คลื่นแห่งอนาคต

จงเตรียมตัวกับ ‘คลื่นแห่งอนาคต’ ลูกถัดไป

ปัจจุบันได้มีสื่อหลากหลายแหล่ง และนักวิเคราะห์จำนวนไม่น้อยที่คาดการว่า อนาคตหลังจากนี้ โลกของเราจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหน และอะไรที่จะมาเป็น “The Next Big Thing” หลังจากยุคของเราที่เรียกว่า “Mobile First Era”

จากการที่ผมไม่ค่อยจะเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือเท่าไร เนื่องจากมีความเชื่อส่วนตัวว่า ปัจจุบันการได้รับข้อมูลจากการอ่านหนังสือ มักจะเป็นข้อมูลที่ล้าสมัย อีกทั้งยังล่าช้ากว่าการอ่าน “Content” ทาง “Internet” และส่วนตัวเป็นคนชื่นชอบการอ่านเทียบเคียงจากแหล่งข้อมูลหลากหลายแหล่งมากกว่า จึงทำให้ผมอยากจะลองสรุปข้อมูลที่ได้อ่านมา บวกกับสิ่งที่ลองคิดต่อเพิ่มเติม

เพื่อให้เพื่อนๆลองช่วยคิดกันต่อไป ว่าอะไรคือ คลื่นแห่งอนาคต ลูกต่อไป

 

A world without driver

 

 

ในอนาคต ไม่เกิน25–30ปีหลังจากนี้ การเป็นเจ้าของรถยนต์สักคัน เปรียบเสมือนการเป็นเจ้าของม้าสักตัว เรามีเพื่องานอดิเรกหรือความชอบส่วนตัว แต่จะไม่ใช่เป็นเจ้าของเพื่อใช้ในการเป็นเป็นยานพาหนะเพื่อใช้สำหรับขับเดินทางอีกต่อไป

ยุคของยานพาหนะไร้คนขับจะมาเร็วเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ สังเกตได้จากข้อมูลจาก Barclays Capital US ได้คาดการณ์ว่า ยอดขายในอุตสาหกรรมยานยนต์จะตกลงถึง 40% ภายในปี 2040

ซึ่งยังไม่นับรวมกับอุตสาหกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น ประกันภัยรถยนต์ ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ ธุรกิจการช่วยเหลือบนท้องถนน ธุรกิจรถเช่า หรือเเม้แต่ธุรกิจเก็บค่าที่จอดรถ และอู่ต่างๆ ที่จะลดความสำคัญลงอย่างมากมาย ถ้าเกิด Autonomous Vehicles

 

Perfecting the human-droid : Integration between Robot and AI

 

 

AI จะรวมร่างกับ Robot อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อการพัฒนาด้านการสร้างสิ่งมีชีวิตเทียมที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

สิ่งแรกที่สามารถนำ “Human-droid” มาใช้ได้เลยนั่นคือ อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ. “Defence industry” ไม่ว่าจะเป็นการตระเวนการตรวจค้น การลักลอบต่างๆ หรือ แม้แต่การลุกล้ำแดน ดังข่าวที่เราได้เห็นกันมาอย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งการนำ “Human-droid” มาใช้เพื่อตอบโจทย์กิจกรรมที่เสี่ยงตาย หรือแม้แต่กิจกรรมมนุษย์ขี้เกียจทำ อาจรวมถึงบุตรบุญธรรมที่เป็นหุ่นยนต์ ซึ่งการรวมร่างระหว่าง AI และ Robot จะสมบูรณ์ขึ้นอย่างที่แยกแยะไม่ออก

 

We growing meat as well as growing plants

 

 

เราจะปลูกเนื้อสัตว์เพื่อการบริโภค เหมือนกับการปลูกต้นไม้หรือพืชผักเพื่อใช้ในการบริโภคเช่นกัน – เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว บริษัทจากประเทศสหรัฐอเมริกา ชื่อ “Memphis Meats” ได้ทำการทดลองทอดเนื้อ Hamburger ราคา $18,000 ต่อ ปอนด์ ที่เกิดจากการทดลองในห้อง Lab เป็นครั้งแรกของโลก โดยได้กล่าวไว้ด้วยว่า

“Those who have tasted these items say they barely differ from the real deal.”

“คนที่ได้ทดลองทานเนื้อชิ้นนั้นกล่าวว่ามีความแตกต่างจากเนื้อที่บริโภคปกติทั่วไปน้อยมาก”

และได้ทิ้งท้ายไว้ว่า

“Lab-grown meat is in your future, and it may be healthier than the real stuff”

“ในอนาคตเนื้อที่ใช้บริโภค ที่เกิดจากห้อง Lab อาจจะมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าเนื้อในปัจจุบันที่เราทานกันอยู่”

ซึ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องราคา เพราะต้องถูกลงอย่างแน่นอน

 

Blockchain for all industries

 

 

ระบบ Blockchain จะนำมาตรวจสอบทุรกรรมทุกสิ่งอย่าง เพื่อเสริมการวิเคราะห์ของ “AI และ Robot” – ธุรกิจที่เป็นตัวกลางจะหายไปทั้งหมด

กิจกรรมอะไรที่เป็นตัวกลางบ้าง เช่น ระบบการเงินการธนาคาร ระบบตรวจสอบต่างๆ ระบบการตัดสินกฎหมายที่ไม่เที่ยงธรรม ระบบการเลือกตั้ง ระบบนายหน้าค้าที่ดิน ระบบการประมูลงานภาครัฐ ระบบการตรวจสอบแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้และอีกมากมายที่ยังรอการเกิดขึ้น

เราจึงต้องมองว่า “Blockchain” คือการนำเราแนวคิดของระบบไปใช้ ในการสร้าง “Application” (รูปแบบการนำเทคโนโลยีไปประยุคต์ใช้ในงานต่างๆ) หรือ การนำไป “Apply” เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆเพิ่มเติมอีกมหาศาล โดยมุ่งเน้นไปที่ Value of information

 

Decentralised manufacturing process

 

 

อุตสาหกรรมการผลิตไม่จำป็นต้องรวมศูนย์ (Centralised Manufacturing process) ในโรงงานอีกต่อไป การสร้างสินค้าสักชิ้น จะสร้างออกมาในรูปแบบที่ “Niche” มากยิ่งขึ้น “3D making as a service” สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกๆอุตสาหกรรมการผลิต ไม่ว่าจะเป็นตั่งแต่สินค้าขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ จำนวนน้อยไปจำนวนมาก

 

Summaries

สิ่งที่ได้ยกตัวอย่างมาเป็นเพียงการอ่านจับใจความและรวบรวมสิ่งสนใจส่วนตัว การอธิบายเรื่อง “Disruptive Trend” และข่าวสารเรื่องอนาคต มักจะเป็นเรื่องที่เก่าทันที เมื่อเขียนเสร็จ สิ่งที่ได้บรรยายมาทั้งหมดข้างต้น จะกลายเป็นสิ่งที่ล้าหลังลงไปทันทีเพราะระหว่างที่เราได้ใช้เวลาเขียนอยู่นั้น โลกก็ได้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆอยู่ทุกวินาที จึงอยากจะชวนเพื่อนๆ เตรียมตัว เตรียมความพร้อม มองโลกกว้างในมุม “Horizontal Thinking” และ เตรียมตัวให้พร้อมกับ คลื่นแห่งอนาคต ลูกใหม่ๆที่กำลังขยับเข้ามาทุกขณะ เพราะเรามีทางเลือกเพียง หนึ่ง คือเรามีความพร้อมที่โต้คลื่นลูกใหญ่ หรือ สอง เราจะอยู่ในฝั่งรอให้มันถาโถมซัดเราแบบตั้งตัวไม่ทัน

 

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิง

Website :
www.washingtonpost.com
www.smartstartup.com.au
www.smartcompany.com.au
www.unsplash.com
Book :
How to prepare now for what’s next. By Michael McQueen

 

Our Guest Contributer

คุณชรภัทธ์ สันติมากร หรือ Ong Santimakorn คือหนึ่งในผู้ที่คลุกคลีกับวงการสตาร์ทอัพไทยมาโดยตลอด ทั้งในฐานะ Chief Marketing Officer ของ Bangkok Ventures , Startup Bangkok – สตาร์ทอัพคอมมิวนิตี้ในไทย และผู้ร่วมก่อตั้ง Rinn Smart Cup แก้วน้ำอัจฉริยะ ซึ่งเป็นตัวแทนประเทศไทยร่วมแข่งขัน Asia Hardware Battle ที่เซี่ยงไฮ้ ปี 2017

Subscribe to Our Newsletter

Loading
Total
10
Shares
Previous Article
Google

Google ทุ่ม 550 ล้านดอลลาร์เข้าเป็นพันธมิตร JD.com

Next Article
Bio-ID

รถใต้ดินปักกิ่งใช้ Bio-ID รองรับผู้โดยสารช่วงพีกไทม์

Related Posts