ลอยด์ วัลม์สลีย์ นักวิเคราะห์จาก Deutsche Bank คาด Instagram Checkout ฟีเจอร์ล่าสุดที่ผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าได้โดยตรงจากแอพไลฟ์สไตล์ยอดนิยม อาจสร้างรายได้มหาศาล ระดับ 10,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 3 แสนล้านบาท ให้กับบริษัทแม่อย่าง Facebook ภายในสองปีนับจากนี้
‘Checkout with Instagram’ ฟีเจอร์ล่าสุดที่ช่วยให้ยูสเซอร์ สามารถซื้อสินค้าที่ถูกใจจากรูปที่เห็นภายใน Instagram ได้ทันที โดยไม่ต้องกดออกจากแอพ หรือลิงค์ไปยังเว็บไซต์ของแบรนด์นั้นๆ เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาในระบบ เมื่อเดือนก่อน โดยปัจจุบัน ยังจำกัดไว้แค่ 23 แบรนด์ สำหรับกลุ่มลูกค้าในแถบอเมริกาเหนือเท่านั้น แต่ก็มีแผนจะขยายไปสู่ภูมิภาคอื่นๆต่อไป
และ วัลม์สลีย์ ก็แสดงความเห็นในจดหมายถึงนักลงทุน เชื่อว่าความสะดวกสบายในการใช้งานนี้ จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับ Facebook บริษัทแม่ ที่เตรียมต่อยอดสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มตัว
“ประสบการณ์ที่ลื่นไหลในเรื่องอีคอมเมิร์ซ อาจสร้างรายได้ให้กับ Facebook ถึงระดับ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายในปี 2021 ซึ่งเราเชื่อว่าฟีเจอร์ Instagram Checkout คือตัวแปรสำคัญที่จะปลดล็อคโอกาสนี้”
ปัจจุบัน Instagram มีผู้ลงทะเบียนใช้งานเกินกว่า 1,000 ล้านคน และมีค่าเฉลี่ยผู้ใช้ต่อเดือน (monthly active users) ที่ราว 130 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ ราว 90% เป็นกลุ่มคนอายุต่ำกว่า 35 ปี
https://ahead.asia/2018/04/03/%E0%B8%B4breakfast4brain-instagram/
AHEAD TAKEAWAY
ต่อยอดโฆษณาออนไลน์สู่อีคอมเมิร์ซ
อีแนว นิว จากเว็บไซต์วิเคราะห์ตลาดหลักทรัพย์ Motley Fool มองว่าการต่อยอดสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของ Facebook ผ่านทางแอพ Instagram ถือเป็นการเติมเต็มให้กับธุรกิจโฆษณาออนไลน์ที่เป็นรายได้หลักของบริษัทในปัจจุบัน
ในแง่การเปลี่ยนการรับรู้ของกลุ่มเป้าหมายให้เป็นการซื้อสินค้า ซึ่งจะทำให้ผู้ซื้อโฆษณาเห็นภาพชัดขึ้นว่าการลงโฆษณากับแอพในเครือของ Facebook นั้น เห็นผลเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ ตัวแอพก็จะสามารถเก็บข้อมูลผู้บริโภคกลับมาใช้ เพื่อนำมาปรับปรุงการระบุเป้าหมายเพื่อโฆษณาให้ตรงเป้ามากขึ้นเป็นวัฎจักร
เพิ่มอำนาจต่อรองกับแบรนด์
นิว ยังมองว่าการที่ Instagram เลือกที่จะรับส่วนแบ่งของราคาสินค้าเพียงเล็กน้อยจากแบรนด์ต่างๆ ในฟีเจอร์นี้
เพราะผู้บริหารต้องการที่จะรักษาสถานะคนกลาง ระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ต่างๆไว้ เพื่อง่ายต่อการต่อรองมากขึ้น
เพราะหากโมเดลนี้ไปได้สวย เท่ากับว่าแบรนด์ต่างๆก็จะต้องยอมให้ Instagram เป็นผู้เก็บข้อมูลต่างๆของผู้บริโภคแทน
ผู้แทนอังกฤษเปิดบันทึกอีเมลผู้บริหาร Facebook แฉกลยุทธ์บีบคู่แข่ง หากินข้อมูลผู้บริโภค
ภาพลักษณ์สดใหม่ ไร้ปัญหา
นิว เชื่อว่าในอนาคต Instagram ยังน่าจะเติบโตขึ้นมาเป็นธุรกิจที่ทำรายได้หลักให้กับบริษัทของ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ด้วย
เพราะนอกจากปัจจุบัน Facebook จะไม่ได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่ที่ไม่ต้องการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คร่วมกับพ่อแม่ ในการเปิดเผยเรื่องส่วนตัวแล้ว ในช่วงสองปีหลังสุด ตัวแพลตฟอร์มเองยังมีปัญหาเรื่องภาพลักษณ์การเก็บรักษาข้อมูลผู้บริโภคด้วย เมื่อเทียบกับ IG ที่สดใหม่กว่า และผู้ใช้งานหลักคือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะเติบโตขึ้นมา
การเปลี่ยนแปลงตัวผู้บริหารหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา ก็อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับความพยายามของทีมผู้บริหารบริษัทแม่ ในการหาวิธีสร้างรายได้จากบริการของ Instagram (และอาจรวมถึง Whatsapp ในอนาคต) นั่นเอง
เรียบเรียงจาก
Instagram’s new e-commerce feature is a $10 billion opportunity for Facebook, Deutsche Bank says
Instagram Shopping Could Soon Be a $10 Billion Business
AHEAD ASIA นวัตกรรม ล้ำหน้า
