ปัจจุบัน มีการใช้คำว่า Entrepreneur (ผู้ประกอบการ) กันอย่างแพร่หลาย เมื่อความเปลี่ยนแปลงของโลกในด้านนวัตกรรม เปิดโอกาสให้คนจำนวนมากได้สร้างและดำเนินธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นหลักที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ก็ยังคงเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ที่มีความพร้อมกว่า ทั้งในเรื่องเงินทุน ทรัพยากร รวมถึงคอนเนกชั่นต่างๆ
คำถามที่ตามมาก็คือ หากองค์กรขนาดใหญ่ทั้งหลายอยากจะมีนวัตกรรม และปรับตัวให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ควรต้องทำอย่างไร ในเมื่อวัฒนธรรมองค์กรทั่วไป ยังยึดติดกับ mindset แบบเดิมๆอยู่
ผู้ประกอบการในองค์กร?
แนวคิดของการสร้าง Intrapreneurship หรือความเป็นผู้ประกอบการภายในองค์กร จึงเกิดขึ้น เพื่อให้ผู้บริหารสามารถก้าวข้ามความท้าทายของการสร้างนวัตกรรมองค์กรได้
และหนึ่งในวิธีที่จะไปถึงจุดนั้นได้เร็วที่สุด คือการเรียนรู้โดยตรงจากวิทยากรของสถาบันการศึกษาอันดับหนึ่งในการสร้างนวัตกรของโลก Stanford Graduate School of Business (GSB)
ในหลักสูตร Executive Corporation Innovation ซึ่งได้มีการพัฒนาร่วมกับ RISE สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรระดับภูมิภาค ระหว่างวันที่ 27-29 สิงหาคมนี้ ที่กรุงเทพมหานคร
ครั้งแรกในอาเซียน กับ 3 วิทยากรระดับโลก
นายแพทย์ศุภชัย ปาจริยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งสถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กร (RISE) กล่าวว่า นี่คือครั้งแรกที่ Stanford GSB จะนำหลักสูตรนวัตกรรมองค์กรสำหรับผู้บริหารระดับสูง มาเปิดสอนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยวิทยากรชั้นนำ 3 ราย
ยอสซี ไฟน์เบิร์ก (Yossi Feinberg) ศาสตราจารย์เกียรติคุณด้านการจัดการและเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และผู้ดูแลโปรแกรม Stanford Ignite หลักสูตรการสร้างนวัตกรรมชั้นนำที่ผู้บริหารทั่วโลกให้การยอมรับ
บาบา ชิฟ (Baba Shiv) ศาสตราจารย์ด้านมาร์เก็ตติ้งของ GSB ซึ่งเชี่ยวชาญในสาขา neuroeconomics (เศรษฐศาสตร์เชิงประสาทวิทยา) รวมถึงเป็นที่ปรึกษาให้กับสตาร์ทอัพชั้นนำในซิลิคอน วัลลีย์หลายราย
โจนาธาน เลวาฟ (Jonathan Levav) ศาสตราจารย์ด้านมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งเน้นการทำความเข้าใจการตัดสินใจและทางเลือกของผู้บริโภค ด้วยศาสตร์ทางจิตวิทยา และเศรษฐศาสตร์เชิงพฤติกรรม
วิทยากรทั้งสามรายจะถ่ายทอดทั้งความรู้ ให้คำแนะนำ รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ลงมือทำในการเวิร์คช็อป ซึ่งหลังจบหลักสูตรแล้ว จะยังได้รับประกาศนียบัตรจาก GSB ด้วย
อัดแน่นด้วยโปรแกรมสำหรับผู้บริหาร
นายแพทย์ศุภชัย เสริมว่าหลักสูตร Executive Corporation Innovation ซึ่งจะเปิดอบรมที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 27-29 ส.ค.นี้ เหมาะกับผู้บริหารระดับสูง ในกลุ่ม C-level โดยเฉพาะ
เพราะนอกจากจะได้เรียนรู้แนวคิดการสร้างนวัตกรรมองค์กรในเวลาสั้นๆแล้ว ยังจะได้พบปะผู้บริหารจากทั่วอาเซียน ซึ่งทราบเรื่องการเปิดหลักสูตรนี้ผ่านทางพาร์ทเนอร์ต่างๆของ RISE ในต่างประเทศ เพื่อสร้างเครือข่ายในระดับภูมิภาคด้วย
ส่วนเหตุผลที่เน้นหนักไปที่ผู้บริหารองค์กรนั้น เพราะ RISE มองว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศนั้น วิธีที่รวดเร็ว และเห็นผลชัดเจนที่สุด คือการสร้างให้เกิดแนวคิด Corporate Innovation ขึ้นในองค์กรใหญ่ๆ ซึ่งจะนำไปสู่การจ้างงาน สร้างรายได้ให้เติบโตขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจหลักของ RISE อย่างการเพิ่ม GDP ของประเทศให้ได้ 1% นั่นเอง
สนใจเข้าร่วม Executive Corporate Innovation Program ติดต่อ คุณสุมนา ปาจริยานนท์ Head of Business Development & Strategic Partnership ที่ อีเมล์ fon@riseaccel.com หรือโทรศัพท์ +66 94 445 5900
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ riseaccel.com
AHEAD TAKEAWAY : องค์กรยุคใหม่ต้องกล้าเปลี่ยน
นายแพทย์ศุภชัย ยังนำเสนอมุมมองว่าผู้บริหารองค์กรทุกวันนี้ จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง mindset ในหลายๆเรื่อง เพื่อให้สามารถดำเนินงานต่อไปได้ โดยไม่ตกเป็นฝ่ายตามหลัง หรือถูกกลืนโดยกระแส disrupt เหมือนที่เกิดขึ้นกับหลายๆบริษัทชั้นนำมาแล้ว
“ในมุมของผม ประโยคที่ว่า ปลาใหญ่กินปลาเล็กมันยังได้ผลอยู่นะ แต่มันช้าเกินไปครับ สมมติถ้าวันนึงธุรกิจถูก disrupt ก็จะหายไปเลยนะ คำถามคือจะทำยังไงให้ผู้บริหารหันมาสนใจเรื่อง speed มากขึ้น”
“ถัดมาคือผู้บริหารต้องกล้าที่จะเสี่ยงมากขึ้น องค์กรใหญ่ๆมักจะใช้เวลานานกว่าจะตัดสินใจกับเรื่องที่มีความเสี่ยง ไปๆมาๆ มีแต่ประชุมแล้วก็คิด ไม่ได้ลงมือทำซักที ผมอยากให้คิดว่ามันเป็นความเสี่ยงจริงหรือแค่ภาพลวงตา เพราะทุกวันนี้ ต้นทุนในการสร้างนวัตกรรมถูกลงจากเมื่อยี่สิบปีก่อนมาก”
“สุดท้ายก็คือ Demo or Die คือลงมือทำเลย อย่างที่คนชอบพูดกันว่า Fail Fast เพราะจริงๆแล้ว มันไม่ใช่ความล้มเหลว เหมือน Facebook ที่ลองเอาฟีเจอร์ใหม่ๆมาใช้ในบางประเทศก่อน ถ้าไม่เวิร์ค ก็เลิก ไม่ต้องไปเสี่ยงในตลาดใหญ่กว่า วิธีนี้มันเห็นผลกว่าไปนั่งเตรียมกันเป็นปีกว่าจะเปิดตัวแล้วเจ๊ง เพราะแบบนั้น คุณใช้เวลานานเกินไปจนตลาดมันเปลี่ยนไปแล้ว”
AHEAD ASIA นวัตกรรม ล้ำหน้า