RISE สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับองค์กรภาครัฐชั้นนำจาก 3 ประเทศ ได้แก่ Food Innopolis (ประเทศไทย) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ depa (ประเทศไทย) Enterprise Singapore และ Malaysia Digital Economy Corporation (MDEC) จัดงาน Global Accelerator Program Demo Day 2020 แสดงเทคโนโลยีของสตาร์ทอัพชั้นนำจากทั่วโลกที่เข้าร่วมโครงการ Global Accelerator Program โปรแกรมเร่งสปีดการนำเทคโนโลยีชั้นนำทางด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI), อาหาร (Food Tech), การเกษตร (AgriTech) และ ชีวภาพ (BioTech) มาใช้แก้ปัญหา หรือ เบิกทางไปสู่โอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้แก่องค์กรชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา
“แม้ในปีนี้ จะเป็นปีที่ท้าทายอย่างมากสำหรับทุกคนทั้งองค์กรใหญ่ เล็ก และกลุ่มสตาร์ทอัพทั่วโลก ในหลายอุตสาหกรรม เราได้เห็นถึงความร่วมมือและการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐในประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างมากที่เชื่อว่านวัตกรรมจะเข้ามาเป็นตัวเร่งสปีดการฟื้นตัวและการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว โดยโครงการ Global Accelerator Program ในครั้งนี้ได้มีส่วนช่วยให้องค์กรและสตาร์ทอัพมาจับมือกันแก้ปัญหาทางธุรกิจจริงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วยโซลูชันนวัตกรรมที่ไม่ใช่แค่ใหม่ล้ำ แต่ใช้ประโยชน์ได้จริง” นายแพทย์ศุภชัย ปาจริยานนท์ หรือ หมอคิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง RISE กล่าว
โครงการ Global Accelerator Program เป็นโครงการที่คัดเลือกสตาร์ทอัพเข้ามาช่วยองค์กรชั้นนำระดับภูมิภาค ในการร่วมพัฒนานวัตกรรมที่จะมาเป็นโซลูชันของโจทย์ทางธุรกิจ ในระยะเวลา 12 สัปดาห์ โดยมี RISE เป็นผู้ที่ให้คำปรึกษา ตั้งแต่การพัฒนาโจทย์ปัญหาที่ดี เพื่อให้สตาร์ทอัพเข้าใจถึงปัญหาที่แท้จริง การคัดเลือกและจับคู่สตาร์ทอัพกับองค์กร และการดูแลความร่วมมือและผลลัพธ์อย่างใกล้ชิด
การจัดงาน Global Accelerator Program Demo Day 2020 ครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงผลงานของสตาร์ทอัพที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และมีนวัตกรรม ด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI), อาหาร (FoodTech),
การเกษตร (AgriTech) และ ชีวภาพ (BioTech) ที่ดีที่สุดจากทั่วโลก ซึ่งตลอดระยะเวลาดำเนินการโครงการ หลายสตาร์ทอัพได้จับคู่กับองค์กรภาคธุรกิจชั้นนำในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิเช่น Somboon Group, Tipco, Sime Darby Plantation Bhd. เป็นต้น เพื่อพัฒนาโครงการนำร่องในการแก้ปัญหา หรือสร้างโอกาสจากเทคโนโลยีใหม่ นอกจากนี้ สตาร์ทอัพยังได้เข้าพบกับภาคธุรกิจต่าง ๆ ทั้งในไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ เพื่อสำรวจตลาด ทำความเข้าใจความต้องการและปัญหาของลูกค้าองค์กร เพื่อนำฟีดแบ็คที่ได้มาปรับทิศทางการขยายตลาดในภูมิภาคต่อไป
โดยสตาร์ทอัพชั้นนำ 30 ทีม ที่ผ่านการคัดเลือก เพื่อนำเสนอผลงานในวันนี้ ประกอบด้วย
- Agerris
- AgNext
- AIFI
- Altotech
- Avant Meats
- Beam
- Binary Sign
- Bizcuit
- EATLAB
- Glueck Tech
- Hapy Bot
- Horangi
- Hypertenuse
- Intello Labs
- JuiceInnov8
- KITOV
- Listenfield
- Lumitics
- Maeko
- Mertani
- Motionscloud
- Ombre
- PiQuant
- PlantOS
- Playbasis
- Retailetics
- SAT.ASIA
- SkyFrog
- StixFresh
- Terrapin
“ในปัจจุบันและอนาคต Collaboration จะเข้ามาแทนที่ Disruption การสร้างและพัฒนานวัตกรรมในลักษณะของ Open Innovation (นวัตกรรมแบบเปิด) ที่องค์กรใหญ่เปิดโอกาสให้องค์กรอื่นๆ หรือสตาร์ทอัพ เข้ามาพัฒนานวัตกรรมร่วมกัน เพื่อให้ได้โซลูชันใหม่ๆในเวลาที่รวดเร็วกว่าการทำเพียงคนเดียว ซึ่งในปีหน้า RISE มุ่งผลักดัน Open Innovation ให้เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อน 1% ของ GDP ประเทศไทย พันธกิจที่ RISE มุ่งมั่นทำให้สำเร็จมาตลอด 4 ปี” นายแพทย์ศุภชัย กล่าวสรุป
สำหรับสตาร์ทอัพที่สนใจเข้าร่วมโครงการกับ RISE เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้ร่วมงานกับองค์กรภาคธุรกิจชั้นนำทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วม RISE Open Innovation Network
เพื่อแสดงความสนใจและความพร้อมในการเข้านำเสนอเทคโนโลยีแก่องค์กรภาคธุรกิจแขนงต่างๆ และ นักลงทุนจากทั่วโลก โดยโครงการนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับสตาร์ทอัพในการเข้าร่วมแต่อย่างใด สามารถสมัครเข้าร่วมเครือข่ายได้ที่ http://bit.ly/RISEOPENINNOVATIONNETWORK
AHEAD ASIA นวัตกรรม ล้ำหน้า