Krungsri Finnovate เผย ปี 2566 เตรียมเงินลงทุนในสตาร์ทอัพ กว่า 1,350 ล้านบาท พร้อมวางแผนจัดตั้งกองทุนใหม่มุ่งเป้าผลักดันกลุ่ม Pre Series A สู่ Series A เต็มสูบ
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสตาร์ทอัพของปี 66 นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัดกล่าวว่า จะคล้ายกับปี 65
คือเน้นสตาร์ทอัพที่สามารถต่อยอดธุรกิจกับทางธนาคารและกลุ่มพันธมิตร มีแผนสร้างผลกำไรได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว
ประเภทธุรกิจที่น่าสนใจ จะเป็นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีที่เติบโตตามเทรนด์ของโลก อย่าง
(1) สาย Decentralized Finance หรือในกลุ่มของ Blockchain จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
(2) กลุ่มของ Metaverse หลายคนให้ความสนใจว่าต่อไปเราจะไปอยู่ในโลกเสมือนได้อย่างไร และแต่ละแบรนด์จะสามารถเปลี่ยนช่องทางการตลาดไปอยู่ในช่องทาง Metaverse ได้อย่างไร
(3) Cyber Security เป็นเรื่องที่น่าสนใจเพราะเหตุการณ์การแฮกหรือถูกแฮกในปัจจุบันนั้นเกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในเรื่องของกลุ่มสินทรัพย์ดิจิทัล ดังนั้น Cyber Security จึงสำคัญอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน
(4) ESG-Tech, Climate Tech, SustainabilityTech กำลังอยู่ในกระแส และเป็นกลุ่มที่มาแรงใกล้เคียงกับ FinTech มากๆ เพราะเป็นกลุ่มที่หลายๆ องค์กร และสถาบันการเงินให้ความสนใจ
(5) Buy Now Pay Later เทรนด์นี้เป็นเทรนด์ทั่วโลก แต่ประเทศไทยไม่ได้ตื่นเต้นกับเทรนด์นี้มากนัก
(6) Ultrafast Delivery ในสหรัฐอเมริการมาแรงมาก สั่งปุ๊บส่งปั๊บภายใน 15 นาที ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่
นายแซม ตันสกุล เสริมต่อว่า ปัจจุบัน ไทยยังถือว่าขาดแคลนสตาร์ทอัพที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะกลุ่มที่สามารถอยู่รอดได้จนถึงระดับ Series A
ทาง Krungsri Finnovate จึงวางแผนสนับสนุนสตาร์ทอัพในช่วง Early Stage ให้เติบโตและอยู่รอด จนทำ IPO ได้โดยจะสนับสนุนทั้งในด้านเงินทุนและการให้คำปรึกษา
รวมถึงแผนจัดตั้ง Accelerator Program ช่วยบ่มเพาะและติดสปีดสตาร์ทอัพกลุ่มนี้ เพื่อเตรียมพร้อมก้าวสู่ Series A อย่างมีประสิทธิภาพ
แผนดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างศึกษา และต้องเป็นไปตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะอัปเดตความคืบหน้าอีกครั้งในช่วงต้นปี 66 นี้
ส่วนการลงทุนในกองทุน Finnoventure Private Equity Trust I และ Finnoverse Fund จะยังเดินหน้าต่อไป โดยตั้งเป้ามี Startup ในพอร์ตของ Finnoventure ถึง 30 บริษัท พร้อมขยายการลงทุนไปยัง เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
