จอห์นนี่ เดปป์ นักแสดงหนุ่มใหญ่ ระบุในเอกสารฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาทกับ แอมเบอร์ เฮิร์ด ว่าอดีตภรรยา แอบไปมีความสัมพันธ์กับ อีลอน มัสก์ ซีอีโอ Tesla ทั้งที่เพิ่งเข้าพิธีวิวาห์กับตนได้ไม่นาน
เดปป์ วัย 55 ปี ตัดสินใจยื่นฟ้องหมิ่นประมาท เพื่อเรียกค่าเสียหายมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,590 ล้านบาท) จาก เฮิร์ด นักแสดงสาวจาก Justice League และ Aquaman หลังอีกฝ่าย เปิดเผยผ่านบทความใน Washington Post เมื่อปีที่แล้ว ระบุว่าถูกทำร้ายร่างกายหลายครั้ง ในช่วง 15 เดือนที่ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน
ในเอกสารฟ้องหมิ่นประมาทครั้งนี้ มีการพาดพิงถึง มัสก์ ในฐานะมือที่สาม ว่าเป็นต้นเหตุของการทะเลาะเบาะแว้งของคู่สามีภรรยาด้วย
เอกสารฉบับเดียวกัน ระบุว่า มัสก์ เคยเดินทางมาหา เฮิร์ด ที่บ้านพักของ เดปป์ ในลอสแองเจลีส ตอนกลางดึก หลังการแต่งงานไม่นาน ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่นักแสดงหนุ่มใหญ่เดินทางไปต่างประเทศ
ตัวแทนของ มัสก์ ยืนกรานว่าซีอีโอของ Tesla และดาราสาว เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก เมื่อเดือนพฤษภาคม 2016 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ เฮิร์ด ยื่นเรื่องขอหย่าขาดจาก เดปป์ และยังใช้เวลาหลังจากนั้นอีกพักใหญ่ กว่าที่ทั้งคู่จะตัดสินใจคบหากัน
ด้าน เอริค เอ็ม. จอร์จ ทนายความของดาราสาว กล่าวแต่เพียงว่าข้อกล่าวหาของ เดปป์ เป็นแค่ความพยายามที่จะหยุดไม่ให้ เฮิร์ด เปิดโปงพฤติกรรมก้าวร้าวทำร้ายร่างภายอดีตภรรยาเท่านั้น
ปัจจุบัน มัสก์ และ เฮิร์ด ไม่ได้คบหากันแล้ว โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะตารางงานที่แน่น จนไม่มีเวลาให้กัน ซึ่ง เฮิร์ด ยังเคยให้สัมภาษณ์ถึงฝ่ายชายในแง่ดี และยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
AHEAD TAKEAWAY
ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าคำกล่าวหาของ จอห์นนี เดปป์ เรื่อง อีลอน มัสก์ เป็นมือที่สาม ในความสัมพันธ์กับ แอมเบอร์ เฮิร์ด นั้น มีน้ำหนักมากแค่ไหน
แต่สิ่งหนึ่งที่พอจะบอกได้คือ มัสก์ นั้น ไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนักในเรื่องความรัก เพราะต้องหย่าขาดกับ จัสติน วิลสัน นักเขียนแคนาดา และ ทาลูลาห์ ไรลีย์ นักแสดงสาวชาวอังกฤษ
หรือแม้แต่ความสัมพันธ์กับ เฮิร์ด ก็มีอายุสั้นๆแค่เพียงสี่เดือนเท่านั้น ก่อนจะกลับมาเป็น “เพื่อนที่ดีต่อกัน” ตามที่ฝ่ายหญิงระบุ
(อ่านเรื่องรักๆของ มัสก์ เพิ่มเติมได้ ใน ส่องสาวข้างกาย 7 CEO ระดับโลก)
ส่วน แคลร์ เบาเชอร์ หรือ “ไกรมส์” นักร้องสาวสุดติสท์ ก็ยังเป็นความสัมพันธ์แบบรักๆเลิกๆ แม้จะปรากฎภาพในโซเชียลเน็ตเวิร์ค ว่าทั้งคู่ไปทานหม้อไฟด้วยกัน ในช่วงที่ฝ่ายชายไปเปิดโรงงาน Tesla ที่ปักกิ่ง เมื่อตอนต้นปีก็ตาม
After commissioning the gigafactory in Shanghai on Monday, #Tesla CEO @elonmusk was spotted eating in a famous hotpot restaurant in Beijing, a considerable upgrade from a pancake quick meal on the street during a July 2018 visit to China. pic.twitter.com/Y3oY1RVwDs
— Global Times (@globaltimesnews) January 10, 2019
จัสติน ภรรยาคนแรกของ มัสก์ เคยวิเคราะห์ว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะอดีตสามีถูกหล่อหลอมมาในสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่
หลายครั้งจึงแยกแยะไม่ออก ระหว่างชีวิตการทำงานกับชีวิตครอบครัว
บวกกับนิสัยทะเยอทะยาน ไม่ยอมคนง่ายๆ เหมือนที่ทวีตตอบโต้ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก, เวิร์น อันสเวิร์ธ หรือแม้แต่ ก.ล.ต. ที่เป็นหน่วยงานรัฐ
Vernon Unsworth ฮีโร่นักดำน้ำกรณีถ้ำหลวง เตรียมฟ้อง Musk ทวีตหมิ่นประมาท
แต่ในหลายสถานการณ์ คนที่มีบุคลิกแข็งกร้าว เด็ดขาดแบบ มัสก์ ก็มีความจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อองค์กรตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤต
เหมือนที่เขาตัดสินใจหักกับ มาร์ติน เอเบอร์ฮาร์ท ผู้ก่อตั้ง Tesla และใช้อำนาจในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ปลดอีกฝ่ายจากตำแหน่งซีอีโอ ก่อนที่อีกฝ่ายจะทำให้บริษัทล้ม เพราะไม่มีความสามารถในการบริหารเพียงพอ
และหากวันนั้นเขาไม่เด็ดขาดพอ วันนี้ อุตสาหกรรมรถยนต์อาจไม่ถูกผลักดันให้หันมาสนใจ EV อย่างทุกวันนี้ก็ได้
นั่นหมายถึงการไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตครอบครัว ไม่ได้แปลว่าเป็นจุดสิ้นสุดของเรื่องอื่นๆเสมอไป
เหมือนที่ มัสก์ หรือแม้แต่ เจฟฟ์ เบโซส ก็ยังสามารถ “ไปต่อได้” กับสิ่งที่ทั้งคู่เลือกเองว่าสำคัญกว่า
เรียบเรียงจาก
Johnny Depp Claims Amber Heard Began a Relationship with Elon Musk ‘One Month’ Into Their Marriage
Amber Heard Says She and Ex Elon Musk ‘Have a Beautiful Friendship Now’ 10 Months After Split
AHEAD ASIA นวัตกรรม ล้ำหน้า