ในบางตำราธุรกิจ ว่ากันว่าชีวิตเรา จะเริ่มต้นที่อายุ 40 ปี เป็นหลักหมุดที่ชีวิตเริ่มนิ่ง มีหลายสิ่งเพียบพร้อมมั่นคง และพร้อมลุยสร้างครอบครัวเป็นปึกแผ่น กระนั้นเมื่อทุกอย่างมีข้อยกเว้น การตั้งตัวได้ตั้งแต่ วัยรุ่น ก็มีอยู่หลายกรณี
เพราะเมื่ออยู่นอกตำราแล้ว “ถ้าคุณเก่งพอ คุณก็แก่พอ”
และนี่คือ 8 อันดับ “วัยรุ่นสร้างตัว” ระดับ ‘อายุน้อยร้อยล้าน’ ในสหราชอาณาจักร ที่ไม่ต้องรอให้ถึงหลักสี่ แค่เลี้ยวเข้าวิภาวดีก็รวยแล้ว…
#8
เบน กับ ฌอน แซกซ์บี : MJS Construction
มูลค่าทรัพย์สิน: 16 ล้านปอนด์
คู่พี่น้องตระกูล แซกซ์บี พี่ชายคนโต เบน อายุ 29 ส่วนคนเล็ก ฌอน เพิ่งเลยเบญจเพสมาปีเดียว มีทรัพย์สินรวมกันเป็นมูลค่า 16 ล้านปอนด์ หรือคิดเป็นเงินบาท (อัตรา 1 ปอนด์เท่ากับ 44 บาท) ได้ที่ 704 ล้านบาทไทย
ทั้งคู่ดูแลกิจการบริษัทรับเหมาก่อสร้าง MJS Construction ในแถบเคมบริดจ์เชียร์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญพิเศษด้านการปูพื้นและคอนกรีตเสริมเหล็ก โดย เบน กับ ฌอน ถือหุ้นของบริษัทรวมกันอยู่ราวๆ 3 ใน 4
MJS ก่อสร้างอาคารในอังกฤษไปแล้วมากกว่า 20 แห่ง โดยเฉพาะในเมืองเคมบริดจ์แห่งเดียวก็ 15 โครงการแล้ว และเมื่อปีก่อนได้รับรางวัลผู้ประกอบการดีเด่น 1 ใน 100 ของเคมบริดจ์เชียร์ด้วย
#7
อักชาย รูพาเรเลีย : Doorsteps
มูลค่าทรัพย์สิน: 16 ล้านปอนด์
เจ้าของกิจการที่อายุน้อยที่สุดในชาร์ต อักชาย รูพาเรเลีย หนุ่มน้อยวัย 19 ชาวกรุงลอนดอน ก่อตั้งบริษัทตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ Doorsteps ขึ้นเมื่อ 18 เดือนที่แล้ว และขายอสังหาด้วยแนวคิดใหม่ ต่างไปจากระบบเดิมที่เอเยนต์จะหักเปอร์เซ็นต์ในราคาขาย 2-3% รูพาเรเลีย คิดค่าบริการเพียง 99 ปอนด์ (4,300 บาท) เท่านั้น
รูพาเรเลีย ลงทุนก้อนแรกด้วยเงิน 7,000 ปอนด์ ที่หยิบยืมมาจากสมาชิกในครอบครัว และนับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องล้านเปอร์เซ็นต์ จากการที่ตอนนี้ Doorsteps กำลังเติบใหญ่ขึ้นเป็นลำดับ มีการจ้างงานพนักงานกว่า 25 คน และมีอสังหาริมทรัพย์ในบัญชีขายถึงกว่า 2,000 แห่ง
เจ้าหนูวัย 19 ถือหุ้นของบริษัทอยู่ถึง 97% ทำให้มูลค่าทรัพย์สินตอนนี้ของเขาอยู่ที่ 16 ล้านปอนด์
#6
นิค ดาลอยซิโอ : Summly
20 ล้านปอนด์
ตอนที่อายุแค่ 17 ขวบ นิค ดาลอยซิโอ (Nick D’Aloisio) ก็มีเงินไหลเข้าบัญชีถึงกว่า 20 ล้านปอนด์แล้ว เมื่อจัดการขายแอพพลิเคชันเกี่ยวกับการอ่านข่าว Summly ให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Yahoo
เริ่มต้นด้วยการเป็นแอพ Trimit ซึ่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์สรุปเนื้อหาข่าว ย่อลงเป็นข้อความ 1000, 500 หรือ 140 ตัวอักษร แอพนี้ถูกแนะนำโดย App Store และมีผู้ใช้จำนวนมาก จนไปเข้าตามหาเศรษฐี ลี กา-ชิง ให้ทุนมาพัฒนา 300,000 ดอลลาร์ และหนุ่มลอนดอนเนอร์เชื้อสายออสเตรเลีย ก็ใช้มันเพื่อรีดีไซน์และเปิดตัวใหม่กลายเป็น Summly ในปี 2011 ก่อนที่สองปีต่อมาจะขายมันให้กับ Yahoo แลกเงินมหาศาลก้อนดังกล่าว
เวลานี้ ดาลอยซิโอ อายุ 22 กำลังศึกษาที่ Hertford College แห่ง University of Oxford พร้อมๆ กับการเป็นผู้ลงทุนใน DeepMind และกำลังสร้าง Sphere Knowledge แอพเกี่ยวกับวิชาการความรู้
#5
คาร์ล ฮาร์ทลีย์ : TOM HARTLEY
23 ล้านปอนด์
ดูแลกิจการในครอบครัวต่อจาก ทอม ผู้เป็นพ่อ ซึ่งเป็นคนก่อตั้งบริษัทดีลเลอร์ซูเปอร์คาร์ Tom Hartley ในอังกฤษ ตั้งแต่ช่วงยุค 80
จะ Bugatti Veyron, Ferrari, Porsche, Rolls-Royce หรือรถหรูประมาณไหน Tom Hartley สามารถจัดหาให้ลูกค้าได้ทั้งนั้น และพร้อมให้บริการส่งมอบรถตลอด 24 ชั่วโมงและ 365 วันไม่มีวันหยุด ตราบใดที่เป็นความสะดวกสบายสูงสุดของลูกค้า
คาร์ล เริ่มเข้ามาช่วยดูแลกิจการภายหลังสำเร็จการฝึกงานตั้งแต่ปี 2005 หรือตอนที่เขาอายุเพียง 18 ขวบเท่านั้น ปัจจุบันในวัย 30 เขามีทรัพย์สินประเมินอยู่ที่ 23 ล้านปอนด์
#4
เอมี เมสัน กับ ทอม เมคิน : Footasylum
25 ล้านปอนด์
เอมี เมสัน (29) กับ ทอม เมคิน (28) เป็นพี่น้องกัน และจับมือกันรวยไปพร้อมกัน
บริษัทค้าปลีกรองเท้า Footasylum ร่วมก่อตั้งโดย เดวิด เมคิน คุณพ่อของทั้งคู่ (ผู้ซึ่งเป็นตัว D ในร้านดัง JD Sports) ในปี 2005 รับเอาสินค้าจากแบรนด์สตรีทแวร์ยอดนิยมทั้งหลายเช่น Nike, Adidas, Reebok, Puma เข้าขายทั้งหน้าร้านและออนไลน์ จนตอนนี้เปิดสาขากระจาย 65 แห่งทั่วประเทศอังกฤษ เช่นเดียวกับในกลาสโกว์ สกอตแลนด์ หรือคาร์ดิฟฟ์ เวลส์
ในกรุงลอนดอน แม้จะมีเพียง 2 สาขา แต่ก็ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมจากคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติ อย่าง Westfield ทั้ง 2 สาขา Shepherds Bush และ Stratford
มูลค่าประเมินของ Footasylum อยู่ที่ 165 ล้านปอนด์ ขณะที่แม้ เมสัน กับ ทอม จะถือหุ้นอยู่เพียง 7.5% ก็ทำให้คู่นี้มีทรัพย์สินถึงกว่า 25 ล้านปอนด์แล้ว
#3
โจชัว สตีเวนส์ : One Retail Group
30 ล้านปอนด์
สนใจในการค้าขายมาตั้งแต่ยังเด็ก โจชัว คิดทำธุรกิจตั้งแต่ตอนอายุ 13 ที่ต่อสายตรงรับสกูตเตอร์จากเมืองจีนมาขายในสวนสาธารณะแถวบ้าน และเมื่อทำกำไรได้แล้ว เขาก็เอามันไปลงทุนใหม่ด้วยการซื้อมาขายเพิ่ม
ตอนอายุ 14 เริ่มขายโทรศัพท์มือถือจากจีน และอายุ 16 ขายสกูตเตอร์, โทรศัพท์มือถือ, เกมคอนโซล
เหล่านั้นคือรากฐานของการก่อตั้ง One Retail Group ขึ้นในปี 2013 สร้างแบรนด์ 6 ตัวเพื่อขายสินค้าไลฟ์สไตล์, อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน จนถึงผลิตภัณฑ์ความสวยความงาม ปีที่แล้วมียอดขาย 14 ล้านปอนด์ คิดเป็นกำไร 3.3 ล้านปอนด์
ปัจจุบันในวัย 29 เขามีเงินในกระเป๋า 30 ล้านปอนด์
#2
แจ๊ค เคเทอร์ : HideMyAss!
45 ล้านปอนด์
บางที ความหงุดหงิดก็เป็นช่วงเวลาของการสร้างสรรค์ได้อยู่เหมือนกัน
ความหงุดหงิดของเจ้าหนู แจ๊ค เคเทอร์ วัย 16 ขวบ (ปัจจุบัน 29) ต่อการบล็อคเว็บไซต์เกมและเว็บฟังเพลงของเน็ตเวิร์คในโรงเรียนที่ Norfolk กลายเป็นความพยายามแฮ็คผ่านการบล็อคเหล่านั้น และเขาทำสำเร็จ “ผมคิดว่ามันน่าสนุกดีที่จะลอบผ่านการคัดกรองของโรงเรียน”
เคเทอร์ ยังเข้าใจถึงศิลปะด้านมืดในการโปรโมตเว็บและการสร้างรายได้จากอินเทอร์เน็ตตั้งแต่ตอนนั้น จนกระทั่งเกิดเป็นเว็บชื่อจั๊กจี้อย่าง Hide My Ass! (HMA) เครือข่าย virtual private network (VPN) เพื่อเข้าถึงอินเทอร์เน็ตแบบไม่ระบุตัวตน ผ่าน IP คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น
HMA สร้างรายได้จากสิ่งที่เรียกว่า ‘Affiliate Marketing’ คือเมื่อมีผู้ใช้คลิกเข้าซื้อสินค้าใดใดผ่านทาง HMA ก็จะได้ส่วนแบ่งเปอร์เซ็นต์จากร้านค้าออนไลน์นั้นๆ
ภายในเดือนเดียว HMA มีผู้ใช้งานหลักแสนคน และทำเงินเฉลี่ย 15,000 ปอนด์ต่อเดือน
สิบปีให้หลังจากการเปิดตัว Cator ขาย HMA ให้กับซอฟท์แวร์กรุ๊ป AVG ได้เงินมา 40 ล้านปอนด์
#1
อเล็กซ์ เลิฟเวน : Net World Sports
55 ล้านปอนด์
การขาย ‘เสาประตูฟุตบอล’ ให้ได้หลักแสนชิ้น คุณคิดว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่?
อเล็กซ์ เลิฟเวน ทำมันได้ภายใน 1 ปี
สมัยเรียน อเล็กซ์ สั่งซื้อไม้คริกเก็ตจาก eBay ในราคา 60 ปอนด์ ด้วยความสงสัยติดค้างเขาจึงติดต่อสอบถามไปยังบริษัทผู้ผลิตในประเทศอินเดีย ว่าถ้าจะซื้อแบบยกแพ็ค คิดเท่าไหร่ คำตอบคือราคาอยู่ที่เพียงชิ้นละ 6 ปอนด์เท่านั้น
เขาสั่งมา 10 อัน และขายมันให้กับเพื่อนๆ ในโรงเรียนที่ชิ้นละ 60 ปอนด์เท่า eBay
ปี 2009 เลิฟเวน ที่ตอนนั้นอายุแค่ 21 ปี ก่อตั้งบริษัท Net World Sports ขึ้นที่เร็กซ์แฮม ด้วยเงินลงทุน 13,000 ปอนด์ “ผมใช้เงินทั้งหมดไปกับการสั่งซื้ออุปกรณ์กีฬามาเป็นตู้คอนเทนเนอร์” เขากล่าว “แต่เมื่อมันมาถึงท่าเรือแล้ว ผมเพิ่งรู้ในตอนนั้นว่าผมต้องจ่ายค่าภาษีนำเข้าด้วย ผมเลยต้องเก็บมันไว้ที่ท่าเรืออย่างนั้น แล้วไปทำเรื่องกู้เงินกับธนาคาร พวกเขาบอกว่าผมต้องทำแผนธุรกิจเสียก่อน พวกเขาช่วยผมไม่ได้ แม่ผมก็เลยให้ยืมมา 2,000 ปอนด์แทน”
“การลงทุนที่ดีที่สุดของผมก็คือตู้คอนเทนเนอร์เหล่านั้น มันเปลี่ยนชีวิตผมไปเลย”
ช่วงปี 2016-2017 Net World Sports มียอดขาย 20 ล้านปอนด์ คิดเป็นกำไรถึง 5 ล้านปอนด์
การบริหารงานด้วยตัวเองและถือหุ้นอยู่ 99% ทำให้มูลค่าทรัพย์สินของเขาอยู่ที่ 55 ล้านปอนด์
และกลายเป็นนักธุรกิจอายุไม่เกิน 30 ที่ ‘รวยที่สุด’ ในเกาะอังกฤษ
AHEAD TAKEAWAY
การเป็นประเทศที่มี ‘อุตสาหกรรมฟุตบอล’ ขึ้นชื่อระดับโลก อังกฤษ (และกลุ่ม UK) จึงให้ความสำคัญกับเส้นทางนี้อย่างมาก ความเอาจริงเอาจังและมีโครงสร้างการพัฒนาฟุตบอลตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้เด็กอังกฤษจำนวนมากต้องการเติบโตขึ้นเป็นนักฟุตบอลอาชีพ (แม้แต่เด็กผู้หญิงด้วยก็ตาม) ซึ่งหากทำสำเร็จจะมีเม็ดเงินจำนวนมหาศาลรออยู่
นักฟุตบอลเด็กอายุแค่ 20 อย่าง มาร์คัส แรชเฟิร์ด ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปัจจุบันฟันเงินปีละ 2.2 ล้านปอนด์ และมีสิทธิ์เพิ่มขึ้นกว่านี้นับสิบเท่า หากยืนระยะสร้างผลงานได้ต่อเนื่อง หรือคนที่ขึ้นหิ้งไปแล้วอย่าง เวย์น รูนีย์ ก็ปรากฎตัวในลิสต์คนรวยของ Forbes เป็นระยะ ทรัพย์สินส่วนตัวเมื่อปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 18 ล้านปอนด์
การจัดลำดับ ‘อายุน้อยร้อยล้าน’ ก็คงจะผิดเพี้ยนไปมากด้วยหากนับรวมทุกสาขาอาชีพ ไม่ได้จำกัดในแวดวงธุรกิจผู้ประกอบการ
แต่ไม่ว่าจะในสาขาอาชีพใด สิ่งที่ความสำเร็จของพวกเขาเหล่านี้ถ่ายทอดออกมา ก็เข้าข่าย ‘ใช้ความถนัดให้เป็นประโยชน์’ พร้อมกับค้นหาจุดเปลี่ยนสำคัญให้เจอ การตั้งตัวได้ตั้งแต่ยังเยาว์ ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้
“ถ้าคุณเก่งพอ คุณก็แก่พอ” โรเบิร์ต วัตต์ส ผู้จัดทำ ‘The Rich List’ ของ Sunday Times กล่าว “มีหลายตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าดีกรี GCSEs, A-Levels หรืออะไรก็ตามแต่ ไม่ได้เป็นหนทางสู่ความสำเร็จเสมอไป”
“ทุกวันนี้เทคโนโลยีทำให้อะไรๆ ง่ายขึ้นมากกว่าแต่ก่อนมากสำหรับหนุ่มสาวที่คิดจะเริ่มต้นกิจการของตัวเอง แล็ปท็อป โทรศัพท์มือถือ จินตนาการและความมุ่งมั่น ล้วนแต่เป็นสิ่งที่คุณต้องการเพื่อสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่ง และดึงดูดผู้บริโภคจากทั่วโลก”
เข้าใจกันแล้วรึยัง วัยรุ่น ทั้งหลาย
เรียบเรียงจาก
RANKED: Britain’s millionaire entrepreneurs under the age of 30
The young entrepreneur who built a million pound business empire using old school business thinking
How misbehaving at school made one man a multimillionaire
AHEAD ASIA นวัตกรรม ล้ำหน้า