ข้อมูลจากเอกสารภายใน ระบุนับแต่ อีลอน มัสก์ เทกโอเวอร์กิจการ Twitter มีการปลดพนักงานแล้วกว่า 80% พร้อมดึงคนจากบริษัทอื่น ๆ ของตนมาช่วยงานด้วย
ในเอกสารดังกล่าว ซึ่งถูกนำมาเผยแพร่บนแพลตฟอร์มโดยกลุ่มคนที่ไม่เปิดเผยตัว ระบุว่าปัจจุบันพนักงานแบบฟูลไทม์ของบริษัทฯ เหลืออยู่ประมาณ 1,300 คน หรือ 20% จาก 7,500 คน ในจำนวนนี้เป็นเอ็นจิเนียร์ประมาณ 550 คน ซึ่งมีราว 40 คนอยู่ในช่วงลางาน
ส่วนทีมที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยของยูสเซอร์ และให้คำแนะนำต่าง ๆ ถูกลดจำนวนเหลือไม่ถึง 20 คนแล้ว
ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมว่ายังมีพนักงานราว 1,400 คนที่ได้รับค่าจ้าง แต่ปฏิเสธจะกลับมาทำงาน หลังยื่นใบลาออก เพราะไม่ต้องการทำงานตามตารางเวลาใหม่ที่ มัสก์ ต้องการ
อดีตเอ็นจิเนียร์ของ Twitter ซึ่งปฏิเสธจะเปิดเผยตัว อธิบายว่าการลดจำนวนพนักงานจำนวนมาก จะส่งผลต่อมาตรฐานในการให้บริการ และการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ
เพราะโค้ดเบสของตัวแพลตฟอร์มมีขนาดใหญ่ และต้องใช้ความเชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขามาทำงานร่วมกัน และจะยิ่งยากในการเทรนคนใหม่มาทดแทนในเวลาอันสั้น ในกรณีที่เสียพนักงานหลัก ๆ ไป
มัสก์ ปฏิเสธข้อมูลเหล่านี้ที่ CNBC รวบรวมไว้ พร้อมชี้แจงว่าปัจจุบัน Twitter มีพนักงานแบบฟูลไทม์ทั้งสิ้น 2,300 คน และพนักงานสัญญาจ้างอีกหลายพันคน
นอกจากนี้ ยังดึงพนักงานจากบริษัทอื่น ๆ ที่ มัสก์ ดูแล เช่น Tesla, SpaceX และThe Boring Company ราว 130 คนมาช่วยงานที่นี่ด้วย
Twitter ไม่ใช่บริษัทด้านเทคโนโลยีรายเดียวที่ปลดพนักงานออกเป็นจำนวนมาก หลัง มัสก์ ยอมรับว่าบริษัทฯ มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง ทั้งจากรายได้ที่ลดลง และค่าใช้จ่ายที่สูงเกินความเป็นจริง
ในเวลาไล่เลี่ยกัน Meta ยักษ์ใหญ่ในวงการโซเชียล ก็ปลดพนักงานแล้วกว่า 12,000 คน
ขณะที่ Amazon ก็ทยอยปลดพนักงานอย่างต่อเนื่อง รวมแล้วกว่า 18,000 คน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Microsoft เพิ่งประกาศปลดพนักงานออก 10,000 คน หรือคิดเป็น 5% ของทั้งหมด และล่าสุด Google ก็เผยแผนลดจำนวนพนักงานลง 12,000 คน
Source : CNBC
AHEAD ASIA นวัตกรรม ล้ำหน้า