Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เตรียมลงนามอนุมัติกฎหมายห้ามใช้อุปกรณ์เครือข่ายสื่อสารจากประเทศจีน อาทิ Huawei และ ZTE ในภาครัฐอย่างเป็นทางการ ในวันนี้ แม้ว่าการบังคับใช้จะเป็นในช่วง 2 ปีข้างหน้าก็ตาม
ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีนทั้ง 2 รายถูกขีดเส้นใต้ให้เป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ปี 2012 เมื่อทางการมองว่าทั้งสองเจ้าอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือสอดแนมของรัฐบาลจีน และล่าสุดก็มีคำสั่งอย่างเป็นทางการออกมาแล้ว
ผู้ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ จะถูกสั่งห้ามใช้อุปกรณ์หรือบริการทุกชนิดจากบริษัทเทคโนโลยีของจีนหลายแห่ง เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป ซึ่งการลงนามผ่านข้อกฎหมายในวันนี้โดยประธานาธิบดี Trump เป็นส่วนหนึ่งของพระราชบัญญัติด้านกลาโหม (Defense Authorization Act)
กฎหมายจะครอบคลุมถึงสิ่งใดก็ตามที่เป็น “องค์ประกอบหรือส่วนสำคัญของระบบใดใด” ตลอดจนเทคโนโลยีที่ใช้เกี่ยวเนื่องกัน โดยแม้ว่าจะไม่ได้บัญญัติถึงการห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อใดเป็นการเฉพาะเจาะจง แต่ก็หมายถึงผู้ประกอบการภาครัฐหลายราย, ผู้รับเหมา หรือบริษัทที่ต้องการทำธุรกิจกับรัฐบาล จะต้องละทิ้งเทคโนโลยีจากเมืองจีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นจำนวนมาก
พรบ. ยังกำหนดให้หน่วยงานของสหรัฐฯ จัดสรรเงินทุนให้กับบริษัทที่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ อันเป็นผลมาจากบังคับใช้ข้อกฎหมายใหม่
คำสั่งห้ามดังกล่าวเป็นไปตามคำแนะนำจากพรรค Democratic National Committee (DNC) ให้หลีกเลี่ยงการใช้ฮาร์ดแวร์ที่ผลิตโดย ZTE และ Huawei ทั้งในส่วนของกลุ่มนักการเมืองและพนักงานลูกจ้าง
เมื่อเดือน ก.ค. ZTE ไม่ประสบความสำเร็จในการเจรจาตกลงกับกระทรวงการพาณิชย์ เพื่อยกเลิกบทลงโทษหลังจากที่ได้ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรทางเหนือเกาหลีและอิหร่าน ซึ่งคำสั่งปฏิเสธไม่ให้ ZTE ทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์อเมริกันจะทำให้ธุรกิจของบริษัทได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง และเป็นจุดสำคัญในการต่อสู้ในสงครามการค้าของสหรัฐฯ กับจีน
กฎหมายจะถูกบังคับใช้ในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งนอกจาก 2 แบรนด์ดังแล้ว ก็ยังประกอบด้วยบริษัทฮาร์ดแวร์ด้านการสื่อสารโทรคมนาคมของจีน เช่น Hytera Communications, Hangzhou Hikvision Digital Technology Company และ Dahua Technology Company
Huawei ให้ความเห็นว่าพวกเขารู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งกับคำสั่งนี้ “บริษัทให้การสนับสนุนเป้าหมายของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการรักษาความปลอดภัยที่ดีขึ้น แต่การสุ่มตัวอย่างนี้ไปยัง NDAA ยังไม่เป็นผล, มีความเข้าใจผิด และขัดต่อรัฐธรรมนูญ”
“ไม่มีอะไรที่จะระบุความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่แท้จริง หรือเป็นการปรับปรุงความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน และจะช่วยลดปัญหาเรื่องนวัตกรรมเพียงเท่านั้นพร้อมกับที่จะเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้บริโภคและธุรกิจในสหรัฐฯ เราเชื่อว่าชาวอเมริกันสมควรได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงการเชื่อมต่อและตัวเลือกอุปกรณ์ที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และเราจะพยายามทำงานกันต่อไปให้สามารถเกิดขึ้นได้จริง”
AHEAD TAKEAWAY
Bob Lord หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของพรรค Democratic National Committee (DNC) ระบุผ่านบันทึกช่วยจำที่ถูกรายงานโดย CNN ว่าทั้งสมาชิกพรรค, เจ้าหน้าที่ และบุคลากรของภาครัฐ ควรหลีกเลี่ยงการใช้สินค้าและบริการจากประเทศจีน
“มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่พรรคและพนักงานในแคมเปญจะไม่ใช้อุปกรณ์ของ ZTE หรือ Huawei แม้ว่าราคาจะถูก หรือกระทั่งได้ใช้ฟรีก็ตาม”
คำแนะนำของ DNC สอดคล้องกับที่หน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา ทั้ง CIA, FBI, NSA และอีก 3 องค์กร ต่างลงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าสมาร์ทโฟน 2 แบรนด์นี้ มีความเสี่ยงต่อการดูดข้อมูลผู้ใช้ และเป็นเครื่องมือสอดแนมจากทางการจีน
และก่อนที่จะมีการลงนามของ Donald Trump ในวันนี้ ผู้แทนรัฐเท็กซัสก็ได้ ยื่นร่างกฎหมาย Defending U.S. Government Communications Act เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ทำงานร่วมกับบริษัทที่มีการเซ็นสัญญาใช้อุปกรณ์หรือบริการจากเครือข่ายทั้งสองเจ้า มาตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้ว
แม้ว่าการบังคับใช้ข้อกฎหมายใหม่จะมีขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า แต่ก็ชัดเจนว่าไม่ใช่ข่าวดีของบรรดาผู้ประกอบการเทคโนโลยีสื่อสารของแดนมังกร
โดยเฉพาะ Huawei ที่โอกาสการเข้าทำตลาดในสหรัฐฯ ถูกกีดกันเพิ่มไปอีก หลังจากที่เพิ่งได้ข่าวดีกับการขยับขึ้นแท่น สมาร์ทโฟนขายดีสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก แทนที่ Apple เมื่อต้นเดือนนี้เท่านั้น
เรียบเรียงจาก
New defense bill bans the U.S. government from using Huawei and ZTE tech
White House bans government use of Huawei and ZTE hardware
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับนวัตกรรมและธุรกิจ และต้องการพัฒนาตัวเองเพื่ออยู่ข้างหน้าเสมอ สามารถกด like เพจ AHEAD ASIA เพื่อติดตามเรื่องราวที่มีประโยชน์ และข่าวสารกิจกรรมที่น่าสนใจได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆ กัน
