คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager, AWS ประจำประเทศไทย เผยถึงทิศทางธุรกิจในปี 2566 ในการขยายอีโคซิสเต็มออกไป ทั้งเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีอัตราการใช้คลาวด์สูงขึ้น สร้างและขยาย Partner กับ reseller ต่าง ๆ รวมถึงแผนลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ที่สุด กว่า 190,000 ล้านบาท
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เกิดการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลอย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาคอาเซียน ทำให้องค์กรต่าง ๆ ในไทย เริ่มหันมาใช้ระบบคลาวด์ เพื่อความคล่องตัวทางธุรกิจที่มากขึ้น
จากข้อมูลของธนาคารโลก แม้เศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มเติบโตช้าลงในปี 2566 เนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลก
แต่ค่าใช้จ่ายในการใช้บริการคลาวด์สาธารณะของไทย กลับเพิ่มขึ้น 31.8% จาก 41.3 ล้านบาทในปี 2565 เป็น 54.4 ล้านบาทในปี 2566 เทียบกับอัตราการเติบโตทั่วโลกซึ่งอยู่ที่ 20.7%
AWS พร้อมสนับสนุนลูกค้าในการใช้ประโยชน์จากคลาวด์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อสร้างนวัตกรรม ลดค่าใช้จ่าย และเปิดตลาดให้ธุรกิจของไทยไปสู่ระดับภูมิภาคและระดับโลก
สำหรับทิศทางธุรกิจในปีนี้ จะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าที่คาดว่าจะมีอัตราการใช้คลาวด์เติบโตสูง คือกลุ่มธุรกิจการเงิน ธุรกิจค้าปลีก และอุตสาหกรรมการผลิต
นอกจากนี้ จะเพิ่มจำนวน Partner และทีมงานในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ถัดจาก บริษัทเอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น ประเทศไทย จำกัด มหาชน (SiS) เพื่อส่งเสริมการเติบโตด้านดิจิทัลโดยการขยายฐานคู่ค้าและตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย
ในปีนี้ SiS จะสนับสนุน reseller ในการสร้าง Solution Packages สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เว็บไซต์ การสำรองข้อมูล การย้ายข้อมูล และ VDI รวมถึงการสนับสนุนเพื่อขับเคลื่อนกิจกรรม ผ่านการสัมมนา ผ่านเว็บไซต์ และการมีส่วนร่วมกับลูกค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน และเพิ่มลูกค้าใหม่ในกลุ่ม SMB
เร็ว ๆ นี้ AWS ได้ประกาศแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่ในประเทศไทย AWS Asia Pacific (Bangkok) Region ระยะเวลา 15 ปีมูลค่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 190,000 ล้านบาท) ถือเป็นการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังเตรียมเพิ่มบริการด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์มายังประเทศไทยด้วย AWS Local Zone แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัว Local Zones ใหม่ 10 แห่งทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและญี่ปุ่น (APJ) เพื่อให้ลูกค้าในประเทศไทยสามารถมอบประสิทธิภาพความเร็วในหลักหน่วยมิลลิวินาที (single-digit millisecond) แก่ผู้ใช้ปลายทางได้
นอกจากด้านบริการและโครงสร้างพื้นฐานแล้ว ยังพร้อมร่วมแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านดิจิทัล โดยได้เริ่มฝึกอบรมบุคลากรกว่ากว่า 700,000 คนทั่วอาเซียนด้วยทักษะด้านระบบคลาวด์ตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งจะนำไปสู่การปลดล็อกศักยภาพทางเศรษฐกิจเต็มรูปแบบของภูมิภาค
AHEAD ASIA นวัตกรรม ล้ำหน้า