50 บริษัทนวัตกรรมล้ำสุดขอบโลก

ในแต่ละปี Fast Company เว็บไซต์ที่นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม จะทำการจัดอันดับ 50 บริษัทที่มีนวัตกรรมล้ำสุดขอบโลก โดยในปีนี้ มีบริษัทที่อยู่ในข่ายมากกว่า 350 แห่ง ใน 36 ประเภทธุรกิจ

ตั้งแต่องค์กรใหญ่ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก จนถึงสตาร์ทอัพเล็กๆที่ขายหมากฝรั่งที่มีส่วนช่วยอนุรักษ์ป่าฝน

และนี่คือ 50 อันดับ บริษัทนวัตกรรมที่ล้ำสุดขอบโลก ที่จัดว่า “ล้ำ” สุด ณ ปัจจุบัน พร้อมเหตุผลที่ได้รับเลือก

 

#50 บริษัท ที่มีนวัตกรรมล้ำสุดขอบโลก

ก่อตั้งโดย AJ Capital Partners และซีอีโอ Ben Weprin เพื่อสร้าง ‘คอนเซ็ปต์โรงแรม’ ในธีมสถาบันการศึกษา ซึ่งตั้งใจสร้างขึ้นให้อยู่ในละแวกเดียวกับมหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐอเมริกา ตอนนี้เปิดแล้วเป็นจำนวน 10 แห่ง และมีแผนจะเปิด 25 แห่งภายในปี 2020 ทั้งยังมีเป้าหมายสูงสุดที่การเปิดให้ได้ 100 แห่งในทศวรรษถัดไป ซึ่งพวกเขาเชื่อว่า Graduate Hotels เหล่านี้จะเป็นหนึ่งในภาพจำสำคัญของเมืองที่ตั้งสถาบันต่างๆ และสาขาที่เบิร์คลี่ย์, แคลิฟอร์เนีย ก็ยังเคยได้รับรางวัล Best Interior Design ปี 2017 จากแม็กกาซีน Inc. มาแล้วด้วย

 

เว็บไซต์หางานแถวหน้าของนิวยอร์ค เป็นช่องทางหางานชิ้นสำคัญของผู้ใช้อายุต่ำกว่า 35 ปี (60% ของผู้ใช้ 5 ล้านคนต่อเดือน เป็นกลุ่มอายุ 18-35 ปี) และยังเคยช่วยให้บริษัทใหญ่อย่าง Facebook และ Capital One ได้พนักงานในคุณสมบัติที่ต้องการมาแล้ว โดยในปีที่แล้ว The Muse มีการเปิดตัว BrandBuilder เครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถมองหาสถานที่ทำงานที่น่าตื่นเต้นและสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนได้ นอกจากนั้นมีการเผยว่า 95% ของธุรกิจที่ได้พนักงานผ่านทาง The Muse จะได้ร่วมงานกันเป็นเวลา 3 เดือนเป็นอย่างน้อย

 

ไม่ใช่แบรนด์รถยนต์หรูแต่คือ Rover.com บริษัท Airbnb และ Uber สำหรับสุนัข ที่ซีแอตเทิล โดยมีการใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เข้าช่วยในการจับคู่สัตว์เลี้ยงเข้ากับผู้ดูแลชั่วคราว และยังมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับเจ้าของเช่นการอัพเดตข่าว, ภาพถ่าย แม้กระทั่งแผนที่ GPS ที่สุนัขเดินในแต่ละวัน ซึ่งนับว่าธุรกิจนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี มีผู้ใช้บริการกว่า 200,000 ราย และมีข้อมูลที่ระบุว่าจะมีผู้ลงชื่อจองใช้บริการในทุกๆ 4 วินาที ซึ่งทำเงินให้พวกเขา 225 ล้านดอลลาร์ฯ ในปีที่แล้ว

 

ก่อตั้งในปี 2011 ที่นิวยอร์ค ให้บริการรีไฟแนนซ์กับบรรดานักศึกษาที่มีการกู้เงินเพื่อการศึกษา ทั้งช่วยให้ผู้ขอกู้ลดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยได้กว่า 24,000 ดอลลาร์ฯ ต่อปี หลังรีไฟแนนซ์ และให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุนในเวลาเดียวกัน ที่ผ่านมา CommonBond รีไฟแนนซ์เงินกู้เพื่อการศึกษาให้กับผู้เรียนระดับ MBA เป็นมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ฯ แล้ว และยังมีแผนจะเปิดให้บริการเงินกู้แก่บุคคลทั่วไป ไม่จำเพาะกับวงการการศึกษา ภายในปีนี้ด้วย

 

บริษัทให้บริการผู้ช่วยส่วนตัวจากนิวยอร์ค ก่อตั้งในปี 2014 โดยมีการผสมผสานแรงงานคนเข้ากับ AI เพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับในชีวิตประจำวันให้กับลูกค้า ตั้งแต่การปัดกวาดเช็ดถูทำความสะอาดที่พัก, ช็อปปิ้งสินค้าข้าวของเครื่องใช้, บริการซักอบรีดเสื้อผ้า ไปจนกระทั่งส่งของทางไกล โดยมีพาร์ทเนอร์อย่าง Diageo, Nestle และ P&G ที่จะช่วยรับช่วงต่อบริการต่างๆ และตอนนี้พวกเขาก็กำลังโฟกัสไปกับธุรกิจการสร้างอพาร์ทเมนท์ ที่ผู้เข้าพักจะได้รับบริการจาก Alfred อย่างเต็มรูปแบบ

 

ผู้ผลิตเครื่องเพชรในซาน ฟรานซิสโก ก่อตั้งในปี 2013 เวลานี้สามารถเจียระไนเพชรได้ถึงกว่า 100,000 กะรัตต่อปี จากศูนย์ผลิตในซาน ฟรานซิสโก และจะเจียระไนได้ในหลัก 1 ล้านกะรัตต่อปี เมื่อศูนย์ที่เวนัตชี, วอชิงตัน เปิดขึ้นในปีนี้ โดย Diamond Foundry มีเทคโนโลยีเจียระไนสมัยใหม่อย่าง Plasma Reactor และนอกจากการขายในร้านของตัวเองภายใต้แบรนด์ Vrai & Oro แล้ว ยังส่งต่อไปยังผู้ค้าเครื่องประดับทั่วโลก ทั้งยังมีคนดังอย่าง Leonardo DiCaprio เป็นหนึ่งในผู้ร่วมทุนด้วย

 

เปลี่ยนจากเกมสนุกๆ ในเชิงการศึกษาให้กลายเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ มีผู้ใช้ 200 ล้านคนทั่วโลก และมีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 700 ล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2017 โดยผู้ใช้ 25 ล้านคนต่อเดือนสามารถเข้าใช้งานแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวน 75 คอร์สใน 29 ภาษา ที่นอกจากเป็นตัวสอนภาษาออนไลน์แล้วก็ยังสร้างความสนุกสนานกับผู้ใช้ได้ด้วย โดยเฉพาะเกม Tinycards (ผ่านทั้งเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น) สอนภาษาจากการ์ดรูปภาพต่างๆ ซึ่งเป็นที่นิยมไปทั่วโลก

 

Rosie O’Neill กับ Josh Resnick สองผู้ก่อตั้ง Sugarfina สามารถโกยเงินเข้ากระเป๋าได้นับล้านดอลลาร์ จากการขาย ‘แคนดี้ที่เป็นเหมือนงานศิลป์’ สร้างแรงดึงดูดให้กับผู้บริโภครุ่นโตด้วยการใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เช่นว็อดก้าหรือแชมเปญเป็นส่วนผสม ขณะเดียวกันก็มีแพคเกจจิ้งที่สวยงาม เหมาะกับการให้เป็นของขวัญ โดยหลังจากเปิดตัวในปี 2012 จนถึงตอนนี้พวกเขามีสาขาทั่วสหรัฐอเมริกาแล้วถึงกว่า 24 แห่ง และยังมีแผนเปิดเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

 

ในปี 2017 ชาวอเมริกันมากกว่าครึ่งประเทศใช้บริการจ่ายเงินของ Stripe เพื่อซื้อสินค้าออนไลน์ จนทำให้พวกเขากลายเป็นสตาร์ทอัพสายการเงินที่มาแรงที่สุดแห่งยุค ก่อตั้งเมื่อปี 2011 โดยคู่พี่น้อง John กับ Patrick Collison จนตอนนี้ขยายการให้บริการไปยัง 25 ประเทศทั่วโลก ทั้งแถบอเมริกา, เอเชีย, ยุโรป และออสเตรเลีย รวมถึงให้บริการกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon ด้วย

อ่านเพิ่มเติม

8 มหาเศรษฐีหน้าใหม่วงการไอที
http://bit.ly/2FsH6MJ

ไปงานไหนดี?? ในปี 2018
http://bit.ly/2CH8kfh

Y Combinator แยกทาง Peter Thiel แล้ว
http://bit.ly/2ERtOIe

 

ได้แรงบันดาลใจจากบอร์ดประกาศปักหมุดบนผนัง จน Ben Silbermann, Evan Sharp และ Paul Sciarra ทำให้กลายเป็นบอร์ดประกาศออนไลน์ในปี 2009 ผู้ใช้สามารถนำภาพขึ้นปักหมุดได้แบบล้านแปดชนิด ตั้งแต่กีฬา, สัตว์เลี้ยง, สถานที่ท่องเที่ยว, บ้านเรือน, รถรา, อาหาร, ฯลฯ และ ฯลฯ โดยเป้าหมายหนึ่งคือการให้ภาพนั้นเป็นเหมือนสิ่งที่ผู้ใช้อยากจะทำให้สำเร็จในอนาคต และต่างไปจากแหล่งรวมภาพอย่าง Instagram ตรงที่จะปรากฏลิงค์สำหรับภาพนั้นๆ เพื่อการค้นข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนแผนการต่อไปคือ Pinterest Lens ที่จะช่วยให้คุณสามารถค้นคว้าเกี่ยวกับอะไรก็ตามที่ยื่นกล้องไปจับภาพเอาไว้

อ่านเพิ่มเติม
Connecting People: เมื่อคน Gen X ติดโซเชียลหนักสุด
http://bit.ly/2sQLxOr

 

ก่อตั้งเมื่อปี 2010 ในซาน ฟรานซิสโก ด้วยโมเดลใหม่ที่ไม่เคยถูกใช้มาก่อนในธุรกิจแฟชั่น โดยจะเปิดเผยรายละเอียดทางการเงินทุกอย่างของผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นให้กับลูกค้าทราบ ตั้งแต่ราคาการสั่งซื้อวัสดุ, ค่าขนส่ง และอื่นๆ ก่อนที่สินค้าจะถึงมือผู้รับ อีกทั้งยังแพร่ภาพขั้นตอนการทำงานลงในเว็บไซต์ของตัวเองเพื่อให้ลูกค้าได้ใกล้ชิดกับชิ้นงานมากขึ้นกว่าเดิม โดยคนดังอย่าง Angelina Jolie และ Gigi Hadid ต่างก็ช่วยให้แบรนด์โด่งดังขึ้นเป็นวงกว้างจากการใช้รองเท้าของ Everlane ในบางโอกาส

 

ช่วยให้ศิลปินผู้สร้างงานพบเจอกับกลุ่มลูกค้า และสร้างเม็ดเงินมหาศาลให้เกิดขึ้นจริง คือสิ่งที่ Patreon, Inc. บริษัทเจ้าของเว็บไซต์อายุ 5 ปีจากซาน ฟรานซิสโก กำลังทำ ศิลปินทั้งในสายดนตรี, นักเขียน, นักวาดภาพ, อนิเมเตอร์, ช่างภาพ, ช่างแกะสลัก ฯลฯ จะใช้ patreon.com เผยแพร่งานต่างๆ ของตัวเอง โดยรายได้ของศิลปินจะมาจากทั้งทาง Patreon เองและการขายตรงสู่ลูกค้า โดยในปี 2017 สมาชิก 1 ล้านรายสามารถทำเงินรวมกันได้มากกว่า 150 ล้านดอลลาร์ฯ และ Patreon ยังมีการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วย เช่นแดชบอร์ด CRM และการสตรีมมิ่งวิดีโอสดของผู้สร้างคอนเทนท์

 

ถ้าฝั่งญี่ปุ่นมี Nintendo ฝั่งสหรัฐอเมริกา (ซานตา โมนิก้า, แคลิฟอร์เนีย) ก็มี Activision Blizzard เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันในวงการเกม รายได้จากปี 2017 กระฉูดไปถึงหลัก 7 พันล้านดอลลาร์ฯ ด้วยการมีเกมอย่าง Call of Duty, World of Warcraft และ Overwatch เป็นตัวชูโรง อีกทั้งยังเป็นผู้ผลักดัน eSports อย่างจริงจัง มีการจัด Overwatch League ซึ่งมีผู้เข้าแข่งขัน 35 ล้านคนทั่วโลก และจัดจ้างนักแข่งมืออาชีพด้วยเงินเดือน 5 หมื่นดอลลาร์ฯ พร้อมประกันสุขภาพ จากนั้นก็ขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันให้กับ Twitch ฟันเงินมา 90 ล้านดอลลาร์

อ่านเพิ่มเติม
eSports: กีฬาแห่งอนาคต
http://bit.ly/esportNBA

 

ในปี 2017 ที่ผ่านมา Cava Group, Inc. เจ้าของธุรกิจร้านอาหาร Mediterranean ในวอชิงตัน สามารถเปิดร้านสาขาของตัวเองขึ้นเป็น 2 เท่าตัวจนมีอยู่ 45 ร้านในวอชิงตัน, ดีซี, นิวยอร์ค และแอลเอ และสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นราว 15 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทั้งหมดเป็นผลมาจากการนำเอาเทคโนโลยีเข้าช่วยในหลายจุด หนึ่งในจุดสำคัญคือการที่ซีอีโอ Brett Schulman ว่าจ้างกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) เข้ามาติดตั้งเน็ตเวิร์คเซนเซอร์ซึ่งช่วยทั้งเพิ่มความเร็วในการประกอบอาหาร, เพิ่มคุณภาพของอาหาร, ป้องกันการเน่าเสีย และคาดการณ์จำนวนวัตถุดิบที่ต้องใช้ในแต่ละวัน

 

แบรนด์เครื่องสำอางค์เก่าแก่ของฝรั่งเศส ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1969 ก่อนจะไปเป็นส่วนหนึ่งของ LVMH ในปี 1996 และพัฒนาจนกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ทรงพลังที่สุดแห่งหนึ่งในโลกความงาม หนึ่งในยุทธวิธีตีตลาดคือการเปิดให้ผู้สนใจสินค้าสามารถทดสอบสินค้าได้ด้วยตัวเองในทุกบูทของ Sephora และยังมีการทุ่มทุนมหาศาลไปกับการสร้างเว็บไซต์เพื่อนำเสนอวิดีโอสอนการใช้งานผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของตัวเองให้กับผู้บริโภค โดยในปี 2017 มีการริเริ่มตั้งบูทขนาดเล็กในแถบชุมชนเพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิมด้วย

 

ผู้ผลิตโดรนจากเสิ่นเจิ้น ประเทศจีน อย่าง DJI จัดเป็นผู้นำตลาดโลกในเรื่องนี้ ประสบความสำเร็จด้วยดีกับหลายโมเดลที่ส่งออกสู่ตลาด เช่น Spark โดรนไฮเทคที่ผู้ใช้สามารถบังคับได้เพียงการโบกไม้โบกมือ หรือ Mavic Air โดรนที่มีกล้องถ่ายภาพคุณภาพสูงถึงระดับ 4K และสามารถขึ้นบินได้นานถึง 21 นาที เวลานี้ DJI ครองส่วนแบ่งตลาดสหรัฐอเมริกาถึง 2 ใน 3 แม้จะเคยโดนกองทัพสหรัฐฯ สั่งแบนมาแล้วก็ตาม

อ่านเพิ่มเติม
8 มหาเศรษฐีหน้าใหม่วงการไอที
http://bit.ly/2FsH6MJ

สหรัฐฯ หวั่นโดรน DJI ลอบส่งข้อมูลกลับจีน
http://bit.ly/2HHEuLz

Frank Wang: เจ้าพ่อโดรนพันล้าน B4B
http://bit.ly/2sOg7IF

สหรัฐฯ หวั่นโดรน DJI ลอบส่งข้อมูลกลับจีน
http://bit.ly/2HHEuLz

อาจไม่ใช่ชื่อที่คุ้นหูนัก แต่บางทีคุณอาจเคยได้กินอาหารจาก Compass Group มาแล้วก็เป็นได้ บริษัทอาหารระดับพันล้านดอลลาร์ฯ ของอังกฤษ ขับเคลื่อนร้านอาหารในหลักพันแห่งทั่วโลก ตั้งแต่ร้านปกติไปจนถึงในโรงเรียน, สนามกีฬา, โรงพยาบาล หรือกระทั่งพิพิธภัณฑ์ โดยมากไปกว่าการทำอาหารรองรับผู้คนกว่าล้านชีวิต Compass Group ยังโฟกัสไปที่การรีไซเคิลอาหารส่วนเกิน และเปิดทางให้กับอาหารทางเลือก เช่นเนื้อเทียมจากกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของ Impossible Foods หรือไข่เทียมที่ผลิตจากมายองเนสของ Hampton Creek

 

ต่างจากแอพพลิเคชั่นตรวจสอบราคาไฟลท์บินทั่วไป Hopper มีเทคโนโลยี AI ที่จะจัดเก็บข้อมูลการค้นหาของผู้ใช้ เพื่อสร้างให้เกิดการสนทนาที่อัดแน่นด้วยข้อมูลสำคัญหลายชิ้น เช่นสนามบินทางเลือก, วันที่ในการเดินทาง หรือกระทั่งการเปลี่ยนสถานที่เป้าหมาย เพื่อให้ราคาต่ำลงมา ผลคือจากยอดจองที่มีเงินสะพัด 500 ล้านดอลลาร์ 20 เปอร์เซ็นต์ในนั้นคือไฟลท์บินที่ผู้คนไม่สังเกตเห็นมาก่อน และในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2017 Hopper ก็มียอดแจ้งเตือน (Notification) ผ่านแอพของพวกเขาเป็นสถิติใหม่ถึง 2 พันล้านครั้งเลยทีเดียว

 

ก่อตั้งในปี 2013 โดยนักธุรกิจแคนาดา Stewart Butterfield เพื่อให้เป็นช่องสนทนาออนไลน์ภายในกลุ่มพนักงานธุรกิจเกมเล็กๆ ของเขาที่ชื่อว่า Tiny Speck แต่ผ่านไปสองปี Slack ก็กลายเป็นแอพพลิเคชั่นยอดนิยมไปเสีย มีลักษณะการทำงานแบบโซเชียลมีเดีย แต่จำกัดวงเฉพาะในองค์กรของผู้ใช้ มีลูกเล่นที่สามารถทำห้องหรือสร้าง hashtag เพื่อคุยในแต่ละ channel หรือเรื่องงานที่ตัวเองเกี่ยวข้องนั้นได้ และยัง Tag ทีมงานที่เกี่ยวข้องได้อีก ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน 9 ล้านคนต่อสัปดาห์ (2 ล้านคนเป็นผู้ใช้แบบเสียเงิน) และสร้างรายได้ประจำปีอยู่ที่ 200 ล้านดอลลาร์ฯ

 

แพลตฟอร์มการเงินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย เริ่มแรกจากการเป็นการจ่ายบิลออนไลน์ พัฒนาสู่การให้บริการทางการเงินแบบเต็มรูปแบบ อันรวมถึง Paytm Payments Bank ซึ่งมอบโอกาสให้กับคนที่เข้าไม่ถึงการบริการของธนาคาร และยังมีการเปิดเดบิตการ์ด, กองทุน, บัญชีทางธุรกิจ และไม่นานมานี้ก็คลอดแอพพลิเคชั่นเพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจแล้วด้วย โดยพวกเขาตั้งเป้าจะขยายผู้ใช้บริการให้ถึงจำนวน 500 ล้านรายภายใน 2-3 ปีข้างหน้า

 

จากการเป็นแบรนด์เลิศหรูอลังการสำหรับลูกค้าไฮโซ หลังจากการเข้ามาของซีอีโอ Marco Bizzarri และ Creative Director อย่าง Alessandro Michele แล้ว Gucci ก็เปลี่ยนทิศทางของกิจการตัวเองให้กลายเป็นแบรนด์ทันสมัย มีความฮิปโดนใจวัยรุ่นยุคมิลเลนเนียม มุ่งเน้นการทำตลาดที่โซเชียลมีเดีย มักนำศิลปินและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังมาสวมเสื้อผ้าของพวกเขา ซึ่งทำให้ภาพของการเป็นแบรนด์สมัยใหม่ยิ่งชัดมากขึ้นอีก และมีกระทั่งการสร้างมีม#TFWGucci (thanks for watching Gucci) ควบคู่ไปกับการปล่อยนาฬิกาตัวใหม่ออกสู่ตลาด

 

ชั้นเรียนที่จะพาเด็กๆ ในประเทศจีนกว่า 200,000 คน (อายุตั้งแต่ 4-12 ขวบ) ให้ไปเจอกับครูสอนภาษาที่สหรัฐอเมริกาจำนวนกว่า 30,000 คนโดยตรง ผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้รับความนิยมอย่างยิ่งจากครอบครัวชาวจีนที่ต้องการเพิ่มทักษะทางภาษาให้บุตรหลาน โดยในปี 2017 คลาสเรียนระยะเพียง 25 นาที ทำรายได้ให้กับ VIPKid (นำโดยซีอีโอ Cindy Mi) ถึงกว่า 760 ล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งมากขึ้นกว่าปี 2016 (300 ล้านดอลลาร์ฯ) ถึงกว่าหนึ่งเท่าตัว

 

หลังจากก่อตั้ง (ในปี 2009) ได้เพียง 4 ปี แอพพลิเคชั่นนำทาง GPS อย่าง Waze ก็ถูก Google ซื้อไปในสนนราคาสูงลิบถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์ อันแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพอันน่าทึ่งที่แอพจากอิสราเอลชิ้นนี้มี ทั้งยังการันตีด้วยรางวัลแอพยอดเยี่ยมจาก Mobile World Congress ปี 2013 อีกต่างหาก โดย Waze นำเสนอข้อมูลต่างๆ แบบ Real-Time ให้กับผู้ใช้รถ ทั้งการเกิดอุบัติเหตุ, เขตจำกัดความเร็ว, ทางเลี่ยงรถติด และอุปสรรคอื่นๆ ข้างหน้า นอกจากนั้น ปี 2017 ที่ผ่านมายังเปิดให้บริการ Carpool ที่แคลิฟอร์เนียและเท็กซัสด้วย

 

สตาร์ทอัพสายไซเบอร์ของอังกฤษ ก่อตั้งในปี 2013 จากกลุ่มนักคณิตศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เป็นที่รู้จักจากเทคโนโลยี Enterprise Immune System (EIS) ซึ่งสามารถต้านไวรัสคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี มีการใช้ AI เข้าช่วย “ระบบของเราเดินเครื่องอัตโนมัติด้วยตัวเอง” Nicole Eagan ซีอีโอของ Darktrace ระบุ “ดังนั้นผู้ใช้จึงไม่ต้องกดปุ่มอะไรทั้งสิ้น” โดย Antigena ของพวกเขาสามารถจัดการกับไวรัส WannaCry ได้ภายใน 30 วินาที จนเจ้าของกิจการออนไลน์กว่า 4,000 แห่ง (หนึ่งในนั้นคือ Jet.com) ต้องซื้อไปติดตั้งในระบบ

 

ในขณะที่บ้านเรากำลังฮือฮากับการตั้ง 7-Eleven เป็นแบงค์กิ้งเอเยนต์ ทางฝั่งแอพพลิเคชั่นสนทนาของเกาหลีใต้อย่าง Kakao Talk ไปไกลถึงขั้น ‘มีธนาคารเป็นของตัวเอง’ แล้ว โดยแรกเริ่มเดิมที Kakao Talk คือแอพแชทธรรมดา แถมได้รับความนิยมเฉพาะในประเทศตัวเอง แต่เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้น Kakao Corporation ก็ตัดสินใจพาบริษัทเข้าสู่สายการเงินด้วยการตั้งธนาคารออนไลน์ Kakao Bank ขึ้นในปี 2016 ซึ่งปรากฏว่าการเสี่ยงครั้งนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี มีลูกค้า 300,000 รายใน 24 ชั่วโมงแรก และเพียง 4 วันแรกก็มีการปล่อยเงินกู้ถึง 232 ล้านดอลลาร์ฯ กับรับเปิดบัญชีฝากเงิน 245 ล้านดอลลาร์ฯ ด้วยกัน โดยเป็นที่คาดหมายว่า WhatsApp ของ Facebook ก็อาจเดินตามรอยเข้าในสักวั

 

‘เปิดฟิตเนสได้โดยไม่ต้องมีฟิตเนส’ คงเป็นปณิธานของ Peloton สตาร์ทอัพสายคนรักสุขภาพจากนิวยอร์ค ที่จะส่งสตรีมมิ่งสดของเทรนเนอร์, สตรีมมิ่งสดของคลาสเรียน เช่นเดียวกับเพลงที่ปลุกเร้าความกระฉับกระเฉง มาถึงหน้าจอ iPhone, iPad หรือ Apple TV ของคุณ จนถึงตอนนี้มีผู้ใช้บริการจาก 14 ประเทศทั่วโลก คิดเป็นจำนวน 600,000 คน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณก็ต้องมีเครื่องออกกำลังกาย เช่นจักรยานออกกำลังตั้งในบ้านคุณเสียก่อน …ซึ่งถ้าคุณยังไม่มี ก็สามารถสั่งซื้อกับ Peloton ได้เช่นกัน

 

ก่อตั้งโดยเจ้าของค่ายรถคนดัง Henry Ford และลูกชาย Edsel ในฐานะองค์กรไม่แสวงผลกำไร เพื่อสนับสนุนการลงทุนในระดับชาติและนานาชาติ เป็นที่รู้จักจากการลงทุนอย่างสร้างสรรค์เพื่อช่วยในการสะสางปัญหาที่เกิดขึ้นกับบริษัทต่างๆ โดยในปี 2016 มีการลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ไปกับองค์กร 300 แห่งเพื่อช่วยในการประคองธุรกิจให้มีเงินทุนสนับสนุนไปตลอดระยะ 5 ปี และที่จริงแล้ว Ford Foundation ใช้เงินของตัวเองเพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่เหลืออีก 95% มาจากผู้ร่วมทุนรายอื่นๆ

อ่านเพิ่มเติม
Ford จับมือ Qualcomm สร้างรถอัจฉริยะ

Connecting People: เมื่อคน Gen X ติดโซเชียลหนักสุด

 

สร้างความเคลื่อนไหวในเม็ดเงินได้กว่า 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี สำหรับการใช้จ่ายผ่าน Thumbtack เพื่อจับจองบริการชนิดต่างๆ ตั้งแต่ที่พัก, ร้านอาหาร, ช่างประปา, ร้านทำผม ไปจนถึงคอร์สเรียนคณิตศาสตร์ Thumbtack ก่อตั้งในซาน ฟรานซิสโก เมื่อปี 2009 โดย Marco Zappacosta จนถึงตอนนี้แม้ยังไม่อาจสร้างกำไรได้มากนัก แต่มีการให้บริการจองสิ่งต่างๆ ถึงกว่า 1,100 ชนิดผ่านแพลตฟอร์มของพวกเขา เรียกว่าเป็น Amazon ของการ Booking ก็ว่าได้

 

อีกหนึ่งสตาร์ทอัพสายการแพทย์จากสหรัฐอเมริกา เพิ่งก่อตั้งเมื่อต้นปี 2017 แต่สร้างความฮือฮาในวงการแพทย์ได้อย่างมาก จากการคิดค้น RightMed ตัวทดสอบความเข้ากันได้ของยา ซึ่งสามารถคาดการณ์ผลกระทบสืบเนื่องที่จะเกิดกับผู้ป่วย และหลีกเลี่ยงความผิดพลาดจากการใช้ยากล่อมประสาท หรือทดสอบการใช้ยาต้านมะเร็งซึ่งจะได้ผลสำหรับผู้ป่วยบางคนเท่านั้น ซึ่งภายหลังการเปิดตัว ก็มีมากกว่า 550 โรงพยาบาลและคลินิก จาก 22 ประเทศทั่วโลก ที่สั่งซื้อ

 

บริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ ทำให้เห็นว่าการคิดค้นสิ่งใหม่ในตลาดยาไม่ใช่เรื่องยากเกินไป ปีที่แล้วมีการปล่อย Kymriah ยาบำบัด CAR-T รักษาอาการมะเร็งเม็ดเลือดขาว (Acute Lymphoblastic Leukemia) ออกมา และได้รับสิทธิบัตรจาก FDA เรียบร้อย โดยผลสำรวจพบว่าสามารถรักษาได้สำเร็จถึงกว่า 83 เปอร์เซ็นต์ และพร้อมๆ กับการวิจัยควบคู่ไปกับมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย เวลานี้ Novartis กำลังวิจัยยารักษาโรคมะเร็งในเลือดชนิดอื่นๆ เช่นเดียวกับมะเร็งเนื้องอก

บริษัทอุปกรณ์เสริมด้านการแพทย์ของสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นพัฒนาด้วยการเป็นระบบตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) ที่เชื่อมโยงกับสมาร์ทโฟน ส่งสัญญาณการเต้นของหัวใจมาปรากฏบนหน้าจอภายใน 30 วินาที จนกระทั่งในช่วงปลายปี 2017 ที่มีผู้ใช้งาน EKG มากกว่า 20 ล้านราย AliveCor จึงพยายามพัฒนาเทคโนโลยีการตรวจจับการเต้นของหัวใจให้ก้าวไปอีกระดับ โดยสายรัดข้อมือ KardiaBand ได้รับสิทธิบัตรจาก FDA แล้วสำหรับการใช้ใน Apple Watch และพวกเขายังปล่อยซอฟท์แวร์ SmartRhythm ออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ด้วย

 

Chamath Palihapitiya อดีตรองหัวหน้าแผนกของ Facebook เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการเงินร่วมลงทุน Social Capital ในปี 2011 โดยในช่วงแรกมีการใช้เทคนิคจัดการกับข้อมูลอันสลับซับซ้อนเพื่อช่วยในการลงทุนและโค้ชให้กับบริษัทที่ต้องการการเติบโต จนมาตอนนี้ขยายฐานลูกค้าไปยังหลากหลายหน่วยงาน และในช่วงปี 2017 Palihapitiya เริ่มต้นสร้างให้ Social Capital สามารถเข้าลงทุนได้ในทุก stage ไม่ว่าจะ pre-launch, early venture, growth หรือ public

 

ค่ายผู้ผลิตวิดีโอเกม (ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์) เก่าแก่อายุ 128 ปี อยู่ต้านลมต้นฝนมาจนเป็นดั่งขุนเขาแห่งวงการธุรกิจเกม ที่สำคัญก็คือการสามารถผลิตสินค้าที่โดนใจผู้บริโภคออกมาได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่หวั่นแม้จะถูกคาดการณ์ว่าอาจถึงคราวล่มสลายกลายไปเป็นเพียงผู้ผลิตแอพพลิเคชั่นเกม โดย Super Mario Odyssey กับ The Legend of Zelda: Breath of the Wild ที่ปล่อยออกมาไม่นานเดือน ถูกยกย่องว่าเป็น 2 เกมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ Nintendo ด้วยซ้ำ

อ่านเพิ่มเติม
คิดนอกกรอบแบบ Nintendo และ Shigeru Miyamoto
http://bit.ly/NIntEnDo

Nintendo ผู้ไม่เคยเกมโอเวอร์
http://bit.ly/2oo1B5S

เครือข่ายสื่อสาร 4G ค่ายแรกของประเทศอินเดีย เป็นหนึ่งในหัวหอกของการเข้าสู่ ‘การวิวัฒน์อุตสาหกรรมยุคที่ 4′ แห่งอินเดีย Reliance Jio มีการติดตั้งเสารับสัญญาณถึงกว่า 100,000 ต้น, เดินสายสัญญาณไฟเบอร์รวม 155,000 ไมล์ และสร้างศูนย์ข้อมูลคลาวด์ที่มีพื้นที่ถึงกว่า 500,000 ตารางฟุต โดยในช่วงแรกเริ่มของบริษัทเมื่อ 8 ปีก่อน พวกเขายังเป็นเพียงเครือข่ายสื่อสารธรรมดา แต่ตอนนี้มีทั้ง 4G, ไว-ไฟ และโทรศัพท์มือถือแบรนด์ตัวเองแล้ว ทั้งยังใจป้ำให้บริการใช้เครือข่ายฟรีในช่วง 6 เดือนแรก ส่งผลให้มีผู้ใช้ถึงกว่า 150 ล้านรายทีเดียว

 

บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีน ก่อตั้งในปี 2012 ด้วยเป้าหมายของการเชื่อมโยงมนุษย์ให้เข้าใกล้กับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) มากขึ้นกว่าเดิม โดยมีแอพพลิเคชั่นเรือธงอย่าง Toutiao ชุมทางสื่อออนไลน์ที่นำเสนอคอนเทนท์แบบ Real-Time ตามที่ผู้ใช้ต้องการ ซึ่ง Toutiao ก็ใช้ AI นี่เองเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ นอกจากนั้น Bytedance ก็ยังมี Tik Tok แอพสร้างวิดีโอสั้นคล้ายๆ Snapchat ซึ่งได้รับความนิยมมากอีกด้วย

 

ร้านค้าปลีกที่ ‘ใหญ่ที่สุดในโลก’ เมื่อพิจารณาจากรายได้ Walmart มีสาขาถึง 4,700 แห่งในสหรัฐอเมริกา ไม่นับรวมสาขาย่อยอีก 600 แห่งที่ดูแลโดย Sam’s Club ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังขยับมาตีตลาดอี-คอมเมิร์ซ เพื่อความครอบคลุมทางธุรกิจ โดยในปี 2016 มีการทุ่มทุนถึง 3 พันล้านดอลลาร์ฯ เพื่อคว้า Jet.com คู่แข่งตัวฉกาจของ Amazon เข้าไปเป็นผู้ดูแลจัดส่งสินค้า จนตอนนี้สามารถจัดส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้แบบเช้าถึงเย็นถึงเลยทีเดียว

 

ประสบความสำเร็จแบบเป็นที่พูดถึงกันในระดับโลก สำหรับโครงการปล่อยจรวด Falcon Heavy ไปสำรวจดาวอังคารเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทั้งยังนำกลับมาลงจอดบนพื้นโลกได้อย่างปลอดภัยไข้รอยขีดข่วน กระนั้นนี่ก็เป็นเพียงหนึ่งในกิจกรรมแบบ ‘เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ทำ’ ของ SpaceX ที่ดูแลโดย Elon Musk เท่านั้น โดยในช่วงปีที่ผ่านมา พวกเขาสามารถปล่อยจรวดได้ถึง 18 ครั้ง, ส่งดาวเทียม 48 ตัวขึ้นโคจร และมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 60 เปอร์เซ็นต์

อ่านเพิ่มเติม
Elon Musk: เกมเมอร์ในคราบ Entrepreneur
http://bit.ly/EntreMusk

B.F.R. แผนบุกดาวอังคารของ Elon Musk
http://bit.ly/bfrMusk

Starman และ Tesla Roadster
http://bit.ly/starmanMusk

5 Startup ที่มูลค่าสูงสุดในโลกมนุษย์
http://bit.ly/5startupMusk

SpaceX เตรียมยิงดาวเทียมลึกลับ Zuma สู่อวกาศศุกร์นี้
http://bit.ly/zumaMusk

ห้องเสื้ออี-คอมเมิร์ซจากซาน ฟรานซิสโก, แคลิฟอร์เนีย นำเสนอแนวทางการทำธุรกิจแบบNetflix นั่นคือยินดีเสนอสินค้าให้ผู้ใช้นำไปทดลองใช้จริงก่อน ตกลงรับหรือไม่ค่อยตัดสินใจทีหลัง เริ่มแรกจากการเก็บรายละเอียดต่างๆ ของลูกค้าเพื่อตีความข้อมูลดิบเหล่านั้นส่งต่อไปยังสไตลิสต์กว่า 3,400 คน ให้เป็นผู้คัดเลือกสินค้าต่างๆ ที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคน ก่อนจะส่งสินค้านั้นไปให้เลือกถึงบ้าน ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนรับของไว้กว่า 2.2 ล้านคน และในปีที่แล้วซึ่งเป็นเพียงปีที่ 6 ของบริษัท ก็สามารถทำรายได้ได้ถึง 977 ล้านดอลลาร์ฯ

จัดเป็นอีกหนึ่งแอพพลิเคชั่นที่เข้ามาเปลี่ยนโลก และสร้างให้กลายเป็นช่องทางทำเงินของหลายๆ คน Instagram สร้างขึ้นโดย Kevin Systom กับ Mike Krieger ในปี 2010 เพื่อเป็นที่สำหรับแชร์รูปถ่ายและวิดีโอสั้นๆ ไม่กี่วินาที แต่เมื่อได้รับความนิยมแล้วก็ถือได้ว่านี่คือโซเชียลเน็ตเวิร์คใหญ่ที่สุดชิ้นหนึ่งของโลก เวลานี้มีผู้ใช้งานกว่า 800 ล้านคน ซึ่งด้วยการที่ IG โตเร็วขนาดนี้ คุณชาย Mark Zuckerberg จึงทุ่ม 1 พันล้านเหรียญดอลลาร์ฯ ซื้อมาดูแลเองเมื่อปี 2012

อ่านเพิ่มเติม
เผยเคล็ด 5 ช่างภาพเทพแห่ง Instagram
4 เทรนด์แห่งอนาคตจากงาน F8

 

เขย่าสังคมแอฟริกันกับภาพยนตร์ Black Panther อยู่ในตอนนี้ แต่เป็นที่รู้กันว่า ‘จักรวาลของ Marvel’ ช่างกว้างใหญ่ไพศาล บางทีอาจถึงขั้นหาขอบเขตไม่ได้ โดยนับตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา การทยอยปล่อยหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่มีความเชื่อมโยงกันอยู่ในทีอย่าง Iron Man, Thor, Guardians of the Galaxy และ The Avengers ออกมา ทำรายรับให้พวกเขาถึง 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งแน่นอนว่านี่คือหนังแฟรนไชส์ที่ทำเงินมากที่สุดในโลก จนกระทั่ง Disney ฮุบ Marvel ไปด้วยเงิน 4 พันล้านดอลลาร์

อ่านเพิ่มเติม
หนทางวิบากของ Marvel Studios
ลือ Walt Disney เล็งฮุบบริษัทผู้สร้าง The Hunger Games
Pixar: ดีลพลิกชะตา Disney 
เมื่อ George Lucas ส่งผ่าน ‘พลัง’ แก่ Disney 
Disney vs Netflix: เมื่อพันธมิตรกลายเป็นคู่แข่ง

 

ลีกบาสเก็ตบอลของสหรัฐฯ อย่าง NBA ต้องการสร้างตัวให้กลายเป็นแบรนด์ระดับโลก และพวกเขาทำสำเร็จ สามารถสร้างกลุ่มผู้ชนหลักล้านคนทั่วโลก การนำเกมการแข่งขันออกไปแข่งต่างแดน เช่นที่กรุงลอนดอน หรือเม็กซิโก ซิตี้ ล้วนแต่ช่วยเพิ่มความสนใจได้อย่างมาก กระนั้นที่สำคัญกว่าคือการเปิดรับเอาเทคโนโลยีเข้าช่วยในการถ่ายทอดการแข่งขัน League Pass ของ NBA ทำให้ผู้ชมรับชมเกมจากแพลตฟอร์มใดก็ได้ทั้งสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ ยิ่งวไปกว่านั้นก็ยังมีเฮดเซ็ต Virtual-Reality (VR) อีกต่างหาก

อ่านเพิ่มเติม
กว่าจะเป็น Air Jordan

 

แอพพลิเคชั่นสตรีมมิ่งเพลง, วิดีโอ และ podcasts จากประเทศสวีเดน ทำธุรกิจอย่างโปร่งใสด้วยการทำสัญญาซื้อไลเซนส์จากค่ายเพลงและเจ้าของสื่อรายต่างๆ ให้บริการทั้งในทวีปอเมริกา, ยุโรปเหนือ, เอเชีย และออสเตรเลีย เป็นที่รู้จักจากการใช้โมเดลธุรกิจ ‘freemium’ ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถรับบริการพื้นฐานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ต้องจ่ายเพื่ออะไรที่พิเศษกว่า (เช่นการดาวน์โหลดหรือฟังแบบไร้โฆษณา) ทั้งยังเป็นที่นิยมจากการแนะนำวงดนตรีใหม่ๆ ให้กับผู้ฟังอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม
Spotify โดนฟ้องพันล้านละเมิดลิขสิทธิ์เพลง

 

The Washington Post อีกหนึ่งกิจการของ Jeff Bezos คือหนึ่งในตัวอย่างชั้นดีของธุรกิจสื่อสารมวลชนทั่วโลก ว่าจะอยู่อย่างไรภายใต้กระแสธารที่เชี่ยวกรากแห่งโลกเทคโนโลยี ซึ่งก็คือการเปิดรับเอาเทคโนโลยีเข้ามาอย่างเต็มรูปแบบนั่นเอง ทั้งการใช้ไปกับการนำเสนอคอนเทนท์ต่างๆ, ช่วยให้การรายงานข่าวฉับไวกว่าเดิม และมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับสื่อดิจิทัล จนปรากฏว่าในช่วงปลายปี 2017 ที่ผ่านมา ยอดผู้ลงทะเบียน digital-only subscribers มีมากถึง 1 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นจากเดิม 300 เปอร์เซ็นต์

 

บริษัทเวชภัณฑ์และเฮลท์แคร์แห่งโร้ดไอส์แลนด์ เดิมทีมีชื่อว่า CVS Caremark Corporation ก่อนจะเปลี่ยนเป็น CVS Health ในปี 2014 ให้บริการดูแลขสุขภาพกับชาวอเมริกันนับล้านผ่านทางร้านสาขาร่วม 10,000 แห่งในสหรัฐอเมริกา มีชื่อเสียงจากการเปิดรับเทคโนโลยีเข้าช่วยในหลายส่วน อาทิการใช้ Apple Watch ไปกับการรักษาโรคบางชนิด ปัจจุบันมีมูลค่ากิจการกว่า 1.2 แสนล้านดอลลาร์ฯ

 

แบรนด์เสื้อผ้าและอุปกรณ์เอาต์ดอร์จากเวนทูร่า, แคลิฟอร์เนีย ซึ่งก่อตั้งโดย Yvon Chouinard ตั้งแต่ปี 1973 มักเน้นย้ำให้ผู้บริโภคตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกร้อนอยู่เสมอ พวกเขาใช้หลักการค้าเป็นธรรม (Fair Trade) ในการทำงานกับผู้ผลิต, มีโรงงานที่ใช้พลังงานลมและแสงอาทิตย์, ใช้วัสดุที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมในการผลิตสินค้า ไปจนถึงเปิดหน้าชนต่อต้านแนวคิดของประธานาธิบดี Donald Trump ที่เคยกล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศเป็นเรื่องหลอกลวง

 

ก่อตั้งโดย Jeff Bezos ในปี 1994 ด้วยการเป็นเว็บไซต์ขายหนังสือ แต่แล้วก็ค่อยๆ เติบโตขยายขนาดของธุรกิจขึ้นไปเป็นลำดับขั้น จนมีลูกค้าในหลักล้านคนจากทั่วโลก ทว่าวิสัยทัศน์ของ Bezos ก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น Amazon จึงกลายมาเป็นบริษัทเทคโนโลยีล้ำยุค มีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) เป็นตัวเชิดหน้าชูตา ร้านค้าปลีกที่ใช้ AI เป็นส่วนประกอบสำคัญ Amazon Go เปิดสาขาแรกไปแล้ว และมีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 6 สาขาขึ้นไปภายในปีนี้

 

บางคนมีมากกว่า 1 บัญชี บางคนใช้งานจากประเทศอื่น ทำให้ทุกวันนี้่ แอพพลิเคชั่น WeChat ของบริษัท Tencent มียอดผู้ลงทะเบียนใช้งานมากกว่าจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนในประเทศจีนเสียอีก ผลสำรวจเมื่อเดือนมกราคมมี 980 ล้าน Active Users และสิ่งสำคัญนอกเหนือจากการเป็นโซเชียลเน็คเวิร์คแล้ว คุณยังสามารถเรียกแท็กซี่, ค้นหาและจองร้านอาหาร และจ่ายเงิน โดยไม่ต้องออกจาก WeChat ได้ด้วย

อ่านเพิ่มเติม
Tencent จับมือ JD.com พร้อมชน Alibaba
มูลค่า Tencent แซงหน้า Facebook แล้ว

 

บริษัทแพลตฟอร์มจ่ายเงินจากซาน ฟรานซิสโก, แคลิฟอร์เนีย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2009 เพื่อให้บริการแก่ผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อย จนถึงตอนนี้ได้กลายมาเป็นช่องทางการจ่ายเงินสำคัญระบบหนึ่ง มีการทำธุรกรรมการเงินมูลค่ากว่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ และยังแตกต่อยอดไปยังธุรกิจเงินกู้ Square Capital, โมบายล์วอลเล็ต Cash App และอื่นๆ อีกมากมาย

 

แม้แต่ตัว Reed Hastings กับ Marc Randolph สองผู้ก่อตั้งเองก็คงไม่คิดว่าวันหนึ่ง Netflix ซึ่งแรกเริ่มธุรกิจด้วยการเป็นร้านขายและเช่าดีวีดี จะกลายมาเป็นช่องสตรีมมิ่งวิดีโอออนไลน์อันดับ 1 ของโลกแบบนี้ เวลานี้มีผู้ลงทะเบียนใช้งาน 117 ล้านคนใน 190 ประเทศทั่วโลก โดยมีจุดแข็งคือรายการบันเทิงหลากชนิด ที่พวกเขาทั้งลงมือสร้างคอนเทนท์ของตัวเอง และดึงมาจากผู้ผลิตระดับคุณภาพเจ้าอื่น

อ่านเพิ่มเติม
Netflix มูลค่าแตะแสนล้านดอลลาร์ 
เมื่อ Blockbuster เมิน Netflix

บริษัทที่ถือได้ว่าเป็นตัว ‘เปลี่ยนโลก’ ขนานแท้ ทำให้การเสพสื่อของสังคมโลกเปลี่ยนไปเมื่อ iPhone เข้ามา ในช่วงปีที่แล้วสร้างแรงกระเพื่อมมากมายในแทบทุกผลิตภัณฑ์ที่วางตลาด ทั้ง AirPods, Apple Watch Series 3, ARKits, AR Framework และ iPhone X และยังคงยึดตำแหน่งแบรนด์ทรงคุณค่าอันดับ 1 ของโลกอยู่เช่นเดิมตามปณิธาน “เป้าหมายของเราคึอการสร้างสินค้าที่ดีที่สุดในโลก” ของซีอีโอ Tim Cook

อ่านเพิ่มเติม
เมื่อ Apple โยนหินถามทางในสมรภูมิวิดีโ
Terry Gou แห่ง Foxconn : สุดยอดเซลส์แมน สู่ผู้ผลิต iPhone

 

สำหรับเพื่อนๆที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับนวัตกรรม และธุรกิจ และต้องการพัฒนาตัวเองเพื่ออยู่ข้างหน้าเสมอ สามารถกด like เพจ AHEAD.ASIA เพื่อติดตามเรื่องราวที่มีประโยชน์ และข่าวสารกิจกรรมที่น่าสนใจได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆกัน

Subscribe to Our Newsletter

Loading
Total
11
Shares
Previous Article
รถไร้คนขับ

อุบัติเหตุรถไร้คนขับ ใครรับผิดชอบ?

Next Article
Max Levchin, PayPal, You are what you read,

10 สุดยอดตำราสำหรับผู้ประกอบการ ที่ Max Levchin ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal ย้ำว่าคุณต้องอ่าน

Related Posts