อีลอน มัสก์ และ สตีฟ วอซเนียค เรียกร้องให้บรรดาผู้พัฒนาหยุดพักการพัฒนา AI อย่างน้อยหกเดือน เพราะเกรงว่าเทคโนโลยีนี้จะย้อนกลับมาสร้างปัญหาให้สังคม
ความนิยมใน AI พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จากความสำเร็จของ ChatGPT จาก OpenAI
แต่เรื่องนี้ก็สร้างความกังวลให้กับผู้ที่อยู่ในแวดวงเทคโนโลยีเช่นกัน และเมื่อวันพุธที่ 29 มี.ค. ก็มีจดหมายเปิดผนึกจาก Future Life Institute (FLI) ที่ลงนามโดยบุคคลในวงการนี้ อาทิ มัสก์, วอซเนียค และ แอนดรูว์ หยาง หนึ่งในผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดี 2020 เรียกร้องให้หยุดพัฒนา AI ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า GPT-4
พร้อมเสนอว่าหากผู้พัฒนาเพิกเฉยคำร้องนี้ หน่วยงานรัฐก็ควรแสดงบทบาท
ในจดหมายเปิดผนึก ชี้แจงเหตุผลในการทักท้วงครั้งนี้ ว่าความก้าวหน้าที่เร็วเกินไปของ AI ไม่เพียงแต่จะกระทบกับหน้าที่การงานของมนุษย์ที่ปรับตัวไม่ทัน
แต่การเทรนด้วยข้อมูลมหาศาลในโลกออนไลน์ซึ่งไม่ผ่านการคัดกรอง ยังมีโอกาสที่ AI เหล่านี้จะให้ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง หรือนำเสนอโฆษณาชวนเชื่อแก่ผู้คนด้วย
ในเนื้อหายังมีการตั้งคำถามถึงความเสี่ยงที่มนุษย์จะสูญเสียความสามารถในการควบคุมอารยธรรมของตนไป
และทิ้งท้ายว่าการตัดสินใจที่ส่งผลสำคัญต่อมนุษยชาติ ไม่ควรถูกกำหนดโดยคนบางกลุ่มในแวดวงเทคโนโลยี ซึ่งไม่ได้มาจากการคัดเลือกใด ๆ
ด้าน OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT ไม่ได้ให้ความเห็นใด ๆ เพิ่มเติมสำหรับกรณีนี้
FLI เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร ที่ก่อตั้งขึ้นโดย แม็กซ์ เทกมาร์ค แห่ง MIT และ ยานน์ ทัลลินน์ จาก Skype เพื่อรณรงค์ให้ผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ คำนึงถึงจริยธรรม และบทบาทต่อสังคม
Source : CNBC
AHEAD ASIA นวัตกรรม ล้ำหน้า