Tech Winter

3 แนวทางรับมือ Tech Winter สำหรับสตาร์ทอัพ จาก AWS

จากปี 2021 ที่เป็นช่วงบูมของสตาร์ทอัพทั่วโลก เราจะเห็นตัวเลขที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในปีนี้ ทั้งในแง่ของจำนวนและมูลค่าการลงทุนจาก VC

เสริมด้วยข้อมูลจาก CB Insights ที่ระบุว่าตัวเลขการระดมทุนของสตาร์ทอัพทั่วโลกในปีนี้ น่าจะอยู่ที่ราว 438,900 ล้านดอลลาร์

ถึงจะแม้จะดูเป็นตัวเลขที่สูง แต่จริง แล้ว ถือว่าลดลงจาก 630,300 ล้านดอลลาร์ ในปี 2021 ถึง 30%

สำหรับคนทำสตาร์ทอัพ ตัวเลขนี้ถือเป็นสัญญาณที่น่ากังวล ว่าในปี 2023 ทุกอย่างอาจเข้าสู่ภาวะชะลอตัว หรือที่เรียกกันว่า Tech Winter รึเปล่า?

 

ตัวเลขอาจลดลง แต่โอกาสยังเปิดกว้าง

ในมุมของคุณกอราฟ อโรรา ผู้อํานวยการและหัวหน้าฝ่ายธุรกิจสตาร์ทอัพ ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกญี่ปุ่นAmazon Web Services (AWS)

คุณกอราฟ มองว่าถึงตัวเลขโดยรวมในปีนี้จะลดลง แต่ก็ยังถือว่ามีระดับการลงทุนที่สูงอยู่ เมื่อเทียบกับหลาย ปีก่อนหน้า (เช่นในปี 2020 ที่ตัวเลขการลงทุนอยู่ที่ 298,200 ล้านดอลลาร์)

ข้อมูลจาก CB Insights ยังระบุว่า 66% ของดีลที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี เป็นดีลสำหรับสตาร์ทอัพที่อยู่ในช่วง early stage ซึ่งอาจตีความได้ว่าไอเดียใหม่ ยังเป็นที่สนใจของนักลงทุนอยู่

ในแง่ของการทำงาน AWS ก็พร้อมสนับสนุนสตาร์ทอัพที่เพิ่งเริ่มต้น ให้ดําเนินธุรกิจบนคลาวด์ได้อย่างไม่สะดุด ด้วยสิทธิประโยชน์จาก โปรแกรม AWS Activate

ตั้งแต่การสนับสนุนด้านเทคนิคและการฝึกอบรม การให้คําปรึกษาทางธุรกิจ และตัวเลือกในการสมัครขอเครดิตเพื่อการประมวลผลบนระบบคลาวด์ของ AWS ซึ่งมีบริการให้เลือกมากกว่า 200 รายการ

เกือบสิบปีในการให้บริการโปรแกรม AWS มีส่วนสนับสนุนสตาร์ทอัพหลายแสนรายทั่วโลก ซึ่งก็รวมถึงสตาร์ทอัพไทย อย่าง Globish, MuvMi และ ENRES ด้วย

นอกจากการสนับสนุนของ AWS คุณกอราฟ ยังมีคำแนะนำสำหรับคนทำสตาร์ทอัพในการผ่านช่วงเวลาท้าทายอย่างTech Winter ให้นำไปปรับใช้ด้วย

 

1️⃣

ใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

ในสถานการณ์แบบนี้ นักลงทุนมักให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก โดยเน้นที่รายได้มากกว่าการเติบโต

นักลงทุนอยากเห็นการใช้เงินทุนและการจัดการอย่างระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายหลักสำหรับสตาร์ทอัพในช่วง early stage อย่าง บุคลากร การตลาด และคลาวด์

หนึ่งในแนวทางที่สตาร์ทอัพสามารถนำไปใช้เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้ คือประเมินว่าได้ใช้บริการคลาวด์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดหรือไม่

บริการจาก AWS ที่ช่วยซัพพอร์ตเรื่องนี้ได้ คือเครื่องมือที่ชื่อTrusted Advisor” ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายลง แต่เพิ่มประสิทธิภาพ และปรับปรุงความปลอดภัย รวมถึงให้คำแนะนำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งช่วยให้สตาร์ทอัพลดค่าใช้จ่ายในเรื่องคลาวด์ได้มากถึง 40%

ตัวอย่างของสตาร์ทอัพที่ได้ประโยชน์จากเครื่องมือนี้ คือ iMerit Technology สตาร์ทอัพด้าน AI ของอินเดีย ที่มีการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าทุกปีในช่วงห้าปีที่ผ่านมา

ด้วยการใช้ Cloud Financial Management ของ AWS วิเคราะห์การใช้จ่ายบนระบบคลาวด์ เพื่อปรับขนาดการใช้บริการให้เหมาะสม จนลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ถึง 20% ต่อเดือน

 

2️⃣

การเพิ่มทักษะเพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน

นอกจากการลดค่าใช้จ่าย การเพิ่มทักษะสำคัญก็เป็นอีกแนวทางในการอยู่รอดของสตาร์ทอัพ

AWS Skill Builder มีหลักสูตรฟรีกว่า 500 หลักสูตร เพื่อเพิ่มทักษะและความรู้ด้านระบบคลาวด์ ซึ่งสอดคล้องวัฒนธรรมแบบสตาร์ทอัพที่มุ่งเน้นการเติบโต

หนึ่งในแนวทางของ AWS ในการช่วยให้ลูกค้าเติบโต คือการแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรมของAmazon ซึ่งเรียกกันติดปากว่า “every day being Day 1

Bizzi บริษัทบัญชีจากเวียดนามที่ขับเคลื่อนด้วย AI คือตัวอย่างของการเรียนรู้เพื่อเติบโต เพราะถึงจะเพิ่งเริ่มต้นตอนช่วงปลายปี 2021 แต่สามารถขยายทีมเพิ่มเป็นสองเท่าในทุกปีต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน

หนึ่งในเหตุผลสำคัญ คือ Bizzi ให้ความสำคัญกับเรื่องคนเป็นอันดับแรก เพื่อวางรากฐานทางวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งด้วยการนำวิธี “Two Pizza Team” หรือการจำกัดจำนวนพนักงานในแต่ละโปรเจกต์ไปใช้

นำไปสู่ความคล่องตัว และให้อำนาจคนทำงานในการสร้างผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ใหม่ ที่เป็นนวัตกรรมออกสู่ตลาด

 

3️⃣

โฟกัสที่ไอเดียและโอกาส

คุณกอราฟ เชื่อว่าถึงตอนนี้ นักลงทุนบางส่วนจะยังกังวล และยึดแนวทางเดิม

แต่ AWS กลับมองว่าช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน อย่าง Tech Winter อาจเป็นโอกาสดีในการเปิดตัวและขยายธุรกิจสตาร์ทอัพ

เพราะโอกาสที่ไอเดียดี จากผู้ประกอบการ จะได้รับเงินลงทุนนั้น มีอยู่เสมอ

ขณะที่ AWS ก็พร้อมสนับสนุนสตาร์ทอัพในการสร้างนวัตกรรม เพื่อแก้ปัญหาสำคัญ ต่อไป และกำลังรอที่จะได้เห็นไอเดียที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นในช่วงเวลาแบบนี้

 

AHEAD ASIA นวัตกรรม ล้ำหน้า

Subscribe to Our Newsletter

Loading
Total
0
Shares
Previous Article
Twitter

มัสก์ ยังเฉย ไม่ยืนยันเลิกเป็นซีอีโอ Twitter หลังเสียงส่วนใหญ่ให้วางมือ

Next Article
Alameda

อดีตซีอีโอ Alameda รับสารภาพแล้ว อัยการเผยโทษจำคุกสูงสุด 110 ปี

Related Posts