New York Times เผยรายงานสุดช็อก Google ปิดข่าวการปลดพนักงานที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายล่วงละเมิดทางเพศ ถึง 48 รายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยหนึ่งในนั้นคือ แอนดี้ รูบิน ผู้สร้างระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ที่ถูก “จ้างให้ลาออก” เป็นจำนวนสูงถึง 90 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,970 ล้านบาท)
รายงานดังกล่าวซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์ “หนึ่งในบริษัทที่น่าทำงานด้วยที่สุดในโลก” โดยตรงของ Google ระบุว่า ในจำนวนพนักงานที่ถูกปลด 48 รายนั้น มีถึง 13 รายเป็นระดับผู้จัดการหรือสูงกว่านั้น และมี 3 รายที่ถูกจ้างให้ออกด้วยเงินจำนวนหนึ่ง แลกกับการปิดข่าวดังกล่าว
และหนึ่งในรายที่ถือว่าฮือฮาที่สุด ก็คือ รูบิน ผู้สร้างระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งถูกจ้างให้ออกด้วยเงินชดเชยสูงถึง 90 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,970 ล้านบาท) หลังมีพนักงานหญิงรายหนึ่งอ้างว่า เธอได้ถูกรูบินขืนใจให้ทำออรัลเซ็กส์ในโรงแรมแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2013 โดยที่บริษัทยังต้องจ่ายเงินพิเศษอีกเดือนละ 2 ล้านดอลลาร์ (ราว 66 ล้านบาท) ให้เจ้าตัวเป็นเวลา 4 ปี
รายงานจาก NYT เพิ่มเติมว่าบริษัทได้ดำเนินการลงโทษ รูบิน ในเรื่องนี้ หลังจากค้นพบ “วิดีโอเซ็กส์ BDSM” (bondage sex videos) ในเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับการทำงานของเขาเอง ซึ่งเป็นเหตุให้เขาถูกตัดโบนัสในปีนั้น
นอกจากนี้ ผู้สร้างแอนดรอยด์ยังถูกแฉว่ามีพฤติกรรมชอบข่มขู่ผู้ใต้บังคับบัญชา โดยมักประนามว่าเป็นคนโง่หรือไร้ความสามารถ แต่กรณีนี้ไม่ได้ถูกพิจารณาอย่างจริงจัง
ทว่าสุดท้าย ก็เป็น แลร์รี่ เพจ ซีอีโอของ Alphabet ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งที่ Google เป็นผู้เอ่ยปากขอให้ รูบิน ลาออกจากตำแหน่งด้วยตัวเอง
ด้านซีอีโอ ซุนดาร์ พิชัย ยอมรับผ่านอีเมลที่ส่งถึงกลุ่มพนักงานวานนี้ ว่าได้มีการปลดพนักงาน 48 รายดังกล่าวออกจริง แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีการมอบเงินชดเชยเพื่อจ้างใครออก
อีเมลที่มีการลงลายเซ็นของ ไอลีน นอห์ตัน รองประธานฝ่ายบุคคล กำกับไว้ด้วยนั้น ระบุว่าพนักงานปัจจุบันสามารถทำรายงานแจ้งต่อเบื้องบนโดยไม่ระบุชื่อผู้แจ้งได้ หากพบการล่วงละเมิด อีกทั้งบริษัทยังได้อัพเดตนโยบายให้บรรดารองประธานและรองประธานอาวุโสทุกคน ต้องเปิดเผยความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน โดยไม่ขึ้นอยู่กับรายงานที่ถูกแจ้ง หรือข้อขัดแย้งส่วนตัว
“เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจสูงสุดว่าบริษัทของเราเป็นสถานที่ทำงานที่คุณสามารถรู้สึกปลอดภัยได้ เพื่อการทำงานที่ดีที่สุด และจะมีผลกระทบร้ายแรงสำหรับทุกคนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม”
อย่างไรก็ตาม รูบิน ที่ปัจจุบันเป็นซีอีโอของ Playground Global และบริษัทเทคโนโลยี Essential Products นั้น ทวีตปฏิเสธรายงานจาก New York Times แล้ว
“เรื่องที่ New York Times นำเสนอ มีข้อผิดพลาดมากมายเกี่ยวกับงานของผม และมีการพูดเกินจริงไปมากเกี่ยวกับเงินชดเชยที่ผมได้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผมไม่เคยบังคับให้ใครมีเพศสัมพันธ์กับผมในโรงแรม”
“ข้อกล่าวหาที่เป็นเท็จเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญกล่าวร้ายเพื่อดูหมิ่นตัวผมในระหว่างการหย่าร้างและการสู้คดี นอกจากนี้ผมยังรู้สึกเป็นกังวลอย่างมากที่ผู้บริหาร Google ที่ไม่ระบุตัวตน กำลังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับไฟล์ส่วนตัวของผม และนำเสนอข้อเท็จจริงอย่างไม่ถูกต้อง” ผู้บริหารวัย 55 กล่าว
1/2 The New York Times story contains numerous inaccuracies about my employment at Google and wild exaggerations about my compensation. Specifically, I never coerced a woman to have sex in a hotel room. These false allegations are part of a smear campaign
— Andy Rubin (@Arubin) 26 ตุลาคม 2561
AHEAD TAKEAWAY
Google นั้นครองแชมป์ “บริษัทที่น่าทำงานด้วยที่สุดในโลก” จากการจัดอันดับโดยบริษัทจัดหางาน และสำนักข่าวต่างๆมานานหลายปี ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัย และเป็นมิตรกับทุกคน เช่นเดียวกับการเปิดกว้างให้พนักงานมีเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดอย่างเต็มที่
ขณะที่ตัวของ รูบิน เองนั้น ก็เป็นที่ยอมรับในวงการ จากการเป็นผู้วางรากฐานจน แอนดรอยด์ OS กลายเป็นระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในโลก ก่อนจะลาออกไปทำธุรกิจของตัวเองในปี 2014
โดยไม่มีใครเอะใจว่าการลาออกครั้งนี้ มีเบื้องหลังอื่นแฝงอยู่ นอกเหนือจาก “ความอิ่มตัว” ในหน้าที่การงาน กระทั่งมีรายงานล่าสุดจาก New York Times
ในรายงานฉบับนี้ ตีแผ่พฤติกรรมหมิ่นเหม่ของ รูบิน หลายกรณี ทั้งในเชิงชู้สาวและการปฏิบัติตัวต่อเพื่อนร่วมงาน ซึ่งสอดคล้องกับเรื่องที่เขาเพิ่งแยกทางกับภรรยา ราย รูบิน แบบจบไม่สวย มีการฟ้องหย่าขึ้นโรงขึ้นศาลกัน เมื่อเร็วๆนี้
ในคำสั่งฟ้องเพื่อขอแยกทาง ราย รูบิน อ้างว่าสามีของเธอ “มีความสัมพันธ์ทับซ้อน” กับหญิงอื่น ระหว่างที่ทั้งคู่ได้แต่งงานกันแล้ว
ส่วนในอีเมลที่ แอนดี้ ส่งถึงหญิงมือที่สามเมื่อปี 2015 ซึ่งถูกแทรกไว้เป็นหลักฐานในคำสั่งฟ้องด้วยนั้น ระบุว่า “การเป็นเจ้าของก็เหมือนคุณเป็นทรัพย์สินของผม และผมสามารถหยิบยืมคุณให้กับคนอื่นได้”
รายงานยังเผยว่า รูบินเริ่มออกเดตกับหญิงสาวรายหนึ่งในทีมแอนดรอยด์ เมื่อปี 2012 ก่อนที่หญิงสาวรายนี้จะอ้างว่า เธอถูกรูบินบังคับข่มขืนใจให้เข้าโรงแรม เมื่อปี 2013 ทั้งที่ได้ยุติความสัมพันธ์ไปก่อนหน้านั้นแล้ว
หญิงรายนี้ยังอ้างว่าเธอได้รอจนถึงอีก 1 ปีถัดมาเพื่อทำรายงานเรื่องนี้ไปยังบริษัท จนเริ่มมีการสอบสวน แต่ในไม่กี่สัปดาห์หลังการยื่นรายงาน บอร์ดก็อนุมัติหุ้นให้กับรูบินเป็นมูลค่าสูงถึง 150 ล้านดอลลาร์ โดยไม่แน่ชัดว่าบอร์ดได้ล่วงรู้ถึงการสอบสวนคดีล่วงละเมิดแล้วหรือไม่
New York Times ระบุว่า การสืบสวนพบว่าคำร้องของหญิงสาวมีมูลความจริง และ แลร์รี่ เพจ ตัดสินใจว่า รูบิน ควรออกจากตำแหน่ง ซึ่งในขณะที่บริษัทมีสิทธิ์จะเลิกจ้างได้ตามกฎหมาย ก็กลับเลือกที่จะมอบเงินชดเชย 90 ล้านดอลลาร์ดังกล่าวให้แทน และยังพยายามอุบเงียบถึงการสอบสวนต่างๆ นานาไม่ให้แพร่งพรายผ่านสื่อ
แม้ทั้ง รูบินและ ซุนดาร์ พิชัย จะปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดแล้ว แต่การที่พิชัยยอมรับว่า สั่งเด้งพนักงานและผู้บริหารรวม 48 คนในช่วง 2 ปีหลัง ด้วยความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศ
ก็แสดงให้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริง และเป็นเรื่องเลวร้ายที่ซุกซ่อนอยู่ในฉากหลังของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีภาพลักษณ์ดีมาตลอด
เรียบเรียงจาก
Google’s Sundar Pichai says 48 employees were fired for sexual harassment
Google gave top executive $90m payoff but kept sexual misconduct claim quiet – report
AHEAD.ASIA คือสำนักข่าวเจาะลึกด้านนวัตกรรม และธุรกิจ
อย่าลืมกดติดตามเพจและคอมมูนิตี้ของเรา สำหรับเรื่องล้ำๆ และข่าวสารกิจกรรมต่างๆ
เพื่อเราจะได้ก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆ กัน
