Qustodio แอปพลิเคชั่นช่วยผู้ปกครองควบคุมพฤติกรรมออนไลน์ของบุตรหลาน เผยตัวเลขน่าสนใจ ว่า TikTok มีแนวโน้มเขย่าบัลลังก์แอปด้านวิดีโอที่มีผู้ใช้งานสูงสุดของ YouTube ได้ในอนาคต หลังมีอัตราเติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วงสองปีหลังสุด
ข้อมูลดังกล่าวมาจากรายงานประจำปีของ Qustodio ผ่านการสำรวจข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ตครอบครัวในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และสเปน จำนวน 60,000 ครัวเรือน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2019 ถึงเมษายน 2020 โดยแบ่งกลุ่มการใช้งานเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย วิดีโอออนไลน์, โซเชียลมีเดีย, วิดีโอเกม และการศึกษา
YouTube ยังเบอร์หนึ่งขวัญใจเด็ก
ผลสำรวจพบว่า YouTube ยังครองอันดับหนึ่งแอปที่เยาวชนใช้งานมากที่สุด ด้วยอัตราที่เติบโตขึ้นจากเมื่อสี่ปีก่อนถึงสองเท่า แม้ YouTube จะกำหนดอายุผู้ใช้งานเบื้องต้นไว้ที่ 13 ปีขึ้นไป ตามข้อบังคับจาก FTC ที่สั่งปรับ Alphabet บริษัทแม่จำนวน 170 ล้านดอลลาร์ ในความผิดฐานละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของเยาวชนในสหรัฐฯ เมื่อปี 2019
ผลสำรวจระบุว่าเด็กชาวอเมริกันจำนวน 69% ใช้งาน YouTube เป็นประจำ ด้วยค่าเฉลี่ยประมาณวันละ 86 นาที ระหว่างการสำรวจในปีนี้ ขณะที่ค่าเฉลี่ยตลอดปีของปี 2019 อยู่ที่ 88 นาที ส่วนในสหราชอาณาจักรอยู่ที่ 74% (เฉลี่ยวันละ 75 นาที) และในสเปน มีสูงถึง 88% (เฉลี่ยวันละ 63 นาที)
ที่น่าสังเกตคือ YouTube Kids ซึ่งพัฒนาแยกออกมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ มีอัตราการใช้งานเพียง 7% ในสหรัฐฯ 10% ในสหราชอาณาจักร ส่วนที่สเปนแทบไม่มีผู้ใช้งานเลย
(อ่านเพิ่มเติม ผลสำรวจ YouTube พบคอนเทนต์สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี มียอดวิวสูงสุด)
ตัวเลขสกรีนไทม์เพิ่มขึ้นช่วงล็อคดาวน์
ในรายงานเสริมว่าอัตราการอยู่หน้าจอ หรือสกรีนไทม์ ในช่วงการล็อคดาวน์นั้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เห็นได้จากค่าเฉลี่ยการใช้งาน YouTube ของเด็กๆชาวอเมริกันที่เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 99 นาที ในช่วงกลางเดือนเมษายน ตามมาติดๆคือ TikTok ที่ใช้งานเฉลี่ยวันละ 95 นาที
อีกหนึ่งตัวเลขที่น่าสนใจ คือ TikTok กลายเป็นแอปยอดนิยมตัวล่าสุดของเด็กๆในทั้ง 3 ประเทศที่ทำการสำรวจ โดยค่าเฉลี่ยการใช้งานของเด็กอเมริกันอยู่ที่ 82 นาที เพิ่มขึ้น 116% เด็กๆในสหราชอาณาจักรใช้ 69 นาที เพิ่มขึ้น 97% ส่วนสเปนใช้งานที่วันละ 60 นาที โตขึ้น 150%
ด้านแอปพลิเคชั่นเพื่อการศึกษานั้น Google Classroom เป็นแอปที่ถูกใช้งานมากที่สุด โดยสเปนนั้นใช้งานมากถึง 65% รองลงมาคือสหรัฐฯ ที่ 51% และสหราชอาณาจักรที่ 31%
AHEAD TAKEAWAY
ปฏิเสธไม่ได้ว่า TikTok คือหนึ่งในแอปพลิเคชั่นที่มาแรงที่สุดในยุคนี้ จนทำให้ ByteDance ผู้พัฒนาเติบโตเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าสูงสุดของโลก และยังไม่มีวี่แววว่าจะชะลอตัวลง
(อ่านเพิ่มเติม TikTok บุกซิลิคอน วัลลีย์ ดูดพนักงาน Facebook)
เพราะล่าสุด รายงานจาก SensorTower ก็ระบุว่าแอปวิดีโอสั้นจากจีนรายนี้ เป็นแอปที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุด (ยกเว้นกลุ่มเกม) ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ 111.9 ล้านครั้ง หรือเติบโตจากปีก่อนถึงสองเท่า (รองลงมาคือ Zoom ที่ได้อานิสงส์จากโควิด-19 ทำให้การประชุมผ่านวิดีโอเป็นเรื่องจำเป็น)
ในจำนวนนี้ราว 20% เกิดขึ้นในอินเดีย ซึ่งถือเป็นการเปิดตลาดใหม่สำหรับ ByteDance ด้วย ขณะที่สหรัฐฯ ซึ่งเป็นอีกตลาดใหญ่ที่บริษัทฯเล็งไว้ ก็มียอดดาวน์โหลดน่าพอใจเช่นกันที่ 9.3%
มีการวิเคราะห์กันว่าสาเหตุที่ทำให้ TikTok เป็นที่นิยมอย่างสูงในช่วงที่ผ่านมา เป็นผลจากความเครียดของผู้คนในสถานการณ์ล็อคดาวน์ ซึ่งการสร้างและรับชม user-generated content ก็เป็นอีกทางออกในการผ่อนคลาย
แต่การทำให้แอปพลิเคชั่นได้รับความนิยมในวงกว้าง ก็ต้องมาจากความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค และการพัฒนา User Interface ให้เข้าใจง่าย ใช้งานง่ายด้วย ซึ่ง ByteDance ทำในส่วนนี้ได้ดี ขณะที่คู่แข่งซึ่งพยายามเดินตามแนวทางเดียวกันยังไม่สามารถไปถึงระดับเดียวกันได้
อีกจุดหนึ่งที่น่าสังเกตคือ การเติบโตของสกรีนไทม์นั้นอาจไม่ได้เป็นผลจากโควิด-19 ก็ได้ เพราะ Qustodio ตั้งข้อสังเกตไว้ว่ากราฟการเติบโตของการอยู่หน้าจอของเด็กนั้น มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆอยู่แล้ว ซึ่งเป็นรูปแบบของไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ส่วนการล็อคดาวน์นั้นเป็นเพียงตัวเร่งปฏิกิริยา หรือเสริมให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นมากกว่า
นั่นแปลว่าแม้วิกฤตโควิดจะหมดไป แต่เวลาในการอยู่หน้าจอของเด็กและผู้คนไม่น่าจะลดลงในอัตราที่เห็นภาพชัดเจนอยู่ดี
เรียบเรียงจาก
Kids now spend nearly as much time watching Tik Tok as YouTube in US, UK and Spain