กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) คาดจะมีการ ปรับดอกเบี้ย นโยบายขึ้นอีก 0.25% ในการประชุมครั้งต่อไปของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปลายเดือนพฤศจิกายน และจะปรับต่อเนื่องจนถึงระดับ 1.75% ภายในไตรมาสแรกของปีหน้า หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 1.0% จากเดิม 0.75%
การขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว นับเป็นครั้งที่สองจากเดือนธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์
พร้อมกันนี้ ทาง กนง. ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในด้านการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน โดยประเมินว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวอยู่ที่ 3.3% ในปีนี้
แต่ได้ปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2566 จากเดิม 4.2% เป็น 3.8% พร้อมคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาประเทศไทย จะอยู่ที่ 9.5 ล้านคนในปี 2565 และ 21 ล้านคน ในปี 2566
ในส่วนของอุปสงค์ต่างประเทศ กนง. ประเมินว่า เศรษฐกิจโลกที่ชะลอลงกว่าคาดส่งผลต่อภาคการส่งออก แต่ไม่ได้กระทบแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม
ในด้านแรงกดดันด้านราคาสินค้า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น จากการส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะอยู่ที่ 2.6% โดยประมาณในปี 2565 และอยู่ที่ 2.4% ในปี 2566 ซึ่งปรับขึ้นจากครั้งก่อน
ขณะที่ค่าแรงมีการปรับขึ้น แต่ยังคงไม่เห็นสัญญาณของการปรับขึ้นค่าแรงในวงกว้าง
ด้านเงินบาท อ่อนค่าอย่างรวดเร็วที่ 38.30 บาท/ดอลลาร์ หลังการประกาศของ กนง. คิดเป็น 15% แล้วในปีนี้ซึ่งเป็นผลจากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย และการคุมเข้มนโยบายอย่างแข็งกร้าวของเฟด แต่ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค
ด้านกรุงศรีมองว่าในการประชุมคณะกรรมการกนง. รอบถัดไปในวันที่ 30 พฤศจิกายน จะมีการปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก 0.25% และอาจจะมีการปรับขึ้นอีกครั้งละ 0.25% อีก 2 ครั้งในไตรมาส 1 ของปี 2566 สู่ระดับ 1.75% ในกรอบระยะเวลาดังกล่าว
AHEAD ASIA นวัตกรรม ล้ำหน้า