NTT เผยแม้ 90% ขององค์กรทั่วโลกมองว่า การทำงานแบบไฮบริด และ รีโมทเวิร์ก จะส่งผลดีต่อการดำเนินงาน แต่กลับมีเพียง 48% ที่พร้อมสนับสนุนเทคโนโลยีการทำงานเหล่านี้
ข้อมูลดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งจากรายงานแนวโน้มประสบการณ์ของพนักงานทั่วโลกประจำปี 2023 (2023 Global Employee Experience Trends Report) ของ เอ็นทีที (NTT Ltd.) เพื่อสำรวจ ว่าพัฒนาการของสถานที่ทำงานในปัจจุบัน จะมีส่วนต่อยอดกลยุทธ์ EX และยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างผลการดำเนินธุรกิจและ EX ได้อย่างไร
ปัจจุบัน หลายองค์กรนำแนวทางการทำงานที่มีโครงสร้างมากขึ้นมาใช้ โดยมีพนักงานทำงานแบบไฮบริด ประมาณ 56% ทั่วโลก (เอเชียแปซิฟิก 58%) ใช้เวลาครึ่งหนึ่งของสัปดาห์ ทำงานที่สำนักงาน
แต่กลับมีเพียง 48% ทั่วโลก และ 51% ในเอเชียแปซิฟิก ที่เปิดโอกาสให้พนักงานเข้าถึงเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งจากที่บ้านและในที่ทำงาน
และมีเพียง 25% ของกลุ่มผู้บริหาร (เอเชียแปซิฟิก 44%) ที่พอใจกับความสามารถขององค์กรในการสร้างประสบการณ์ให้กับพนักงาน (EX)
รายงานฉบับเดียวกัน ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กลุ่มบริษัทชั้นนำศักยภาพสูง ที่มีการลงทุนด้านไอทีและเทคโนโลยี EX แบบครบวงจร จะมีแนวโน้มเติบโตมากกว่า 56% เมื่อเทียบกับกลุ่มซึ่งมีศักยภาพต่ำกว่า ด้วย
อามิท ธินกรา รองประธานบริหารฝ่ายบริการเครือข่ายของ NTT ให้มุมมองเพิ่มเติมว่า ความต้องการของพนักงาน กับข้อกำหนดทางธุรกิจ ยังคงมีนัยสำคัญสำหรับการทำงานแบบไฮบริด
การปรับปรุง EX จึงยังเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อพนักงานรู้สึกพอใจและมีส่วนร่วมกับองค์กร ก็จะยกระดับการให้บริการได้มากถึง 66%
รายงานฉบับเดียวกัน เสริมว่า AI ยังเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อการสร้างประสบการณ์ลูกค้า (CX) และประสบการณ์พนักงาน (EX) นอกเหนือจากการทำงานแบบไฮบริด
และจะก้าวขึ้นมาเป็นบรรทัดฐานของ 4 ใน 5 องค์กรภายใน 12 เดือนจากนี้ แม้ 87% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ยังเชื่อว่า มนุษย์ จะยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าต่อไป
อ่านรายงานฉบับเต็ม ที่นี่
AHEAD ASIA นวัตกรรม ล้ำหน้า