ปัจจุบัน การเปิดรับเอานวัตกรรมล้ำสมัยมาเป็นตัวช่วยในวงการแพทย์ เป็นเรื่องปกติของโลกแล้ว เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่า ปัญญาประดิษฐ์ สร้างประโยชน์ให้กับบริการสุขภาพ ( AI สาย Health Tech ) ในหลากหลายแง่ ไม่ว่าจะในส่วนบุคคล หรือภาพกว้างอย่างโรงพยาบาลขนาดใหญ่ก็ตาม
เร็วๆ นี้ Accenture เปิดเผยรายงานการวิเคราะห์ “มูลค่าระยะใกล้” (near-term value) ของ AI ในธุรกิจบริการสุขภาพ
เพื่อดูว่าผลกระทบจากเทคโนโลยีนี้จะส่งผลอย่างไรกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการล่วงหน้า
ผลลัพธ์ระบุว่าการใช้ AI สามารถประหยัดเงินได้ถึง 150,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี สำหรับการใช้เงินในระบบเฮลธ์แคร์ของสหรัฐอเมริกา ภายในปี 2026
รายงานมุ่งเน้นไปยัง AI ที่มีศักยภาพในการสร้างผลกระทบระยะใกล้ต่อเวชภัณฑ์และวิเคราะห์แต่ละโปรแกรมเพื่อหามูลค่าที่เกี่ยวข้องโดยประมาณ ไปจนถึงความคุ้มค่าต่อการใช้งาน
และนี่คือ 3 ตัวท็อปของ AI ที่มีมูลค่าสูงสุดตามผลการวิจัย
#1
หุ่นยนต์ผู้ช่วยผ่าตัด : 40,000 ล้านดอลลาร์
การใช้วิธีผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ถือเป็น “ความเสียหายน้อยที่สุด” อันหมายถึงรอยแผลขนาด 1/4 นิ้ว จะมาแทนที่แผลขนาดใหญ่ซึ่งเกิดจากการลงมีดโดยทีมแพทย์ผ่าตัดตามปกติ
หุ่นยนต์ศัลยกรรมจะรวบรวมข้อมูลจากประสบการณ์การผ่าตัดจริงเพื่อปรับปรุงเทคนิคการผ่าตัด ในขั้นตอนนี้ทีมแพทย์จะเก็บข้อมูลจากเวชระเบียนก่อนการผ่าตัดพร้อมด้วยเมตริกการดำเนินงานแบบเรียลไทม์เพื่อปรับปรุงผลการผ่าตัด เทคนิคนี้ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการใช้เครื่องมือของแพทย์และสามารถลดระยะเวลาในการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลของคนไข้ได้ถึง 21 เปอร์เซ็นต์
เทคนิคของ The da Vinci ที่เป็นหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถดำเนินการตามขั้นตอนที่ซับซ้อนได้หลายแบบด้วยความยืดหยุ่นและสามารถควบคุมได้มากกว่าวิธีการเดิม da Vinci มีแขนกลสำหรับการผ่าตัด และถ่ายทอดมุมมอง 3 มิติความคมชัดสูงออกมายังจอในห้องผ่าตัด ศัลยแพทย์จะควบคุมแขนกลจากที่นั่งที่คอนโซลคอมพิวเตอร์ใกล้กับโต๊ะปฏิบัติการ ขั้นตอนเหล่านี้ช่วยให้ศัลยแพทย์ประสบความสำเร็จในการผ่าตัดท่ามกลางพื้นที่จำกัด และลดข้อผิดพลาดลงได้
นอกจากนี้ยังมีหุ่นยนต์เคลื่อนที่ขนาดจิ๋วที่สามารถเข้าสู่หน้าอกผ่านแผลใต้กระดูกสันอก ภายใต้การควบคุมของทีมนักวิจัย HeartLander เทคโนโลยีนี้ช่วยลดความเสียหายของบาดแผลที่จำเป็นในการเข้าถึงหัวใจ และช่วยให้สามารถใช้อุปกรณ์เพียงชิ้นเดียวในการตรวจรักษาได้ นอกเหนือจากการดูแลรักษาแล้ว หุ่นยนต์ยังสามารถเกาะติดกับพื้นผิวของหัวใจ จนสามารถนำทางไปยังตำแหน่งที่ต้องการผ่าตัดได้ด้วยตนเอง
#2
AI ผู้ช่วยพยาบาล : 20,000 ล้านดอลลาร์
ผู้ช่วยพยาบาลเสมือนจริง (Virtual nursing assistants) สามารถลดจำนวนการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ไม่จำเป็นและช่วยลดภาระของแพทย์ได้อย่างชัดเจน โดยจากการเปิดเผยของ Syneos Health Communications ร้อยละ 64 ของผู้ป่วยรู้สึกสะดวกสบายในการรับคำปรึกษาจากผู้ช่วยพยาบาล AI ที่สามารถตอบข้อซักถามได้ทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง เช่นเดียวกับมีความสามารถในการตอบได้อย่างรวดเร็วสำหรับคำถามเกี่ยวกับยา
ไม่นานนี้ Virtual nurse ของบริษัทในซาน ฟรานซิสโก อย่าง Sensely สามารถระดมทุนได้เป็นจำนวน 8 ล้านดอลลาร์ เพื่อส่งโปรแกรมพยาบาล AI ไปใช้กับทั้งผู้ป่วยและคลินิกหลายแห่ง เป้าหมายหลักของเทคโนโลยีคือการสร้างช่องทางการสื่อสารระหว่างผู้ป่วยกับผู้ให้บริการ ในช่วงของการเฝ้าระวังอาการป่วย และและป้องกันการกลับเข้าแอดมิทในโรงพยาบาล
พยาบาล AI ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของ Sensely คือ Molly ซึ่งมีฐานข้อมูลซึ่งได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ สำหรับการถามตอบกับผู้ใช้
ผู้ช่วยพยาบาล Angel ของบริษัท Care Angel เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างสำหรับเทคโนโลยีนี้ นี่คือบอทที่ช่วยตรวจสุขภาพผ่านเสียงและมี AI ที่ช่วยผลักดันผลการรักษาที่ดีขึ้นภายใต้ต้นทุนที่ต่ำลง โดยมีความสามารถในการจัดการกับเคส, ติดตามอาการ, ให้ข้อมูลเชิงลึก และแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์
#3
ผู้ช่วยงานธุรการ : 18,000 ล้านดอลลาร์
ระบบการทำงานอัตโนมัติของกระแสงานธุรการ (administrative workflow) ช่วยให้มั่นใจว่าผู้ให้บริการดูแลจะจัดลำดับความสำคัญต่อเรื่องเร่งด่วนได้ และยังสามารถช่วยแพทย์, พยาบาล และผู้ช่วย ให้ประหยัดเวลาในงานประจำ
แอพพลิเคชันบางตัวของ AI ในผู้ช่วยงานธุรการ ช่วยยุติกิจกรรมบางอย่างที่ใช้เวลามากในขั้นตอนปกติ เช่นการถอดเสียงแปลงข้อความ เขียนบันทึกแผนภูมิ, รายละเอียดการสั่งยา และการทดสอบการสั่งซื้อ
การทดสอบเทคโนโลยีนี้มาจาก Nuance บริษัทผู้ให้บริการด้าน AI ซึ่งอาศัย machine learning เพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพสามารถลดเวลาในการจัดทำเอกสารและปรับปรุงคุณภาพการรายงาน เอกสารประกอบของแพทย์โดยคอมพิวเตอร์ (CAPD) ลักษณะนี้ มีคำแนะนำเกี่ยวกับเอกสารทางคลินิกแบบเรียลไทม์ที่ช่วยให้ผู้ให้บริการมั่นใจได้ว่าผู้ป่วยของพวกเขาจะได้รับประวัติทางคลินิกที่ถูกต้องและมีคำแนะนำที่สอดคล้องกัน
อีกกรณีคือข้อตกลงระยะ 5 ปีระหว่าง IBM กับ Cleveland Clinic ที่มีจุดประสงค์เพื่อปรับเปลี่ยนการดูแลด้านคลินิกและการดำเนินงานด้านการบริหาร การทำงานร่วมกันโดยใช้ Watson และเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆ ในการสร้างเหมืองข้อมูลขนาดใหญ่ ช่วยให้แพทย์สามารถให้ประสบการณ์การรักษาที่เป็นส่วนตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความสามารถในการประมวลผลภาษาของ Watson ช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถวิเคราะห์เอกสารทางการแพทย์หลายพันฉบับได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องเพื่อปรับปรุงคุณภาพการดูแลผู้ป่วยและลดต้นทุนการดำเนินงาน
โรงพยาบาล John Hopkins ยังได้เซ็นสัญญาในลักษณะเดียวกันกับ GE Healthcare Camden Group โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการดูแลผู้ป่วยและสร้างประสิทธิภาพโดยการใช้ศูนย์บัญชาการของโรงพยาบาลพร้อมกับการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ กลยุทธ์นี้จะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและมีข้อมูลสำหรับการปฏิบัติงาน เช่นการกำหนดเวลาใช้เตียงของผู้ป่วย และการจัดการกับคำขอความช่วยเหลือที่มีต่อหน่วยต่างๆ
AHEAD TAKEAWAY
Health Tech คือการใช้ประโยชน์จากการเติบโตของเทคโนโลยีไปกับการช่วยเหลือมนุษย์โดยตรง เมื่อทั้งหุ่นยนต์ผ่าตัด, AI ผู้ช่วยพยาบาล และงานธุรการ ต่างก็สามารถช่วยลดภาระของทีมแพทย์ และอำนวยความสะดวกให้กับทั้งผู้ป่วยและโรงพยาบาลได้โดยตรง
แม้จะต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายหนักข้อทั้งในแรกลงทุนและการดูแลรักษา แต่เมื่อเทียบกับปัจจัยหลายด้านแล้วก็นับว่าคุ้มค่า โดยเฉพาะหุ่นยนต์ผ่าตัด The da Vinci ที่มีมูลค่าประเมินในตัวเองถึง 40,000 ล้านดอลลาร์
เช่นกัน แม้จะมีคำถามอยู่บ้างจากผู้ใช้ ในเรี่องว่า AI อาจสร้างข้อผิดพลาดได้ในบางขั้นตอน รวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจถูกรุกล้ำจากภายนอก แต่ก็เป็นเรื่องที่ผู้ให้บริการจะต้องเข้มงวดกับแนวทางการใช้
ด้วยการที่เทคโนโลยีรุดหน้าขึ้นทุกวันและสร้างประโยชน์ได้มากมาย การเปิดรับ AI เข้าช่วยในการดูแลสุขภาพ จึงจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เมื่อชัดเจนว่าประโยชน์ที่จับต้องได้มีมากกว่าปัจจัยเสี่ยงทั้งหลายแหล่
เรียบเรียงจาก
The 3 most valuable applications of AI in health care
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับนวัตกรรมและธุรกิจ และต้องการพัฒนาตัวเองเพื่ออยู่ข้างหน้าเสมอ สามารถกด like เพจ AHEAD ASIA เพื่อติดตามเรื่องราวที่มีประโยชน์ และข่าวสารกิจกรรมที่น่าสนใจได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆ กัน
