The Las Vegas Convention and Visitors Authority หรือ LVCVA รัฐวิสาหกิจที่ดูแลศูนย์ประชุมลาสเวกัส เตรียมพิจารณาจ้าง The Boring Company บริษัทขุดเจาะอุโมงค์ใต้ดินของ อีลอน มัสก์ เข้ามาสร้างและดูแลระบบสัญจรใต้ดิน ในการบูรณะสถานที่ครั้งใหญ่ช่วงสิ้นปี โดยต้องรอผลการประชุมบอร์ดบริหารภายในสัปดาห์นี้อีกครั้ง
คณะกรรมการบริหารของ LVCVA มีโครงการที่จะรีโนเวทพื้นที่ใช้สอยกว่า 200 เอเคอร์ของศูนย์ประชุมลาสเวกัสครั้งใหญ่ ภายใต้งบประมาณ 1,400 ล้านดอลลาร์ (4.4 หมื่นล้านบาท)
หนึ่งในแผนที่ตั้งใจไว้ คือการวางระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่แบบไม่มีค่าโดยสาร ระยะทางราว 2 ไมล์ สำหรับรองรับคนสัญจรกว่า 1 ล้านคนต่อปี แทนระบบรถรางของเดิม ซึ่งบริษัทที่รับผิดชอบนั้นประสบปัญหาล้มละลาย
ตามแบบที่ The Boring Company นำเสนอกับ LVCVA นั้น จะมีการตั้งสถานี 3-4 แห่งตามฮอลล์ต่างๆของศูนย์ประชุม โดยการเดินทางไปมาระหว่างสถานี จะใช้รถลักษณะแคปซูล (pod) ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารได้ 16 คน และอาจรวมถึง Model X และ Model 3 รถยนต์ของ Tesla บริษัทที่ มัสก์ เป็นซีอีโอเช่นกัน เพื่อการรับส่งแทนรถรางแบบเดิม โดยทั้งหมดจะขับเคลื่อนโดยอัตโนมัติ
มัสค์ โชว์คลิปพาทัวร์อุโมงค์ Boring Company ยืนยันทันเปิดใช้งานตามกำหนด
สตีเวน ฮิลล์ ซีอีโอของ LVCVA ยอมรับว่าระบบดังกล่าวของ The Boring Company มีความน่าสนใจ ทั้งในแง่ความเป็น นวัตกรรม ราคา และสามารถเป็นจุดขายของตัวเมือง เมื่อเปิดใช้งานด้วย
คาดว่างบประมาณในการก่อสร้างระบบดังกล่าว จะอยู่ในราว 35-55 ล้านดอลลาร์ (1-1.7 พันล้านบาท) และมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนมกร 2021
AHEAD TAKEAWAY
แม้จะเติบโตขึ้นมาจากธุรกิจการพนัน แต่ในช่วงที่ผ่านมา ลาสเวกัส ก็ต่อยอดไปสู่ธุรกิจบริการที่นอกเหนือจากนั้น จนสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆจากทั่วโลกได้
โดยเฉพาะด้านการจัดประชุมและสัมมนา ซึ่งกลายเป็นเส้นเลือดหลักของเมืองในปัจจุบัน (ราว 6.6 ล้านคน จากนักท่องเที่ยวทั้งหมด 42 ล้านคนในแต่ละปี) โดยศูนย์ประชุมลาสเวกัส ซึ่งดำเนินงานในลักษณะรัฐวิสาหกิจนั้น ได้รับเลือกให้จัดอีเวนท์ระดับโลกมากมาย
หนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าอิเลคทรอนิคส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Consumer Electronics Show หรือ CES ทุกเดือนมกราคมของปีนั่นเอง
และเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต การมองหาระบบขนส่งมวลชนที่เป็นนวัตกรรมจริงๆ จึงเป็นตัวเลือกที่ LVCVA สนใจเป็นพิเศษ
เพราะปัจจุบัน พื้นผิวถนนบนลาสเวกัสนั้นแออัด จนไม่สามารถเพิ่มเลนถนนได้อีกแล้ว การย้ายลงมาใช้ใต้ดินเป็นทางสัญจร จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ซึ่งก็เข้าทาง The Boring Company พอดี
และหากบอร์ดของ LVCVA ลงมติเห็นชอบเลือกบริษัทของ มัสก์ จริงๆ ก็น่าจะถือเป็นดีลที่ win-win สำหรับทั้งสองฝ่าย
เพราะนอกจาก ลาสเวกัส จะได้ระบบขนส่งมวลชนในราคาไม่แพง (เพราะเทคโนโลยีขุดเจาะของ Boring Company) และแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวตัวใหม่ (ระบบขนส่งซึ่งล้ำหน้ากว่าที่อื่นในโลก)
Boring Company ได้ไฟเขียว เชื่อมอุโมงค์ Hyperloop กับโรงรถใต้ดิน
นี่จะเป็นโอกาสดีที่บริษัทขุดเจาะของ อีลอน มัสก์ ได้แสดงผลงานอย่างเต็มที่ โดยได้รับการสนับสนุนจากตัวเมืองด้วย หลังจากเจอปัญหาติดขัดในการทำงานตลอด ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขของภาครัฐเอง หรือการประท้วงจากประชาชนในพื้นที่ ทั้งที่ ลอส แองเจลิส และ ชิคาโก
นั่นหมายถึงต่อให้ธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ของคุณดีแค่ไหน แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็ยังต้องหาตลาดที่เหมาะสมให้ได้ และ ลาส เวกัส ในฐานะเมืองท่องเที่ยว ก็น่าจะเหมาะสมกว่าอีกสองเมืองที่ดูจะมีข้อจำกัดหยุมหยิมกว่า
“ถ้าคนที่มาเยือนศูนย์ประชุมได้ใช้งานระบบของเรา และรู้สึกชอบที่มันสะดวก และเร็วกว่าที่เคยเจอ มันก็จะเป็นใบเบิกทางสำหรับโครงการอื่นๆของเราต่อไป” สตีฟ เดวิส ประธานของ The Boring Company กล่าว
เรียบเรียงจาก
Las Vegas Wants Elon Musk’s Boring Co to Dig a Massive Tunnel
Elon Musk firm pitched to build transit system in Las Vegas
Elon Musk’s first Boring Company tunnel has its best chance of coming to Las Vegas first
AHEAD ASIA นวัตกรรม ล้ำหน้า