟุตบอลยุโรปแล้ว แต่เรื่องของรายได้ ยังคงกินจากยุโรปไปยาวๆ
Wendell Lira
29, เลิกเล่นแล้ว
อดีตกองหน้าของหลายทีมในลีกบราซิล เจ้าของรางวัลประตูยอดเยี่ยมโลก FIFA Puskas Award ปี 2015 ถูกลือว่าครั้งหนึ่ง ยอดทีมในอิตาลีอย่าง เอซี มิลาน เคยรุกเข้าทาบทามตัว แต่พลาดหวังไปเนื่องจาก โกยาส ตอนสังกัดของเขาในตอนนั้น ไม่ยอมปล่อย
Wendell Lira มีเส้นทางชีวิตที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อเขาตัดสินใจเลิกเล่น หันหลังให้กับฟุตบอลตั้งแต่อายุเพียง 27 ปี (ส่วนหนึ่งเพราะปัญหาบาดเจ็บเรื้อรัง) แล้วหันไปยึดอาชีพ ‘เกมเมอร์’ เต็มรูปแบบ
เกมถนัด–ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา ก็คือเกมฟุตบอลยอดฮิตอย่าง FIFA นั่นเอง
โดยไม่รอให้ถึงวันแขวนสตั๊ด, ในปี 2012 Wendell เข้าร่วมแข่งทัวร์นาเมนต์อี-สปอร์ตในรัฐโกยาส …และได้แชมป์มาครอง
จากนั้นในปี 2015 เขาพัฒนาตัวจนมีอันดับแรงกิ้งเกม FIFA สูงในบราซิล จนเกือบจะได้สิทธิ์เข้าแข่งรายการอี-สปอร์ตชิงแชมป์โลก FIFA Interactive World Cup ปี 2016 และแม้จะไม่ได้เข้าร่วม แต่ในภายหลังเขาก็ถูกท้าแข่งจากแชมป์โลกอย่าง Abdulaziz Alshehri ชาวซาอุดีอาระเบีย
Wendell ปราบแชมป์โลกลงด้วยสกอร์ 6-1
“ผมเฝ้าฝันมาตลอดถึงการใช้ชีวิตในฐานะนักเล่นเกม แต่ก็ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งมันจะเป็นจริงได้ ทว่าผมก็ทำสำเร็จ” Wendell กล่าว
รายงานจาก BBC ระบุว่า อเมริกาใต้ เป็นตลาดที่มีการเติบโตของอี-สปอร์ตสูงติดแถวหน้าของโลก มีทัวร์นาเมนต์แข่งขันรายการต่างๆ แทบไม่เว้นวัน และมีการถ่ายทอดสดออกไปทั่วประเทศอย่างสม่ำเสมอในรายการใหญ่ ซึ่งก็ทำให้ Wendell สามารถปักหลักกับอาชีพนี้ได้อย่างหนักแน่น
ปัจจุบัน Wendell เป็นนักแข่งอี-สปอร์ตมีสังกัด อยู่ภายใต้สัญญาระยะ 5 ปีของบริษัทในเมืองปอร์โต้ อเลเกร, ทำรายได้จากการเข้าแข่งขันหลายรายการ และมีช่อง YouTube ของตัวเอง ‘WLPSKS’ ที่มีผู้ติดตามกว่า 5 แสนคน
“ผมในตอนนี้ ทำเงินได้มากกว่าตอนเล่นฟุตบอลอาชีพ เยอะ” เขาว่า
Mathieu Flamini
34, Getafe CF
ไม่ใช่ดาวเตะที่โดดเด่นนักในตลอดช่วงค้าแข้งกับทั้ง อาร์เซน่อล, เอซี มิลาน หรือ คริสตัล พาเลซ แม้จะเคยถูกเรียกไปติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ แต่ก็ได้เล่นแค่ 3 นัดเท่านั้น ทั้งยังไม่เคยผ่านทัวร์นาเมนต์ใหญ่อย่างฟุตบอลโลกหรือยูโรมาก่อน
ในวัย 34 Flamini ที่ถูก คริสตัล พาเลซ ปล่อยตัวเป็นฟรีเอเยนต์มาร่วมครึ่งปี เข้าสังกัดเคตาเฟ่ ทีมขนาดกลางในสเปน
แต่ปัจจุบัน Flamini คือนักธุรกิจที่ ‘น่าจับตาที่สุด’ ในบรรดานักฟุตบอล
แม็กกาซีน NME เคยยกให้ Flamini เป็นหนึ่งใน ‘บุคคลแห่งปี’ ประจำปี 2015 มาแล้ว (ร่วมกับ Taylor Swift, Adele, JJ Abrams และอีก 8 คนดัง) จากกิจกรรมนอกสนามล้วนๆ
ย้อนไปในปี 2008 Flamini ร่วมกับนักธุรกิจชาวอิตาเลียน Pasquale Granata ก่อตั้ง GF Biochemicals สตาร์ทอัพสายพลังงานทดแทน (ชื่อ GF มาจากตัวอักษรหน้าสุดของชื่อสกุลทั้งสอง บวกกัน) ความสำคัญของบริษัทนี้คือการริเริ่มการใช้สาร Levulinic Acid ในภาคอุตสาหกรรมเป็นแห่งแรกของโลก ภายหลังผ่านการค้นคว้าวิจัยร่วมกับกลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย University of Pisa ยาวนานกว่า 7 ปี
Levulinic Acid ที่กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ (US Department of Energy – DoE) ยกให้เป็น 1 ใน 12 อณูสารประกอบที่สามารถใช้ ‘ทดแทนน้ำมันได้ทุกรูปแบบ’ นั้น ผลิตจากวัตถุเหลือใช้ Biomass เช่นซังข้าวโพดหรือเศษไม้ใบหญ้า และสามารถนำไปใช้ได้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่นพลาสติก, เชื้อเพลิง หรือเภสัชกรรม
หากไปได้สวย อนาคต Levulinic Acid จะเป็น ‘จุดเปลี่ยนสำคัญ’ ของการใช้พลังงานในโลก
“เราสร้าง GF Biochemicals ขึ้นด้วยจุดมุ่งหมายของการค้นหาทางเลือกใหม่ที่ยั่งยืนนอกเหนือจากน้ำมัน” Flamini กล่าว “ผมเป็นคนที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมาตลอด และรู้สึกเป็นห่วงถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และภาวะโลกร้อน”
“นักวิจัยบอกกับเราว่า Levulinic Acid คืออนาคตใหม่ นี่คือการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมกับความสำเร็จ”
เวลานี้ GF Biochemicals มีสำนักงานทั้งในฮอลแลนด์, สหรัฐอเมริกา และอิตาลี โดยมีพนักงานจำนวนกว่า 400 คน ซึ่งเมื่อปี 2016 ก็ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัทพลังงานสัญชาติอเมริกันอย่าง Segetis เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี Bioplastic ด้วย
ส่วนตัวของ Flamini ไม่แน่ชัดว่าเขามีทรัพย์สินส่วนตัวมากน้อยขนาดไหน
เพียงแต่ GF Biochemicals ของเขา ถูกประเมินว่าจะมีมูลค่าในตลาดสูงถึงหลัก… 20,000 ล้านปอนด์
Faiq Bolkiah
19, Leicester City
คุณอาจไม่เคยได้ยินชื่อเขามาก่อน และบางทีก็อาจไม่ได้ยินเลย–ในกรณีที่เขาเทิร์นโปรไม่ผ่าน
แต่แข้งเยาวชนในแคมป์เลสเตอร์ ซิตี้ อย่าง Faiq Bolkiah เจ้าหนูวัยย่าง 20 กำลังมีภาพจำในฐานะ ‘นักเตะที่ร่ำรวยที่สุดในโลก’ แห่งยุคสมัยปัจจุบัน
ไม่ใช่ Cristiano Ronaldo, Lionel Messi หรือ Neymar ที่ยึดครองสถานะนี้ แต่คือ Bolkiah ที่แม้กระทั่งการยึดเส้นทางลูกหนังเป็นอาชีพก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะออกหัวหรือก้อย และลำพังอายุเท่านี้ ก็คงยังไม่เริ่มคิดทำธุรกิจอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
แต่ที่เด็กปั้นเลสเตอร์รายนี้ร่ำรวยอย่างมหาศาล เป็นเพราะ ‘คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด’ โดยแท้
เป็นลูกชายของ Jefri Bolkiah มกุฏราชกุมารแห่งบรูไน ผู้ซึ่งเป็นน้องชายของ Hassanal Bolkiah สุลต่านบรูไน นั่นก็คือ Faiq Bolkiah คือหลานชายของ ‘กษัตริย์แห่งบรูไน’ นั่นเอง
เกิดที่ลอส แอนเจลิส จากนั้นมาเติบโตและพำนักในประเทศอังกฤษ เข้าเรียนในวิทยาลัย Bradfield College พร้อมกับเล็งลู่ทางประกอบอาชีพบนถนนฟุตบอล ด้วยตำแหน่งตัวรุกริมเส้น เข้าร่วมแคมป์สโมสรนิวบิวรี่ (AFC Newbury) ตอนอายุไม่ทันครบสิบขวบ ก่อนย้ายสู่ เซาธ์แฮมป์ตัน, อาร์เซน่อล, เชลซี กระทั่งมาจอยกับ เลสเตอร์ เมื่อปี 2016 เป็นต้นมา
ในวัย 19 กำลังจะครบ 20 ปีเต็มในเดือนหน้า Bolkiah ยังคงอยู่ในทีมสำรองของเลสเตอร์ ไม่เคยได้เล่นทีมชุดใหญ่มาก่อน แต่ก็ถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติบรูไนชุดใหญ่เป็นที่เรียบร้อย ได้เล่นไปแล้ว 5 นัดยิง 1 ประตู รวมถึงผ่านซีเกมส์ปี 2015 มาแล้ว โดยที่ Bolkiah ซึ่งอายุแค่ 17 ในตอนนั้น ยังได้รับเลือกเป็นกัปตันทีม นำทัพรุ่นพี่อายุ 22-23 อีกต่างหาก
ความร่ำรวยของ Faiq Bolkiah มันขนาดไหน ต้องชี้เป้าไปที่ตัวคุณพ่ออย่าง Jefri ซึ่ง Daily Mirror ระบุว่าเจ้าชายบรูไนรายนี้ใช้เงินลงทุนไปกับโครงการต่างๆ ในประเทศ เป็นจำนวนถึงเกือบ 10,000 ล้านปอนด์ ในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา ขณะที่การจับจ่ายส่วนตัว ยังเคยใช้เงินประมาณ 35 ล้านปอนด์ภายในเดือนเดียวมาแล้ว กับการซื้อรถหรู, นาฬิกา และปากกาทองคำขาว มาประดับบารมี
ว่ากันว่า Jefri มีรถยนต์ในครอบครองถึงกว่า 2,300 คัน – พิมพ์ไม่ผิด สองพันสามร้อยคัน ในจำนวนนี้มี Bentley, Ferrari และ Rolls-Royce หลากหลายรุ่น นอกจากนั้นในงานฉลองครบรอบวันเกิด 50 ปี ยังเคยจ้าง Michael Jackson ไปจัดคอนเสิร์ตส่วนตัว …ด้วยการสร้างเวทีคอนเสิร์ตขึ้นมาโดยเฉพาะ และจ่ายค่าเสียเวลาให้กับ ‘King of Pop’ ขำๆ 12.5 ล้านปอนด์
ไม่ต้องทำธุรกิจใดใดให้เหนื่อย ในวัยเพียง 19 และยังไม่รู้ว่าจะเอาดีทางฟุตบอลได้หรือไม่
Faiq Bolkiah มีมูลค่าทรัพย์สินประเมินที่ 20,000 ล้านดอลลาร์ เท่านั้นเอง
และยังมี Michael ‘OwenCoin’ กับ ‘เสี่ยเบ็คส์’
Michael Owen อดีตดาวยิงคนดังคับโลกของลิเวอร์พูล, เรอัล มาดริด, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, ทีมชาติอังกฤษ เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมยุโรป Ballon d’Or ปี 2001 แขวนสตั๊ดเลิกเล่นไปตั้งแต่ปี 2013 และไม่มีทีท่าว่าจะหวนคืนวงการในฐานะโค้ชหรือผู้จัดการทีมใดใด
บางที นั่นคงเป็นเพราะ Owen กำลังมันมือกับธุรกิจนานาชนิดที่เขาเป็นเจ้าของ
ปี 2007 Owen ร่วมกับภรรยา Louisa เข้าซื้อกิจการฟาร์มม้าแข่งในเชสเชียร์ และค่อยๆ เพิ่มจำนวนม้าแข่งในครอบครองขึ้นจนมีมากกว่า 100 ตัว ซึ่งด้วยการมี Tom Dascombe เป็นครูฝึกม้าคู่ใจ ม้าในค่ายของอดีตศูนย์หน้าร่างเล็ก (และตัว Owen ก็ขึ้นควบเองในบางรายการ) ก็สามารถกวาดรางวัลมาครองชนิดนับกันไม่หวาดไม่ไหว เช่น July Stakes 2008, Superlative Stakes 2008, Queen Mary Stakes 2012, Irish St Leger 2014 และ Molecomb Stakes 2015
ปี 2013 Owen (และนักแข่งรถ Mark Webber) เข้าซื้อหุ้นจำนวนหนึ่งของโซเชียลเน็ตเวิร์คสำหรับคอกีฬา Sportlobster โดยมีการเผยในช่วงต้นปีที่แล้วว่า Sportlobster กำลังมีผู้ใช้งาน Active Users ถึงกว่า 1 ล้านคน
สำคัญสุดคือเมื่อ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา Owen จัดการเปิดตัว ‘Owen Coin’ (OWN) สกุลเงินดิจิทัล ผ่านการลงทุนใน Global Crypto Offering Exchange (GCOX) ของสิงคโปร์ จนนับได้ว่าเขาคือ (อดีต) นักฟุตบอลคนแรกสุดของโลกที่เข้าสู่วงการ Cryptocurrency โดยตรง (ถัดจากการเปิดรับสปอนเซอร์ CashBet Coin ของอาร์เซน่อล)
“เมื่อครั้งที่ราคาของ Bitcoin พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นสถิติในปีที่แล้ว ผมก็รู้ได้ทันทีว่าสกุลเงินดิจิทัลจะกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก” ดาวดังวัย 38 แถลงเปิดตัวที่ฮ่องกง “โลกกำลังหมุนไปข้างหน้า และบางครั้ง คุณก็ต้องกล้าคิดกล้าทำ”
ยังไม่มีการเปิดเผยรอบขายครั้งแรก แต่แผนการคือเงิน OWN จะมีราคา 10 ดอลลาร์ต่อ 1 หน่วย และผู้ซื้อสามารถใช้ซื้อสินค้าหรือบริจาคให้กับองค์กรใดก็ตามที่ Owen เป็นคนเลือก อีกทั้งในอนาคตก็จะสามารถใช้งานร่วมกับศูนย์ฝึกฟุตบอลและโปรแกรมฝึกสอนที่ตัวเขากำลังพัฒนาอยู่ด้วย
ด้าน David Beckham ดาวค้างฟ้าอดีตเพื่อนร่วมทีมเรอัล มาดริด ของ Owen เวลานี้คงสามารถเรียกเขาว่า ‘เจ้าสัวเบ็คส์’ หรือไม่ก็ ‘เสี่ยเบ็คส์’ ได้เต็มปาก แม้จะเป็นที่รู้กันดีถึงความร่ำรวยของตัวเขาตั้งแต่ตอนค้าแข้งอยู่ (1992-2013) แล้วก็ตาม
เคยเปิดโรงเรียนฟุตบอล David Beckham Academy ในปี 2015 ก่อนปิดตัวไปใน 4-5 ปีหลังจากนั้น แต่ธุรกิจของอดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษยังมีอีกมากมายหลายแขนงจนเหลือจะกล่าว–โดยเฉพาะแบรนด์แฟชั่น จนหลังจากเลิกเล่นไปในปี 2013 แล้วก็ยังมีชื่อเป็นท็อปของชาร์ตนักเตะที่ร่ำรวยที่สุดในโลกอยู่หลายหน
มีการเปิดเผยในช่วงปลายปีก่อนว่า Beckham และศรีภรรยา Victoria ได้รับเงินปันผลรวมเป็นจำนวน 29 ล้านปอนด์ จากอาณาจักรธุรกิจ Beckham Brand Holdings ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา
ปลายเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ‘เสี่ยเบ็คส์’ เข้าสู่ความท้าทายใหม่ของตัวเองด้วยการเป็น ‘เจ้าของทีมฟุตบอล’ เต็มตัว
การสืบสาวราวเรื่องต้องย้อนไปไกลถึงช่วงที่เขาย้ายจาก เรอัล มาดริด มาเล่นกับ แอลเอ แกแล็กซี่ ในปี 2007 ที่ในสัญญาพ่วงไว้ด้วยออปชั่นว่าสามารถ ‘ซื้อแฟรนไชส์’ สร้างสโมสรฟุตบอลเข้าร่วมเล่นในเมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์ ได้ด้วยราคา 25 ล้านดอลลาร์ อันเป็นสิทธิ์พิเศษที่ไม่เคยมีนักเตะคนไหนได้รับมาก่อน จากนั้นใน 7 ปีต่อมาจึงมีการยืนยันจาก Beckham ว่าจะใช้สิทธิ์นั้นอย่างแน่นอน
Beckham ร่วมกับนักธุรกิจอีก 5 คน–หนึ่งในนั้นคือ Masayoshi Son ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ SoftBank ฟอร์มกลุ่มทุน ‘Miami Beckham United’ เพื่อสร้างทีมในเมืองไมอามี่ รัฐฟลอริดา โดยเวลานี้ได้รับใบอนุญาตให้เป็นสโมสรเจ้าของแฟรนไชส์รายที่ 25 และตั้งเป้าเตรียมลงเล่นในเมเจอร์ลีกฤดูกาล 2020 ซึ่งจะมีการประกาศชื่อสโมสร รวมถึงโลโก้อย่างเป็นทางการอีกครั้งในอนาคต
แม้ยังไม่อาจแน่ใจได้ว่าทีมของ Beckham จะสามารถสร้างกำไรได้มากมายขนาดไหน (เมื่อเป็นที่รู้กันว่าธุรกิจฟุตบอล ต้องอาศัยทั้งเวลาและความทุ่มเท) แต่ก็ชัดเจนว่านี่คือกิจการที่ Beckham จะใช้เวลาคลุกคลีด้วยไปอีกยาวๆ
ไม่ใช่สตาฟฟ์โค้ช ไม่สนคุมทีม ไม่แยแสงานนักวิเคราะห์จอตู้
ระดับเสี่ยเบ็คส์ ต้องเป็น ‘เจ้าของสโมสร’ เท่านั้น
ก็คนมันรวย ช่วยไม่ได้!
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับนวัตกรรมและธุรกิจ และต้องการพัฒนาตัวเองเพื่ออยู่ข้างหน้าเสมอ สามารถกด like เพจ AHEAD ASIA เพื่อติดตามเรื่องราวที่มีประโยชน์ และข่าวสารกิจกรรมที่น่าสนใจได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆ กัน