LinkedIn

10 ทักษะสุดฮอตแห่งปี 2019 การันตีโดย LinkedIn

AHEAD ASIA เคยนำเสนอแนวโน้มในอนาคต ว่าองค์กรต่างๆ อาจเป็นผู้กำหนดว่าเด็กๆจะต้องเรียนอะไร แทนที่จะเป็นสถาบันการศึกษา

เห็นได้จากเมื่อเร็วๆนี้ หลายบริษัทใหญ่ในสหรัฐ อาทิ Google, Apple, IBM หรือแม้แต่ Bank of America ประกาศว่าผู้สมัครเข้าทำงานไม่จำเป็นต้องมีปริญญาบัตร

ขอเพียงมี “ทักษะการทำงาน” ที่ตรงกับลักษณะงานเป็นพอ

แนวโน้มนี้ได้รับการยืนยันจากปาก เจเนลล์ เกล รองประธานฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ Facebook ที่ย้ำว่า “ทักษะคือสิ่งสำคัญที่สุด” ในการพิจารณารับเข้าทำงาน

“เราให้ความสำคัญกับทักษะกว่าประสบการณ์ในหลายๆเรื่อง ให้คุณลองยื่นใบสมัครมาเลย ถ้ามีทักษะที่ตรงกับที่เราต้องการ ต่อให้คุณไม่มีประสบการณ์เลย เพราะที่นี่ เราให้ความสำคัญกับเนื้อในมากกว่า คือคุณทำอะไรให้เราได้บ้าง”

ก่อนจะถึงวันที่องค์กรเหล่านี้จะเป็นผู้วางหลักสูตรการศึกษาให้กับคนรุ่นต่อๆไป คนทำงานในยุคปัจจุบัน ก็ต้องปรับตัวตามเช่นกัน ด้วยการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆที่จำเป็น

LinkedIn โซเชียลเน็ตเวิร์คด้านการงานที่ใหญ่ที่สุด ได้ทำการวิเคราะห์ตำแหน่งงานต่างๆที่ถูกโพสต์ไว้ เพื่อกรองหาว่าทักษะที่องค์กรต่างๆต้องการมีอะไรบ้าง โดยแบ่งเป็น soft skill (ทักษะด้านอารมณ์) 5 ประเภท และ hard skill (ทักษะด้านความรู้) อีก 5 ประเภท

มาลองเช็กกันว่าคุณมีข้อไหนบ้าง เพื่อมุ่งสู่การเป็นคนทำงานตัวจริงในยุค 4.0

เริ่มต้นด้วยทักษะเชิงอารมณ์ หรือ soft skills 5 ประเภท

#5
การบริหารเวลา

ในยุคที่ทุกอย่างเต็มไปด้วยความเร่งรีบ Time Management คือทักษะที่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ

เพราะไม่ใช่แค่ช่วยให้เราส่งงานได้ตรงตามกำหนด แต่ยังช่วยในเรื่อง work-life balance ได้ด้วย

หนึ่งในวิธีที่จะช่วยจัดการเรื่องนี้ได้ดี และถูกเลือกใช้โดยซีอีโอดังๆอย่าง อีลอน มัสก์ หรือ บิล เกตส์ ก็คือ Time Blocking Method (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่)

 

#4
การปรับตัว

ขณะที่หลายคน เคยชินกับการทำงานแบบเดิมๆ ตามที่ถูกสอนมา ในยุคปัจจุบันที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปจากผลของเทคโนโลยี Adaptability หรือการปรับตัวให้ได้จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก

การปรับตัว หรือประยุกต์ใช้ทักษะที่มีกับรูปแบบงานที่ต่างออกไป จะเกิดขึ้นได้ เมื่อคุณเข้าใจความเชื่อมโยงของสิ่งต่างๆ หรือผ่านการฝึกฝนทักษะการทำงานหลายๆแบบ
จนสามารถนำมาใช้ร่วมกันได้ ระหว่างทำงาน

 

#3
การทำงานร่วมกับผู้อื่น

หลายครั้ง ที่การมีทักษะหนึ่งหรือสองอย่างของคุณคนเดียว ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ การร่วมมือกับคนอื่นๆ (Collaboration) ที่มีความรู้และทักษะต่างออกไป จึงเป็นทางออกที่เหมาะสมกว่า

แต่การทำงานร่วมกับผู้อื่นให้ราบรื่นและได้ผลดีนั้น ก็จำเป็นต้องปรับตัวเข้าหาอีกฝ่าย ที่มีทั้งแนวคิด ความเชื่อ ที่แตกต่างกันด้วย คนที่สามารถปรับให้เข้ากับคนอื่นๆตามสถานากรณ์ได้นั้น จึงต้องเปิดกว้างทางความคิด พร้อมรับฟังไอเดียใหม่ๆที่คุณเคยมองข้าม หรือไม่เคยได้ยินมาก่อน

 

#2
การโน้มน้าวชักจูงผู้อื่น

ในชีวิตประจำวัน และการทำงาน ทักษะการสื่อสารคือสิ่งจำเป็น

เพราะคุณต้องใช้การเจรจาหรือโน้มน้าวใจอีกฝ่าย (Persuasion) เกือบจะตลอดเวลา ไม่ว่าจะในการทำงานร่วมกับผู้อื่น เช่น ชี้แจงให้หัวหน้าเห็นชอบกับข้อเสนอ หรือกระตุ้นให้คนในทีมอยากทำภารกิจให้สำเร็จ

ขณะเดียวกัน ก็ยังต้องใช้ในการเจรจากับคู่ค้า ไปจนถึงการขาย และบริการหลังการขายด้วย

 

#1
ความคิดสร้างสรรค์

Creativity นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของหลายๆอย่าง

หนึ่งในไอเดียเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเห็นเป็นรูปธรรมมากที่สุด คือการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆเข้าด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนวัตกรที่เลือกใช้วิธีนี้ คือ สตีฟ จ๊อบส์

จ๊อบส์ สนใจหลายสิ่งที่อยู่รอบตัว เขาพยายามมองหาความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่มีอยู่เสมอ และใช้วิธีหาจุดร่วมเพื่อสร้างสิ่งใหม่ๆขึ้น โดยอาศัยความร่วมมือจากคนอื่นๆที่มีทักษะเฉพาะทาง ไล่ตั้งแต่ สตีฟ วอซเนียค ในยุคตั้งต้น หรือนักดีไซน์มือหนึ่งของ Apple อย่าง โจนี ไอฟ์ ฯลฯ

 

นอกจาก ทักษะด้านอารมณ์แล้ว ทักษะด้านความรู้ (hard skills) ใหม่ๆ ก็กำลังเป็นที่ต้องการเช่นกัน

ผู้สนใจสามารถเรียนทักษะเบื้องต้นเหล่านี้ได้ ในคอร์สออนไลน์ต่างๆของมหาวิทยาลัยทั้งในและต่างประเทศ ที่ส่วนใหญ่จะมีช่วงให้ทดลองเรียนฟรี หากพอใจ ก็สามารถจ่ายค่าเรียนแบบรายเดือนหรือรายวิชาเพิ่มเติมได้

#5
UX Design

ในทุกธุรกิจ ประสบการณ์ของผู้ใช้นั้นมีความสำคัญมาก เพราะหากผู้ใช้ (หรือผู้บริโภค) รู้สึกพอใจกับสินค้า/บริการของเรา นั่นแปลว่าสิ่งที่เรานำเสนอนั้น “ตอบโจทย์ความต้องการ” ของเขาแล้ว

การออกแบบ ตามแนวทางของ User Experience จึงต้องยึดผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง ซึ่งอาจไม่ได้เน้นดีไซน์หวือหวาเลยก็ได้

ขึ้นกับว่ากลุ่มผู้ใช้งานที่เราให้ความสำคัญนั้นเป็นใคร

 

#4
การบริหารจัดการคน

ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไปขนาดไหน ทรัพยากรบุคคล ก็ยังคงเป็นพื้นฐานความสำเร็จขององค์กรอยู่ดี

ทักษะด้านบริหารจัดการคน (People Management) จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้บริหาร ไม่ว่าจะเป็นการสรรหาตัวบุคคล การดึงศักยภาพในตัวพนักงาน ไปจนถึงการรักษาบุคลากรคุณภาพสูงไว้ในองค์กรต่อไป ฯลฯ

 

#3
ตรรกะเชิงวิเคราะห์

อีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญสำหรับผู้บริหาร คือการตัดสินใจ และการตัดสินใจที่ดีนั้น ควรมีที่มาที่ไปและเหตุผลรองรับ

การเรียนรู้ที่จะคิด วิเคราะห์ อย่างเป็นระบบ ด้วยวิธี Analytical Reasoning จะช่วยให้การคิด หรือตัดสินใจเชิงกลยุทธ์มีโอกาสผิดพลาดน้อยลง

 

#2
ปัญญาประดิษฐ์

ในยุคที่คำว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย

อาชีพที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสายนี้ ก็เริ่มมีความสำคัญต่อองค์กรมากขึ้นไปด้วย โดยเฉพาะ Chief Analytics Officer และ Chief Data Officer ที่มีการคาดว่าจะเป็นสองอาชีพเนื้อหอมในปีนี้

 

#1
คลาวด์คอมพิวติ้ง

จะเห็นได้ว่าทักษะความรู้ยอดนิยมในยุคนี้ นอกจากทักษะการบริหารแล้ว ที่เหลือเป็นสกิลเกี่ยวกับดิจิทัลสายตรง

แสดงให้เห็นว่าองค์กรต่างๆ เริ่มเล็งเห็นถึงความสำคัญ ในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาปรับใช้กับธุรกิจของบริษัท

คลาวด์คอมพิวติ้ง ก็เป็นธุรกิจที่มีการคาดหมาย ว่าจะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องอีก หลังความสำเร็จของ AWS, Microsoft Azure และ Google Cloud รวมถึงการที่ IBM เทกโอเวอร์ Red Hat เป็นสถิติใหม่เมื่อไม่นานมานี้ด้วย

 

เรียบเรียงจาก

The 10 most in-demand skills of 2019, according to LinkedIn

AHEAD ASIA นวัตกรรม ล้ำหน้า

Subscribe to Our Newsletter

Loading
Total
167
Shares
Previous Article
ตรวจจับใบหน้า

โพลระบุคนอเมริกันเริ่มยอมรับระบบตรวจจับใบหน้า

Next Article
Facebook

Bloomberg แฉแหลก Facebook ฝังแอพลงมือถือ Samsung แบบลบไม่ได้

Related Posts