Facebook ประกาศปรับโครงสร้างฝ่ายบริหารครั้งสำคัญที่สุดในรอบ 15 ปี แยกการบริหารออกเป็น 3 ส่วนหลัก โดย 2 ในนั้นเป็นการตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ แต่ทั้งหมดยังขึ้นตรง Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้งและ CEO ตามเดิม
เมื่อ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา โซเชียลมีเดียเบอร์ 1 ของโลก ได้ออกหนังสือแจ้งต่อพนักงาน ถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย
- ‘Family of apps’ ซึ่งประกอบด้วย Facebook, WhatsApp, Messenger และ Instagram ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้ทั่วโลกรวมกันถึงกว่า 5,000 ล้านรายต่อเดือน จะอยู่ภายใต้การดูแลของ Chris Cox ในตำแหน่ง CPO
- ‘New platforms and infrastructure’ รับผิดชอบเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI, Blockchain, AR และ VR โดยมี Mike Schroepfer CTO เป็นผู้รับผิดชอบ ส่วน David Marcus อดีตหัวหน้าทีม Messenger ถูกโยกมาดูแลด้าน Blockchain โดยเฉพาะ
- ‘Central product services’ ดูแลเกี่ยวกับเซอร์วิสต่างๆ อาทิ Ads, Analytics ฯลฯ อยู่ในความดูแลของ Javier Olivan รองประธานด้านการเติบโตธุรกิจ (Growth)
Facebook ยังมีการสลับตัวผู้บริหารกับเครือข่ายอย่าง Instagram อาทิ Adam Mosseri จากผู้ดูแล News Feed ย้ายไปเป็นรองประธานผลิตภัณฑ์ของ Instagram ส่วนทาง Kevin Weil ย้ายจากรองประธาน Instagram มาเป็นทีม Blockchain
AHEAD TAKEAWAY
เมื่อช่วงต้นปี Mark Zuckerberg ได้เผย New Year’s resolution ไว้ก่อนแล้วว่าจะปรับปรุงและยกระดับโซเชียลมีเดียเบอร์หนึ่งให้ดียิ่งขึ้นในทุกๆด้าน โดยจะเห็นว่าตั้งแต่ต้นปี มีการดึงผู้บริหารมือดีจำนวนมากเข้าสู่องค์กรอย่างต่อเนื่อง
เพราะแม้ว่าในปัจจุบัน พวกเขาจะเป็นเบอร์หนึ่งของโซเชียลมีเดียชนิดที่ไม่มีใครสามารถแข่งขันในตลาดได้ แต่การยึดติดอยู่กับธุรกิจแบบเดียว ไม่มีทางที่บริษัทจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้ ในเมื่อจำนวนผู้ใช้งานปัจจุบัน มีจำนวนเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งโลกแล้ว
การปรับโครงสร้างใหม่ครั้งนี้ เท่ากับเป็นการยืนยันว่าจากนี้ไป Zuckerberg ตัดสินใจแล้วที่จะเดินหน้าต่อในฐานะบริษัทเทคโนโลยี และแพลตฟอร์มอย่างเต็มตัว เห็นได้จากการแยกส่วน New Platform & Infrastructure ออกมาเป็นเอกเทศ โดยให้ Mike Schroepfer ดูแลเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้ง AI, AR/VR และที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ คือ Blockchain ทีก่อนหน้านี้แทบไม่มีการพูดถึง
แต่หากมองจากคาแรกเตอร์ของ Zuckerberg แล้ว ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะเจ้าของวลี Move fast and break things นั้น เชื่อมั่นในคติ “คิดเร็วทำเร็ว” อยู่แล้ว
คำถามคือเขาจะพาองค์กรพุ่งไปข้างหน้าได้เร็วแค่ไหน และจะไล่ทันบริษัทอื่นๆหรือไม่ หากมองว่าคู่แข่งหลายราย โดยเฉพาะ Google แสดงให้เห็นในงาน I/O ปีล่าสุด ว่าออกตัวไปได้ไกลมากแล้ว
เรียบเรียงจาก
FB is making its biggest executive shuffle in company history
FB undergoes a huge executive reshuffle
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับนวัตกรรมและธุรกิจ และต้องการพัฒนาตัวเองเพื่ออยู่ข้างหน้าเสมอ สามารถกด like เพจ AHEAD ASIA เพื่อติดตามเรื่องราวที่มีประโยชน์ และข่าวสารกิจกรรมที่น่าสนใจได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆ กัน
