ในวันที่โลกเข้าสู่ยุคโลกาภิวัฒน์เต็มตัว การเริ่มต้นในฐานะผู้ประกอบการจึงไม่จำกัดว่าต้องทำในบ้านเกิดอีกต่อไป เมื่อหลายประเทศเลือกปรับนโยบายภาครัฐ ด้วยการเปิดกว้างเป็น ฮับเทคโนโลยี ต้อนรับนวัตกรรมใหม่ๆจากคนทั่วโลก พร้อมวางโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเอื้อให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆขึ้น
Emily Mansfield ผู้อำนวยการของ The Economist Intelligence Unit และทีมงาน ได้ทำการวิจัย และสำรวจ 82 ประเทศที่อยู่ในข่าย เพื่อหาประเทศที่มีสภาวะแวดล้อมเหมาะสมที่สุด สำหรับการเป็นฮับเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน
โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ 8 ด้าน ใน 3 ประเภทหลักดังนี้
การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต (access to the internet) วัดจากข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ต และจำนวนผู้สมัครใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศ
โครงสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล (digital economy infrastructure) พิจารณาจากคุณภาพของอีคอมเมิร์ซ ระบบสารสนเทศของภาครัฐ และระดับความปลอดภัยด้านข้อมูลออนไลน์ภายในประเทศ (cyber security)
ความเปิดกว้างต่อนวัตกรรม (openness to innovation) พิจารณาจากสิทธิบัตรที่มีการจด งบประมาณการใช้จ่ายในด้าน R&D และโครงสร้างในการทำวิจัย
และนี่คือข้อสรุป 10 ชาติที่มีศักยภาพพร้อมเป็น ฮับเทคโนโลยี แห่งยุค ร่วมด้วยประเด็นอื่นๆที่น่าสนใจ
ออสเตรเลีย-สิงคโปร์-สวีเดนดีสุดในโลก
ผลการสำรวจครั้งนี้ ระบุว่า ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และ สวีเดน คือสามชาติที่มีค่าเฉลี่ยคะแนนจากปัจจัยต่างๆสูงสุด โดยเป็นการขยับขึ้นจากอันดับ 2 และ 3 จากการสำรวจครั้งก่อน (2013-2017)
ขณะที่ฟินแลนด์ ซึ่งเคยเป็นชาติที่ได้รับการยกย่องว่ามีความพร้อมด้านเทคโนโลยีมากที่สุด ถูกปรับลดลงมาอยู่ในอันดับ 4 ร่วม เท่ากับ สหรัฐ, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ญี่ปุ่น และ เนเธอร์แลนด์
ส่วนอันดับ 10 ได้แก่ ออสเตรีย ซึ่งตกลงจากอันดับ 3 ร่วมในการสำรวจครั้งก่อน
จากแรงกิ้งดังกล่าว จะเห็นว่ามีสองชาติที่หลุดจากโผเดิมไป คือ เกาหลีใต้ และ ไต้หวัน (อันดับ 8 ร่วมในปี 2013-2017) โดยเป็น สหรัฐ และฝรั่งเศส ที่เข้ามาแทน
แชมป์เฉพาะทาง
ในกลุ่มท็อป 10 นั้น คือกลุ่มที่มีค่าเฉลี่ยทุกอย่างดีที่สุด แต่หากพิจารณาจากเฉพาะตัวข้อมูลดิบอย่างเดียว จะเห็นว่าหลายๆชาตินั้นมีความโดดเด่นเฉพาะตัว ในบางเรื่อง อาทิ
เนเธอร์แลนด์ คือชาติที่มีภาวะแวดล้อมเหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
สหราชอาณาจักร โดดเด่นในเรื่องระบบสารสนเทศภายในประเทศ
ส่วน ไต้หวัน เป็นผู้นำในด้าน cyber security และฮ่องกง นั้นมีค่าเฉลี่ยผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนสูงที่สุดในโลก
อิสราเอล และ เกาหลีใต้ คือชาติที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง R&D สูงที่สุด ด้วยค่าเฉลี่ย 4% จาก GDP ของประเทศ เหนือกว่ายักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐ (2.8%) จีน 2.1%) และสหภาพยุโรป (2%)
จีนกำลังมา
ปัจจุบัน สหรัฐ ยังเป็นชาติผู้นำในด้านการจดสิทธิบัตรนวัตกรรมใหม่ๆอยู่ โดยมี ญี่ปุ่น ตามมาเป็นอันดับสอง แต่เทรนด์ที่น่าสนใจกลับไม่ได้อยู่ที่สองชาตินี้ เพราะ จีน คือดาวรุ่งมาแรงที่กำลังยกระดับขึ้นมา (แม้ส่วนใหญ่จะเป็นการจดสิทธิบัตรเพื่อใช้งานในประเทศ มากกว่าในระดับนานาชาติก็ตาม โดยมี เสิ่นเจิ้น-ฮ่องกง-ปักกิ่ง เป็นแหล่งเทคโนโลยีใหม่ของประเทศ
AHEAD TAKEAWAY: แล้วไทยอยู่ตรงไหน?
เทียบกับการจัดอันดับครั้งก่อน ไทย มีความเปลี่ยนแปลงในเรื่องอันดับเล็กน้อย คือจากอันดับ 50 ร่วม (ค่าเฉลี่ย 5.21875) เท่ากับ บาห์เรน โครเอเชีย กรีซ คาซัคสถาน และ ตุรกี ขึ้นมาเป็น 49 ร่วมกับ โครเอเชีย คูเวต เม็กซิโก โรมาเนีย และ ตุรกี โดยมีคะแนนเฉลี่ยดีขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน คือ 5.78125 จัดอยู่ในอันดับ 3 ของอาเซียน
เหนือกว่า ฟิลิปปินส์ ค่าเฉลี่ย 5.5 ในอันดับ 55 ร่วม เวียดนาม ค่าเฉลี่ย 4.65625 อันดับ 65 ร่วม และ อินโดนีเซีย ค่าเฉลี่ย 4.375 ในอันดับ 67 ร่วม
แต่หากเทียบกับ สิงคโปร์ (#1) และ มาเลเซีย (#27) แล้ว ถือว่าเรายังตามหลังทั้งสองชาติอยู่พอสมควรทีเดียว
ที่น่าสนใจ ก็คือแม้ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และ อินโดนีเซีย จะอันดับที่ต่ำกว่าเรา แต่ทั้งสามประเทศ มีค่าเฉลี่ยที่สูงจากการจัดอันดับครั้งก่อนอย่างเห็นได้ชัด
คือ ฟิลิปปินส์ จาก 4.65625 เป็น 5.5
เวียดนาม จาก 3.53125 เป็น 4.65625
และ อินโดนีเซีย จาก 3.25 เป็น 4.375
คือเฉลี่ยเพิ่มขึ้นราวๆ 1 หน่วย เมื่อเทียบกับไทยที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.5 เท่านั้น
นอกจากนี้ ที่มองข้ามไปไม่ได้ คือทั้งที่มีความพร้อมน้อยกว่า แต่ชาติเหล่านี้ กลับมีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นเป็นของตัวเองแล้วทั้งนั้น คือ VNG (เวียดนาม) REVOLUTION PRECRAFTED (ฟิลิปปินส์) และ GO-JEK, TRAVELOKA, TOKOPEDIA และ BUKALAPAK (อินโดนีเซีย)
ซึ่งก็น่าสนใจว่าหากชาติเหล่านี้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะถูกแซงหน้าไป เหมือนที่เคยเกิดขึ้นแล้วกับชาติเพื่อนบ้านอย่าง มาเลเซีย
เรียบเรียงจาก
The best countries for tech companies: 2018 rankings
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับนวัตกรรม และธุรกิจ และต้องการพัฒนาตัวเองเพื่ออยู่ข้างหน้าเสมอ สามารถกด like เพจ AHEAD.ASIA เพื่อติดตามเรื่องราวที่มีประโยชน์ และข่าวสารกิจกรรมที่น่าสนใจได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆกัน